เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค กัปตันทีมลิเวอร์พูล รับสภาพต้องโทษตัวเองล้วนๆ ปล่อยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิงประตูแซงชนะ 4-3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ศึกเอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ

"หงส์แดง" นำ 2-1 ก่อนโดน แอนโทนี่ ยิงตีเสมอก่อนหมดเวลาปกติ 3 นาที จากนั้น ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ยิงให้ทีมขึ้นนำ 3-2 แต่มาร์คัส แรชฟอร์ด และอาหมัด ดิยาลโล่ มารัวแซงให้เจ้าถิ่นคว้าชัย

ตอนช่วงที่ลิเวอร์พูลนำนั้น มีหลายต่อหลายหนที่ได้สวนกลับและน่ายิงเพิ่มได้แต่ก็ขาดความเฉียบคมทำให้ปิดเกมไม่สำเร็จ

ฟาน ไดจ์ค เขียนลงอินสตาแกรมว่า "ต้องโทษตัวเองล้วนๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เราทำมาดีตลอดในฤดูกาลนี้"

"ถึงเวลาไปเล่นทีมชาติ จากนั้นเราจะกลับมาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างที่มีต่อไป"

จริงๆพูดดีเลยนะ ไม่เหมือนคาร์ราเกอร์

สัมดีแฮะไม่เปิดช่องให้โจมตีเลยว่ะเหอะ

ดีครับ. ทำได้ไม่ดีพอ ก็แพ้ไป

แล้วพลาดเดิมๆด้วยนะ คือนำก่อนแล้วปิดเกมเองไม่ได้ ตั้งแต่เวลาปกติ ยันต่อเวลาพิเศษ


แมนยูมาดีมาก แล้วหงส์โชคช่วยหลายช็อตตั้งแต่ยิงแฉลบยันแรชยิงออก จริงๆมันต้องพยายามปิดเกมแล้วแต่หน้าเราวันนั้นไม่ใช่แค่สากนะ แต่ตัดสินใจได้แย่มากเสียบอลจนเป็นเหตุให้โดนยิงแซงหมด

ก็เอาไปปรับปรุงกันแล้วกัน ทั้งกักโป หนุน ต้องลองไปดูเทปย้อนหลังว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นคิดอะไรอยู่จะได้แก้ได้

เหมือนนูนเยสจะเจ็บด้วยท้ายเกม อันนั้นก็ต้องบอกว่าซวยไป ลุ้นอีกว่านัดหน้าจะเหลือพร้อมกี่ตัวกันแต่ดีทีพักเบรกทีมชาติ