เอาอะไรมาล้นตลาด

เหอะๆ
บ้านนอกนี้หาหมอยากจะตาย
มีเวลาให้คนไข้ไม่ถึง5นาทีต่อคน

หมายถึงหมอแบบไหนอะครับ

ถ้าหมายถึงหมอตาม รพ ที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ หมอแบบเป็นหมอจริงๆที่ช่วยไม่ให้คนตายได้

ถ้าหมายถึงหมอแบบนี้ก็น้อยมากๆครับ ไม่มีใครอยากเป็นแล้ว ภาระงานหนัก เงินได้หลายหมื่นแต่เทียบกับเนื้องานคือไม่ได้คุ้ม คนไข้กับญาติก็ปากหมา ใครจะอยากไปอยู่ ลาออกไปฉีดสิวสบายกว่าถมเถ

คือต่อให้หมอเยอะจริง แต่หมอเก่งๆมีน้อยอ่ะ ตราบใดที่หมอในไทยส่วนใหญ่เอะอะก้อจ่ายแต่ยาฆ่าเชื้อ แก้อักเสบ เป็นหวัดก้อต้องดมยา กินยาปฎิชีวนะ ไม่ต้องมีก้อได้นะหมอ โครตมักง่ายเลยเอาจริงๆ

ผมคิดว่า "จำนวนหมอ" เพียงพอ แต่จำนวนหมอ "ที่ทำใน รพ.รัฐ" ไม่เพียงพอ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รพ.รัฐต่างจังหวัด ที่ไม่ได้มีแรงจูงใจอะไรให้เค้าไปอยู่เลย

บางทีมีหมอคนเดียวทั้ง รพ. คิดดูว่าเคสจะเยอะขนาดไหน ถ้าผมเป็นหมอ ผมก็ไม่ไปครับ

อยู่ใน กทม ปริมณฑล ดีกว่า

และไม่ใช่หมอทุกคน จะอยากอยู่ รพ.รัฐ ที่ work life balace เชี่ยมากๆ

อันนี้ต้องโทษที่ระบบ

ถ้าบอกว่าหมอไม่พอ ลองเอาหมอในจังหวัดนั้นๆทั้งหมดบวกกันดู ทั้งหมอตามคลินิกความงาม หมอคลินิกโรคเฉพาะทาง ผมว่าสบาย

หมอขาดแคลนอยู่นะ ดูจากช่วงโควิดก็ได้ว่าขาดแค่ไหน ส่วนคลีนิค ส่วนใหญ่เปิดแค่ช่วงเย็น เพิ่มความสะดวกใ้ห้คนไข้ที่เป็นอาการทั่วไปไม่ต้องไปรอคิวที่โรงพยาบาล

ส่วนร้านยา ถ้าเอาแบบเภสัชประจำจริงๆตลอดที่ร้านเปิด เกินครึ่งไม่น่าจะมีประจำ

ล้นตลาดเอกชน ส่วนรัฐขาดแคลน แถมไม่มีตำแหน่งให้อีก ใครจะมาอยู่

แต่ใดๆก็ถือเป็นอาชีพที่จบมาแล้วไม่ตกงานแน่ๆถ้าทนระบบรัฐได้

หมอในไทยมีราวๆ 7หมื่นคน อยู่ในกทม.เกินครึ่ง ต่างจังหวัดอีก 76 จังหวัดมีแค่ครึ่งเดียว ยังไม่นับว่าไปเปิดคลีนิคหรือทำรพ.เอกชนอีกนะ

คิดเอาว่าจะเพียงพอต่อคนไข้ไหม ในกทม. ไปรพ.รัฐ หรือใช้ปกส.ในรพ.เอกชนยังต้องรอคิวค่อนข้างนาน
แล้วนึกถึงรพ.ต่างจังหวัดที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้มีเงินไปคลีนิคหรือรพ.เอกชนมากนักสิ ไปแต่ละครั้งทั้งรอนาน ทั้งหมอมีเวลาให้ไม่ถึงวันละ 5 นาที

เมียผมเคยป่วยตอนกลับไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัดครั้งนึง เข้ารพ.รัฐแต่จองห้องพิเศษ วันนึงเข้าห้องน้ำอยู่ตอนเช้าหมอมาพอดี
ปรากฎหมอรอไม่ได้นะนะบอกว่ารอตรวจวันพรุ่งนี้เลย นี่ขนาดห้องพิเศษวันเป็นพันนะ


อันที่จริงเอกชนก็ไม่น่าเรียกว่าล้นตลาดได้นะ เพราะเค้ามีตลาดของเค้าอยู่
อัตราส่วน 1:1000 มันคือของประชากรทั้งประเทศ แต่เอกชนจะมาใช้เรทเดียวกันไม่ได้หรอก เพราะเค้าต้องให้เวลาต่อคนไข้มากกว่า จะมาเดินตรวจ 1 ชั่วโมง 20 เคสไม่ได้หรอก
แล้วเค้าก็ยังสามารถเก็บค่าบริการราคาสูงพอจะคัฟเวอร์ค่าจ้างบุคลากรได้อยู่ กลุ่มลูกค้าของเค้าที่ส่วนมากมีฐานะก็ยังพร้อมจ่ายได้อยู่ มันยังไม่ถึงจุดที่ต้องมาตัดราคาหาลูกค้า

ใช่ครับ มีญาติอยู่วงการแพทย์รัฐ เงินก็น้อย หลังๆกว่าจะบรรจุก็นาน ระบบแย่ คุณภาพชีวิตแย่

หมอไม่มีวันล้นเพราะต่อให้ผลิตออกมาเพิ่ม 10 เท่า จำนวนหมอที่เก่งและใช้งานได้มีไม่ถึง 20% ที่เหลือก็คุณภาพพอๆกับหมอเดา

เอาที่ยกตัวอย่างมา ก็ไม่ล้นละครับ เอาอะไรมาล้น 555
เปิดคลินิก ไม่ผูกขาด ไม่สามารถทำกากๆ ได้แบบสมัยรุ่นพ่อมากกว่า ไม่ได้รวยเงินเรื่อยๆ มากว้านซื้อตึก ซื้อที่เล่นๆไปเรื่อยได้เหมือนเมื่อก่อน

สมัยก่อนจบหมอ GP รักษาทุกโรค ทำได้หมด ตรวจตา ผ่าตัด ทำคลอด ราคาที่คิดเทียบค่าครองชีพตอนนั้นยิ่งรวยเลย ตอนนี้ไม่ได้แล้ว ก็มาเปิดแยกย่อยกันไปแต่ละสาขากันไป ไม่เชี่ยวชาญก็ไม่สามารถรักษาได้ ค่ารักษาก็มีคู่แข่งเยอะขึ้น รพ.รัฐคลินิคอื่นๆ คนบ่นไม่ได้มองเลยว่ารายได้หมอที่บ่นๆกันถึงมันจะดูน้อย แต่ถ้าเทียบวิชาชีพ อาชีพอื่นๆก็ถือว่าใกล้ยอดพิรามิดแล้ว

ละ20-30ที่ ในเมืองใหญ่ อยู่กันเป็นแสนคน บอกเลยว่าน้อย เพราะ ให้เดาๆ ก็ไม่ใช่คลิกนิกfull timeอีก ทำงานรัฐด้วยก็เยอะ

เอกชนก็รับเพิ่มเรื่อยๆ ขึ้นกับสาขาไหน ถ้าเหมาว่าหมอทั้งหมดไม่ได้ หมอเฉพาะทางหลายๆแผนกก็เลือกได้จะทำที่ไหนยังไง หมอบางสาขาก็ไม่มีเอกชนให้ทำ เพราะคนไข้ไม่เลยอะ ไม่ทำเงิน

หมอไม่ล้นแน่ๆ ยังไงก็ไม่ล้นใน5-10ปีนี้ มีที่ทางทำมาหากินแน่ๆ ถูกใจรึป่าวอีกเรื่องหนึ่ง แล้วยิ่งไปเทียบกับการหางานของสายงานอื่นอีก ยิ่งไม่ล้นคูณสิบ

หลายๆจังหวัด ออกไปนอกอ.เมือง ยังเป็นคลินิกหมอรักษาทุกโรคอยู่เยอะแยะเลย

คือจริงๆ นะครับ เราำข้อมูล อัตราส่วนประชากร ต่อหมอแบบนี้เป็นข้อมูลที่หยาบมากๆ เลยครับ

ลองคิดตามง่ายๆ นะครับ คำว่า จำนวนหมอ 1 คน ต่อ คน ไข้ 1000 คน นี่คือ อะไร หมายถึง จำนวนที่คนไข้มาหาหมอ ต่อ 1 วัน

หรือต่อกี่วันครับ ถ้าจะคุยเรื่องนี้ข้อมูลตรงนี้ต้องละเอียดหน่อย แต่แพทสภาก็ไม่ยอมทำ

เพื่อนผมอยู่อีสาน คนไข้ แค่พวก เบาหวาน ควาดดัน วันนึง ก็เป็น 100 แล้วครับ ต่อ หมอ 1 คน

แล้วไอ้อัตราส่วนเนี่ย มันเป็นอะไรที่หยาบมาก

คือถ้าตราบใดที่ คนไข้กระดูกหัก ยังต้องรอผ่าน อีกเป็นอาทิตย์ ถ้าเป็นญาติ อาจารย์หมอ ก็ได้ผ่าเลย

แต่คนทั่วไปก็รอ ครับ ฉีดยาแก้ปวดไป

เคส appendicitis ไป รพศ กว่าจะได้ผ่าน ก็ 8 ชม อย่างต่ำ มันจะไปพอได้ไงครับ

เคส stemi เส้นเลือดหัวใจอุดตันซึ่งเป็นภาวะ เร่งด่วนถึงชีวิต

ประเทศเราหลายๆ รพ ยังทำ balloon ไม่ได้เลย ยังต้อง ให้ streptokinase ก่อน เลย


เคส NSTEMI เส้นเลือดหัวใจตีบแต่ไม่ทั้งหมด ต้องรีบไปฉีดสี ดูว่าอุดตันยังไง บางเคสรอ 5 วัน

ฉีด enoxa ยา ละลายลิ่มเลือด 5 วัน จนกลับบ้าน ก็ยังไม่ได้ฉีดสีเลย

เคส heart faillure or Acute de novo ต้องไป echo : อัตราซาวหัวใจ

เพราะไม่รู้ว่าสาเหตุคืออะไร หรือ มันล้มเหลวแบบไหน กว่าจะได้นัด ECHO คือ เป็นเดือน ยาก็จ่ายตามมีตามเกิด

ทั้งๆ ที่ guideline ใหม่ก็ออกมาแล้ว ว่า HFpEF , HFrEF ยา class 1 recommendation ก็ไม่เหมือนกัน

บาง รพ ชุมชน ไม่มี หมออายุรกรรม เคสไข้เลือดออกที่เป็นหนัก ต้องไป เอา dextran ตาม รพ

แล้วค่อยเอามาให้

ไอ้คนที่บอกหมอ พอ นี่แม่ม ถุยชีวิตเหอะ

พวกออกนโยบาย ญาติพวกแม่มก้เข้าแต่ โรงเรียนแพทย์ เส้น ลัดคิว เข้าบำรุงราษ

แต่ประชาชน แม่ม นอนเตียงเสริม ไอ้ ช ห

หมอแม่มโคตรอยากใช้เวลากับคนไข้เยอะๆ เลย แต่คนไข้เป็น 100 คน จะให้ทำยังไง

เคสยากๆ ก็ต้องปรึกษาหมอเฉพาะทาง โดนด่าว่าโง่อีก หมอเฉพาะทาง อย่าง neuro surgery หมอผ่าสมอง หรือ

หมอ cvt : หมอ ผ่าหัวใจ แบบเป็นหนึง ใน มาตาลดา ก็ขาดแคลนชิบ

รอวันระบบ ล่มสลายครับ ถ้ายังคาแต่ประชานิยม 30 บาท

พยาบาลนี่ยิ่งขาด งานหนักเงินน้อย

ขึ้นอยู่กับหมอด้านไหน หมอศัลย์กับเฉพาะทางบางสาขาก็ยังขาดแคลนเยอะ ส่วนพวกหมอเอกชนหรือไปทำคลินิกความงามนี่เริ่มเยอะจริงๆ

แหม่ท่าน