ชอบเป็ดหมี่หยก แต่ไม่ชอบน้ำจิ้ม

ของผมถ้าครอบครัวกลับมาก็ต้องกินอย่างน้อยปีละครั้ง ส่วนตัวผมน้ำจิ้มครึ่งถ้วยยังเหลือ มันเค็ม แต่กับพ่อแม่ ถ้วยใหญ่ยังไม่พอ

MK นี่พวกวัตถุดิบถือว่าดี สะอาด ปลอดภัย

คืออย่างไปกินตี๋น้อย คือกินไม่ได้จริงๆ ทั้งไม่อร่อย วัตถุดิบไม่สะอาด

กินปลาก็คาวจนจะอ้วก ขนาดว่าไปลองมาหลายทีแล้ว หลายสาขาก็แล้ว ยังไม่ไหวจริง

ความสุขในการกินบางทีมันก็ไม่ใช่แค่รสชาติอาหารครับ

คนแก่คนสูงอายุรุ่นพ่อแม่เราส่วนใหญ่เขาอยากได้ความสะดวกสบายในการกิน และการบริการที่ดีครับ
ซึ่ง MK ตรงนี้ทำได้ดีกว่าหลายๆร้านมาก
ร้านค่อนข้างเงียบ มีความเป็นส่วนตัว สถานที่สะอาดสว่าง ที่นั่งโอเค พนักงานบริการดี
พวกนี้ก็เป็นการเสพประสบการณ์การกินอย่างนึง

เหมือนสมัยก่อนสัก 10-15 ปีที่แล้ว ที่บุฟเฟต์นอกห้องอาหารโรงแรมเริ่มแพร่หลาย
แล้วชอบมีคนเอาไปเทียบกับบุฟเฟต์ห้องอาหารในโรงแรมน่ะแหละว่าในโรงแรมแพงไม่คุ้ม
แต่มันมีเรื่องสถานที่และการบริการที่แตกต่างกันอยู่ด้วย

บางคนอาจจะบอกเฮ้ยผมไม่สน ขอแค่อาหารอร่อยก็พอ ที่นั่งจะกากหน่อย เสียงดังอึกทักหน่อย พนักงานหน้าบูดคุยไม่ค่อยรู้เรื่องหน่อยไม่เป็นไร ก็โอเคครับ ดีแล้วที่คุณสามารถไปกินร้านอื่นที่คุ้มเงิน (ในด้านรสชาติอาหาร/ค่าใช้จ่าย) มากกว่า MK ได้

สรุปจากของท่านก็คือ

เซฟโซน รสชาติที่คุ้นเคย นั่นแหละ

เซฟโซนที่นี้คือพวก บรรยากาศร้าน คุณภาพบริการ รสชาติคุ้นเคย เป็ดเอย น้ำชา น้ำจิ้ม

เหมือนกินอาหารตามสั่งร้านเดิมๆ

ของผม ตจว. มีร้านชาบู local อร่อยกว่า mk เยอะครับเนื้อหมู เนื้อวัว น้ำจิ้ม ถูกจริตผมหมดเลย

MK เค้ามีจุดขายตอนนี้คือบรรยากาศครอบครัวครับ แบบที่หลายท่านบอกว่าคนสูงอายุชอบไปทานเพราะคุ้นชิน คนที่กินไม่เยอะก็อิ่มเค้ามองการกินที่นี่เป็นสุนทรีย์ภาพไมไ่ด้มองถึงความคุ้มในด้านปริมาณคุณภาพกับราคา แต่มองว่าพาครอบครัวมาหาความสุขกินกันพร้อมหน้าพร้อมตาในห้องแอร์เย็น ๆ ครับ

แต่น้ำชาอร่อยขึ้นจริงครับเวลากิน MK

อร่อยแน่นอนไม่ต้องลุ้น รสชาติที่คุ้นเคย

อีกอย่างเลยคือถ้าไปแบบครอบครัว mk กับ babigon จะถูกกว่าบุฟเฟ่ครับ
เมื่อหารต่อหัว และวัตถประสงค์การกินแบบครอบครัว ไม่ได้กะมากินเอาคุ้ม
มากินเอาสบายใจ สบายตัว

แพง ชห กว่าจะอิ่มล่อเป็นพัน บุฟเฟ่โลด