เมาริซิโอ้ ปอเช็ตติโน่ นายใหญ่เชลซี ออกมาปราม โนนี่ มาดูเอเก้ หลังปีกดาวรุ่งให้สัมภาษณ์ปกป้อง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง โดยตอบโต้แฟนบอล "สิงห์บลูส์" ที่โห่ใส่รุ่นพี่ชาวอังกฤษของเขา

ประเด็นหลังเกมเอฟเอ คัพ ที่เชลซี เอาชนะเลสเตอร์ 4-2 คือ สเตอร์ลิ่ง พลาดจุดโทษ และมีจังหวะที่เขายิงฟรีคิกส่งบอลโด่งไปบนอัฒจันทร์แบบไม่ได้ลุ้น ซึ่งแฟน ๆ เชลซีส่งเสียงโห่ในเหตุการณ์ดังกล่าว

มาดูเอเก้ ที่เป็นตัวสำรองในนัดนั้นและทำประตูได้ ตัดสินใจต่อต้านแฟนบอลที่ส่งเสียงโห่ใส่สเตอร์ลิ่ง โดยมีใจความว่า: "มันสำคัญมาก (ที่จะต้องซัพพอร์ตเขา) ผมไม่ใช่คนที่จะบอกว่าพวกคุณต้องไม่แสดงความคิดเห็น แต่ผมก็มีความคิดเห็นของผมเองเหมือนกัน"

"เขาเป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมทีมของผม และเสียงวิจารณ์ที่เกิดขึ้นมันรุนแรงและไม่ยุติธรรม มันคือหน้าที่ของเราในการแสดงความคิดเห็นและเปลี่ยนแปลงการเล่าเรื่องสักนิดหน่อย ราฮีม เป็นนักฟุตบอลที่วิเศษและเขาก็เป็นคนที่ดียิ่งไปกว่านั้นอีก ก็เป็นเรื่องน่าผิดหวังนะที่ผมได้เห็นเสียงวิจารณ์บางอย่าง"

ด้าน ปอเช็ตติโน่ ที่ได้ปกป้อง สเตอร์ลิ่ง หลังเกมดังกล่าว ล่าสุดออกมาให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวก่อนเกมสุดสัปดาห์นี้ โดยเตือน มาดูเอเก้ ว่าอาจจะต้องระมัดระวังเรื่องการตำหนิแฟนบอล

"ตอนนี้มันเป็นเรื่องของการใจเย็นและยอมรับสถานการณ์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรับมือกับสถานการณ์นี้ด้วยประสบการณ์ของเรา และราฮีมก็เป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์มาก ๆ สิ่งที่เราไม่สามารถทำได้คือการทำให้เรื่องมันใหญ่ขึ้นด้วยอารมณ์ของพวกเรา"

"ผมเชื่อจริง ๆ ว่าแฟนบอลของเรารักนักเตะของเรา และแน่นอนว่าพวกเขาจะให้กำลังใจ ราฮีม รวมทั้งผลการแข่งขันของทีม เพื่อนร่วมทีมจำเป็นต้องเป็นเพื่อนร่วมทีมที่ดี และนักเตะก็สามารถพูดและแสดงอารมณ์รวมทั้งความคิดเห็นของพวกเขาได้"

"แต่ผมคิดว่าเราต้องระมัดระวังกับแนวทางการพูดและการแสดงความคิดเห็นของเรา เพราะเราจำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งร่วมกับทุกคน"

"ผมให้สัมภาษณ์หลังจบเกม (กับเลสเตอร์) ว่าผมไม่เห็นด้วยกับการโห่ เพราะนักเตะอยากทำผลงานที่ดีและยิงประตูอยู่แล้ว ผมเองก็ต้องประสบกับความเดือดดาลของแฟนบอลเพราะความผิดหวัง ทุกคนในทีมต่างเจ็บปวด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ราฮีม เป็นนักเตะที่มีประสบการณ์ ดังนั้นแน่นอนว่าเขาเข้าใจดี"

"ฟังนะ ตอนนี้เราจำเป็นต้องมูฟออนและช่วยปกป้องนักเตะ นั่นคือความรับผิดชอบของเรา ส่วนนักเตะต้องทำความเข้าใจว่าพวกเขาจำเป็นต้องแสดงความพยายาม เพื่อจะโน้มน้าวแฟนบอลว่าเรากำลังอยู่ในเส้นทางที่ดี"

"นักเตะจำเป็นต้องรักแฟนบอล และแฟนบอลก็จำเป็นต้องรักนักเตะ นี่คือสายสัมพันธ์ที่เราจำเป็นต้องสร้างขึ้นมา เพราะมิเช่นนั้นแล้วทุกคนจะเป็นฝ่ายแพ้ นั่นคือเหตุผลที่เราต้องระมัดระวังกับแนวทางที่เราพูดคุยเกี่ยวกับความคิดเห็นและอารมณ์ของพวกเรา"

ดูทรงจบฤดูกาลน่าจะได้ไปทั้งคู่ ไม่มีใครเค้าด่ามั่วซั่วหรอก เค้าไม่ได้ด่า ไม่ได้โห่จากผลงานนัดเดียว
เค้าอดทนมาหลายต่อหลายนัดละ แต่ก็เล่นกันเหมือนเดิม เห็นแก่ตัว สมควรโดนโห่แล้ว

จบฤดูกาลก็ไปด้วยกันก็ได้นะ ไม่ต้องห่วงทางนี้ พอช ริ่ง โนนี่

เค้าโห่เรื่องความเห็นแก่ตัวของสเตอร์ลิ่ง อยากทำผลงานคุณต้องให้ทีมได้ประโยชน์สูงสุดสิ ไม่ใช่ว่าคุณยิง 2ลูก คุณติดทีมชาติ แต่สุดท้ายทีมแพ้ ทั้งๆที่ในเกมมีหลายลูกที่คุณทำพลาดแบบไม่น่าให้อภัย แฟนบอลจะได้อะไรอะ แล้วป๊อดนี่มาพูดเรื่องนี้รอบที่สองแล้ว ที่ไม่พูดให้ตรงประเด็นนี่คือพยายามไม่ตำหนิลูกทีมออกสื่อ หรือไม่เข้าใจที่แฟนบอลสื่อ ไม่เห็นแก้ให้สักที

อยากให้แฟนบอลในสนามด่าแรชบ้างจังครับ เอาให้น้อยใจขอย้ายเลยยิ่งดั

ไอ้พวกที่โห่ นี่แหละ ที่มันยอมเสียเงินค่าตั๋ว เข้าไปดู พวกเอ็งเตะบอล คนไหนเล่นไม่ดี เล่นเห็นแก่ตัว ไม่ยึดผลประโยชน์ทีมเป็นหลัก โดยเฉพาะเสี่ยริ่งเนี่ย เพื่อนว่างไม่ส่ง แต่เลือกยิงทิ้งยิงขว้าง ยิงจุดโทษห่วยแตก แต่อาศัยความเป็นรุ่นพี่ไปขอบอลจากรุ่นน้องมายิงจุดโทษ แล้วก็พลาด แฟนบอลเค้าก็ต้องมีสิทธิโห่ มีสิทธิตำหนิไอ้ริ่งได้สิ...

ก้มหน้าก้มตาทำผลงานให้มันดีเถอะ อย่าพูดเยอะเลย เดี่ยวแฟนบอลซัพพอร์ตเอง

แฟนบอลซื้อตั๋วเข้าไปดูในสนาม มีสิทธิ์ที่จะแสดงความรู้สึกออกมาอยู่แล้ว

ไม่ว่าโค้ชหรือนักเตะเชลซีที่พาทีมประสบความสำเร็จได้ แฟนเชลซีรักกันจะตาย

ไม่เห็นจำเป็นต้องออกมาทะเลาะกับแฟนบอล

เล่นสไตล์เดียวกันเลย ไปทั้งคู่อ่ะ จะไปเก่งที่ไหนก็ตามสบายแต่อยู่ที่นี่เล่นแบบนี้ ทำตัวแบบนี้ ไปเหอะ ต่อให้จะไปแล้วเหมือน ซาล่า หรือ KDB ก็คงไม่เสียดายเท่าไร เพราะอยู่ต่อก็คงยากมากที่จะดีขึ้น

ไปทั้งคู่เลย ไอเก้ ไอลิ่ง

เรด้าร์หันไปด่านักเตะ ยิ่งเข้าทางไอป๊อด ให้มันมาสัมภาษณ์หล่อๆ ให้ได้ใจนักเตะ เพื่อเซฟตัวมันไปอีก ใจความสำคัญคือ "ผมเองก็ต้องประสบกับความเดือดดาลของแฟนบอลเพราะความผิดหวัง" อารมณ์การโดนด่าเป็นเรื่องปกติ แต่ใจจริงๆคือกุไม่สมควรโดนด่า กุไม่ได้ผิด และกุก็โดนด้วย แฟนบอลทำไปเพราะมีอารมณ์ แพ้4 ชนะ 1 ก็เป็นการเอาชัยชนะยัดหน้าให้มันหุบปากแล้ว แล้วเกมต่อๆไปค่อยกลับไปแพ้ใหม่ แม่งไม่สำเหนียกตัวเองหรอก

ทำให้นักเตะไปเห่อหมอยตามบอสมัน แทนที่จะฟังเสียงจากแฟนบอลจริงๆ