น้ำมันโลก ไนเม็กซ์ สิงคโปร์
กองทุนน้ำมัน ค่าการตลาด

กำไรบริษัทพลังงานไทยเป็นหมื่นล้าน

ตอนนี้เข้าใจแบบชาวบ้านคือ อันไหนขึ้นกุขึ้นตาม อันไหนลงกุเงียบ
ช่วงก่อนเทศกาล ขอนิดนึง 40-60 สตางค์

คือประเทศนี้เก็บภาษีจากน้ำมันเยอะxxxๆครับ

เก็บซ้ำเก็บซ้อน เก็บสารพัดจะเก็บ

แล้วคนไทยใช้น้ำมันกันวันละเป็น 150 ล้านลิตร ดังนั้น น้ำมันจึงเป็นแหล่งรายภาษีหลักที่เก็บได้ของรัฐบาล

ต่อมา

ประเทศไทยมีกองทุนน้ำมันที่จะเก็บเงินจากคนใช้เบนซิน เอาไปลดราคาดีเซลและ LPG โดยใช้คำว่าเป็นเชื้อเพลิงในการขนส่งและอุปโภค ถ้าไม่แทรกแซง ค่าครองชีพประชาชนก็จะสูงขึ้นมาก

ปัญหาคือคนไทยใช้น้ำมันดีเซลวันนึงราวๆ 70 ล้านลิตร ทำให้กองทุนน้ำมันติดลบแทบจะตลอด เพราะเก็บเงินจากเบนซินยังไงก็มาหนุนไม่ทัน เพราะอัตราการใช้ต่างกันมาก

ฉะนั้น เวลาน้ำมันขึ้นมันเลยต้องขึ้นตาม หน่วงเวลามากไม่ได้ เพราะกองทุนจะติดลบหนักเรื่อยๆ (แทบจะแตะแสนล้านรอมร่อ ค่าเฉลี่ย 6-8 หมื่นล้าน)

ส่วนเวลาลง จะลงช้าหน่อย หรือลดราคาน้อยหน่อย เพื่อเอาส่วนต่างไปใช้หนี้กองทุนน้ำมัน

ด้วยประการฉะนี้แล

ราคาน้ำมันดิบ + กองทุนน้ำมัน + ค่าการตลาด + ภาษี

ถ้าเอาแบบสาระ คือ ขึ้นลงตามน้ำมันโลก ที่หน้าโรงกลั่น แต่โดนแทรกแซง โดยกองทุนน้ำมัน ที่มีการเก็บภาษีและบิดเบียดกลไก ราคา

ขึ้นตามบริษัท

ลงตามการเมือง

ช่วงไหนชาวบ้าน
โวยมาก ๆ ฝ่ายการ
เมืองก็เทคแอคชั่น
ไปที่น้ำมันเจ้าใหญ่
เป็นครั้ง ๆ ไป

เวลาขึ้น : ตลาดโลกขึ้น เราต้องขึ้นนะครับเพราะเป็นไปตามกลไกตลาด

เวลาตลาดโลกลง : เราจะเข้ากองทุนน้ำมันนะจั๊ฟ เพื่อรักษาดุลราคาน้ำมันในไทยนะจั๊ฟ

ปลายปี บริษัทเราเก่งจุงเบย ขายน้ำมันปีนี้กำไรหลายเท่าตัวเบยจั๊ฟ

น้ำมันโลกกับไนแมกซ์ น่าจะอันเดียวกัน

สิงค์โปรคือตลาดน้ำมันที่ใกล้บ้านเราที่สุด เอาไว้อ้างอิงตลาดของบ้านเรา
แล้วทำไมต้องอิงสิงค์โปร ก็เพราะว่าถ้าเราขายถูกคนก็จะรุมซื้อของเราจนหมด
ถ้าขายแพงคนก็จะไม่ซื้อเลยจนเราเจ๊ง เลยขายเท่ากันคิดค่าขนส่งเท่ากัน

กองทุนน้ำมันคือบัฟเฟอร์ที่คอยชลอเวลาราคากระชาก แต่เวลงก็จะลงช้ามาก

ราคาน้ำมันบ้านเราจะอ้างอิงมาจากตลาดสิงคโปร์
หรือ Singapore International Monetary Exchange (SIMEX)

แต่มันมีการบิดเบียนคือ ตรึงดีเซล โดยเอากองทุนน้ำมันมาอุ้ม
ซึ่งกองทุนน้ำมันจะถูกคิดในราคาของเบนซิน

เอาจริงก็ขึ้นลงตามตลาดโลกนั่นแหละ
แต่ต้องดูว่าน้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์ ราคาเท่าไร เพราะเราเทียบจากตรงนี้

ทีนี้นักข่าวบ้านเราชอบเอาราคาน้ำมันดิบมาบอก (WTI, Brent) ว่าขึ้นหรือลง
คนเลยเข้าใจผิดเยอะ

ถ้าสังเกตดี ๆ ปั๊มไทย (ปตท, บางจาก) เนี่ยจริง ๆ ขึ้นช้ากว่าเขานะ
ปั้มเชลล์นี่ ชอบขึ้นนำชาวบ้าน 1 วัน แต่ลงพร้อมกัน

แต่ที่สุดแล้ว กองทุนน้ำมันตัวทำป่วนเลย คนใช้เบนซินแบกค่าน้ำมันให้คนใช้ดีเซลอยู่
ใจอยากให้่ลอยตัวไปเลย เพราะของมันขึ้นไปแล้วตอนดีเซลเกือบ 40 พอลงมาเหลือ 30 ราคาของไม่ลงตาม

คือประเทศนี้เก็บภาษีจากน้ำมันเยอะxxxๆครับ

เก็บซ้ำเก็บซ้อน เก็บสารพัดจะเก็บ

แล้วคนไทยใช้น้ำมันกันวันละเป็น 150 ล้านลิตร ดังนั้น น้ำมันจึงเป็นแหล่งรายภาษีหลักที่เก็บได้ของรัฐบาล

ต่อมา

ประเทศไทยมีกองทุนน้ำมันที่จะเก็บเงินจากคนใช้เบนซิน เอาไปลดราคาดีเซลและ LPG โดยใช้คำว่าเป็นเชื้อเพลิงในการขนส่งและอุปโภค ถ้าไม่แทรกแซง ค่าครองชีพประชาชนก็จะสูงขึ้นมาก

ปัญหาคือคนไทยใช้น้ำมันดีเซลวันนึงราวๆ 70 ล้านลิตร ทำให้กองทุนน้ำมันติดลบแทบจะตลอด เพราะเก็บเงินจากเบนซินยังไงก็มาหนุนไม่ทัน เพราะอัตราการใช้ต่างกันมาก

ฉะนั้น เวลาน้ำมันขึ้นมันเลยต้องขึ้นตาม หน่วงเวลามากไม่ได้ เพราะกองทุนจะติดลบหนักเรื่อยๆ (แทบจะแตะแสนล้านรอมร่อ ค่าเฉลี่ย 6-8 หมื่นล้าน)

ส่วนเวลาลง จะลงช้าหน่อย หรือลดราคาน้อยหน่อย เพื่อเอาส่วนต่างไปใช้หนี้กองทุนน้ำมัน

ด้วยประการฉะนี้แล

บ้านเราช้ากว่ากราฟ วันสองวัน กับมีกองทุนน้ำมันคอยบิดเบือน มันเลยตอบยากว่าจะขึ้นลงยังไง
ส่วนเรื่องโครงสร้างภาษีค่าต่างๆมันดูได้ที่เวบ eppo.go.th คับ

ปตท กำไรแสนล้าน จริงครับ แต่ไม่ค่อยเกี่ยวกับราคาน้ำมันค้าปลีกตามปั้มเท่าไหร่

น้ำมันดิบที่บ้านเราขุดเจาะได้เอง มีไม่เยอะครับ พลังงานที่ ปตท ขุดเจาะขึ้นมาได้ส่วนใหญ่คือก๊าซธรรมชาติ ที่เราเอาไปใช้ในโรงไฟฟ้า หรือใช้กับโรงงานปิโตรเคมี มีส่วนที่เป็นน้ำมันดิบบ้างแต่กลั่นไปก็ไม่พอใช้ในประเทศแน่นอน แต่บางทีเวลาบริษัทรายงานยอดขายพลังงาน จะรายงานเป็นหน่วยเทียบเท่า บาร์เรลน้ำมันดิบ บางทีคนก็เข้าใจผิดคิดว่าบ้านเราผลิตน้ำมันดิบได้เยอะ จริงๆไม่ใช่

น้ำมันดิบต้องเอาไปกลั่นออกมาเป็นดีเซล เบนซิน น้ำมันเตา น้ำมันเครื่องบิน ซึ่งน้ำมันพวกนี้ โรงกลั่นบ้านเราต้องนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศมากลั่นแล้วส่งให้พวกปั้มน้ำมันครับ

กำไรจะแบ่งเป็น 3 ส่วน
ส่วนของพวกต้นน้ำ คือ ปตท - ปตท สผ กลุ่มนี้ขายน้ำมันดิบ - ก๊าซธรรมชาติ อิงตลาดโลก
กลุ่มโรงกลั่น พวกนี้กำไรขึ้นอยุ่กับราคาค่าการกลั่นซึ่งก็อิงกับตลาดโลก
กลุ่มปั้มน้ำมัน กำไรขึ้นอยุ่กับสิ่งที่เรียกว่าค่าการตลาด ตีง่ายๆว่าขายน้ำมัน 1 ลิตร ได้รายได้ 1-2 บาทต่อลิตร รายได้ตรงนี้จะอิงกับนโยบายของรัฐ

เวลาเห็นข่าวว่า ปตท กำไรแสนล้านขายน้ำมันแพง เป็นการพาดหัวเฉยๆครับ จะว่าไม่ค่อยเกี่ยวกันก็ได้ ปตท มีธุรกิจครบวงจร คือ pttep ขุดเจาะน้ำมันขึ้นมา มี top irpc pttgc ที่มีโรงกลั่น แล้วก็ OR ที่ทำหน้าที่ขายน้ำมันสำเร็จรูป

น้ำมันหน้าปั้มขึ้นหรือลง ยังไงตัวคนขายคือสถานีบริการ ก็ได้เงินต่อลิตรไม่เกิน 1-2 บาท อยู่ดีครับ กำไรพวกนี้บางเฉียบครับ

ส่วนตัวโรงกลั่นก็มีทั้งช่วงที่กำไร แล้วก็ขาดทุนสลับไปสลับมาครับ ไม่ได้มีแต่ช่วงที่กำไรตลอด เพราะบางทีค่าการกลั่นน้ำมันก็ตกต่ำมาก มีอยู่ช่วงที่ค่าการกลั่นสูงมาก ก็มีนักการเมืองออกมาโวย แต่ตอนเขาขาดทุนไม่มีใครช่วยนะ พวกโรงกลั่น

อีกอย่างนึง ปตท กำไรแสนล้าน แต่กระทรวงการคลัง กับหน่วยงานรัฐก็ถือหุ้นอยู่ 60% แหละครับ นอกนั้นก็สหกรณ์ ประกันสังคม กองทุนในประเทศที่บริหารเงินคนไทย

ไอ้ที่บอกเงินเข้านายทุน จริงๆนายทุนก็กระทรวงการคลังนั่นแหละ ถ้ากดกำไรปตทให้เหลือ 0 รายได้ของรัฐก็หายไปหลายหมื่นล้านต่อปีเหมือนกัน

นักการเมืองบางคนเวลาพูดถึง ปตท เหมือนพูดถึงผู้ร้ายอะไรซักอย่าง น่าจะเพราะกดขี่ปตทมันง่ายสุดแล้ว ยังไง ceo ก็รัฐบาลแต่งตั้ง แต่พอกับนายทุนที่เป็นเอกชนจริงๆ เงียบกริบ

เรื่องราคาน้ำมันขึ้นลงในไทย หรือการเก็บภาษี เก็บกองทุนอะไร ผมไม่ค่อยมีปัญหาเลย
เรื่องกองทุนน้ำมัน ที่หลายๆ คนด่าหรือแซะไป ว่าทำให้มันบิดเบือนตลาด
ผมว่าผมก็เข้าใจเหตุผลของการมีอยู่ของมันนะ

เอาง่ายๆ ตอนช่วงสงครามรัสเซียยูเครนแรกๆ น้ำมันผันผวนมาก
ถ้าเราลอยตัวราคาน้ำมัน โดยไม่ใช้กองทุนน้ำมันอุดหนุนเลย
มันอาจจะขึ้นไป 2 เท่าตัวเลยก็ได้
พอขึ้นเยอะในเวลาอันรวดเร็ว ทีนี้แหละเศรษฐกิจมีปัญหาเลย รับมือไม่ทัน
มันก็เลยต้องมีกองทุน มาชะลอ ปรับราคาขึ้นทีละนิด จนไม่มากเกินไป
แต่เงินสะสมอะ ต่อให้สะสมมากี่หมื่นล้าน แต่เวลาใช้ ใช้ไม่กี่เดือนก็หมด

ก็คิดง่ายๆ อะ ถ้าเราจะเก็บเงินให้ตัวเองใช้ได้ปีหนึ่ง เราเก็บกี่ปี
บางคนเก็บเป็นสิบปี เพื่อจะเอามาใช้แค่ปีเดียว เพราะตอนเก็บ มันเจียดเงินมาเก็บ แต่ตอนใช้ มันใช้เต็ม

อีกอย่าง ขนาดก้าวไกลที่ผมไว้ใจว่าเป็นพรรคจอมขุด จอมล้วง ทำงานโดยคนรุ่นใหม่ไฟแรง
ตั้งใจแก้ปัญหาทุนผูกขาด ระบบราชการ ตำรวจ ทหาร ต่างๆ นานา
พวกนี้ผมแทบไม่เคยได้ยินว่าจะเล่นเรื่องปตท.แบบที่สื่อโซเชียลหลายอันจับมาเป็นประเด็นเลย
ไปเล่นแต่เรื่องค่าไฟแทน
เพราะน้ำมันมันเกี่ยวข้องกับภาษีและกองทุนน้ำมัน ลดยาก มันมีปัจจัยเป็นเหตุเป็นผลกันอยู่
จะไปลดภาษี เงินเข้ารัฐก็หายไปเป็นหมื่นล้าน

และประเทศที่เป็นทุนนิยมส่วนใหญ่ สินค้าอะไรที่เรานำเข้ามามากๆ จนเสียดุลการค้า มักจะเก็บภาษีเพิ่มอยู่แล้ว

เรื่องอื่นผมเฉยๆ แต่เรื่องว่าต้องเอาเงินคนใช้เบนซินไปอุ้มคนใช้ดีเซลที่มีทั้งรถธรรมดาและรถขนส่งนี่ผมว่าไม่เวิร์คจริงๆ

พอทราบไหมครับว่าประเทศอื่นๆที่ไม่ใช่เจ้าของซัพพลาย ใช้ระบบกองทุนน้ำมันแบบบ้านเราไหมครับ

ไม่ทราบเลยครับ