ผมคิดว่ามันก็เป็นไปตามหลักความน่าจะเป็น ไม่รู้เรียกงี้ถูกมั้ย
เหมือนล็อตเตอรี่ ยังไงก็ต้องมีคนถูกรางวัลที่ 1
การทำงาน นายจ้างลูกจ้างเจอกัน คนทำงานเจอโอกาส โอกาสเจอคนทำงาน
พอต่างฝ่ายต่างเข้ามาอยู่ในวง มันก็มีโอกาสแมตช์กันเจอแจ๊คพ็อตกันอยู่แล้ว
แล้วในขณะที่มีคนดีใจคิดว่าเจอดวงดี ก็มีคนพลาดโอกาสเหมือนกัน บางคนอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไปว่าพลาดโอกาส

บางคนอาจจะบอกว่าโชคดีดวงดี แต่ใครจะรู้ ถ้าว่าวอันนั้นไป อาจจะไปเจอแจ๊คพ็อตกว่าก็ได้

จะบอกว่าเกี่ยวก็ไม่กล้าพูดได้เต็มปาก ผมเชื่อว่าก่อนดวงจะเกิด มันต้องเริ่มจากความพยายามของเราที่อยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างก่อน

อันนี้แชร์จากประสบการณ์ตัวผมเอง ช่วงวัย 25- 30 ชีวิตผมโคตร work life balance ทำงานองค์กรณ์ใหญ่มั่นคง

แต่ข้อเสียคือ งานง่ายน่าเบื่อ เราไม่ได้ใช้ศักยภาพของตัวเราได้เต็มที่ ผมเลยรู้สึกว่าเหมือนตัวเองโดนแช่แข็ง
ถ้าปล่อยไปแบบนี้นานๆ เราน่าจะไม่สามารถไปสู้กับคนอื่นๆ ในสายอาชีพตัวเองได้

ผมเลยตัดสินใจย้ายงานไปอยู่ บริษัทเล็กๆ ยอมลดเงินเดือน แต่งานเกี่ยวกับสายงานเราโดยตรง
งานเครียดและยากกว่าเก่ามาก ทำงานช่วงแรกๆ แอบคิดว่าเหมือนหาเรื่องใส่ตัว 555
แต่ข้อดีคือเราได้ปล่อยของเต็มที่ ฝีมือพัฒนาแบบก้าวกระโดด

ทำงานไป 4 ปี ผลลัพท์ที่ได้คือผมได้คอนเทคลูกค้า ตปท.
ตอนนี้ออกมาทำฟรีแลนซ์เอง ทำงานอยู่บ้าน มีเวลาทำนู้น ทำนี้เพิ่มมากขึ้น ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ

ถ้าให้มองย้อนกลับไปผมคงเห็นภาพตัวเองระหว่างชีวิตที่เลือกตัวเลือก A กับ B

สรุป ผมว่าผมคิดถูกที่ตัดสินใจลาออกมาตอนนั้น

มีผลมากๆ มันเป็นความบังเอิญ เป็นโอกาส ผมนับเป็นดวง

เพราะตอนจะย้ายงานนี้ผมไปนั่งกินข้าวกับเพื่อน แล้วมันดันคุยเรื่องงานพอดี ว่า เขาหาคนนะ เขามาชวนเพื่อนผมแล้วเพื่อนผมไม่ไป ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้คิดเลย พอได้ยินแล้วก็คิด ถ้ามึงไม่ไปกูไปเอง หลังจากนั้นก็เลยโทรไปถาม แล้วก็ไปติดต่อกับคนที่เขาอยากให้ย้ายไป ปีแรกไม่ได้ ต้นทางไม่ให้ ปีต่อมาผมก็ทำอีก จนเขาให้ไป ชีวิตดีขึ้นงานดี ดูมีอนาคต มีความสุข เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะ เพื่อนผมบอกเรื่องนั้น ซึ่งปกติมันไม่บอกใครนะ ผมว่ามันดวงจริงๆ

ผมเชื่อเรื่องดวง เรื่องความโชคดี โชคร้ายนะ แต่ผมไม่เชื่อเรื่องการไปไหว้ เสริมดวงอะ ผมยังคิดเลย ผมว่าผมโชคดีกว่าพวกคนที่เชื่อเรื่องสีมงคล ใช้ของเสริมดวง ไปไหว้ขอนู่นขอนี่เยอะเลย เพราะผมหาโอกาส ยิ่งโอกาสเยอะมันก็อาจะโดนเยอะ ไอพวกไหว้ๆเห็นอะไรมาก็ไม่เอา แล้วมันจะชีวิตดีขึ้นได้ไง

ความสามารถ + โอกาส คิดว่ามีแค่นี้

อยากจะขยายความเรื่อง Connection ของผมหน่อย

ในทีนี้ไม่ได้ดูถูกความสามารถ สำหรับคนเก่ง

ผมเรียนจบ เงินสตาร์ทผมก็ เริ่มที่ 30k และ ขึ้นไป 60k

ซึ่งบริษัทที่ผมอยู่เป็น Digital Agency กับ บริษัทออกแบบ

ต้องเน้นย้ำว่าผมพยายามพูดถึง สาย Designer ผมว่าวงการนี้จะเข้าใจดีไม่รู้ว่าจะเป็นเหมือนวงการอื่นไม๊

แต่จากที่คุยกับเพื่อนจะคล้ายๆกัน

เมื่อความสามารถคุณอยู่ใน Tier ระดับสูง ที่ ลูกค้าแยกไม่ออกแล้วว่าใครเก่งกว่ากัน ใครทำได้ดีกว่ากัน

หรือใครทำได้สวยกว่ากัน และคุณมองไปที่ตลาด ตลาดนี้แหล่ะครับ

คุณจะเห็นงานหลายๆคนที่คุณรู้สึกว่า บางคน ดีเทลไม่ดี งานสู้ไม่ได้ ไม่สวยขนาดนั้น แต่งานเยอะเต็มไปหมด

เมื่อได้อยู่ในห้องประมูลงานเยอะๆ จะยิ่งรู้เลยว่าเมื่อเราเก็บความสามารถจนถึงระดับ

มากกว่า 70-90% ของวงการ แต่ยังไม่ถึง 1%ของ ยอดปีระมิตร ตรงนี้แหล่ะครับ

ตรงที่ Connection โคตรจะเป็นส่วนตัดสินว่า งานที่คุณจะได้งานมากหรือน้อยแค่ไหน

ยิงปัจจุบัน เป็นโลกแห่งการตัดสินว่า ไม่ความสามารถคุณจะโดดเด่นแค่ไหนและเป็นนวัตกรรมถึงเพียงใด

แต่สิ่งที่คุณทำเป็นสกิลที่ Easy to copy easier to develop แป็บเดียวเท่านั้นครับคุณจะอยู่

ในวงการได้ไม่นาน ถ้า Connection คุณไม่ดี

ผมมีข้อกรณีเปรียบเทียบกับเพื่อนผมเยอะสุด จากพลังแห่ง Connection

ผมเป็นคนที่ Connection เรียกได้ว่า 0 กับเพื่อนผมที่เป็น ป็อบปูล่าของคณะ

ภายในเวลาเท่ากัน โอกาสและประสบการณ์ของเพื่อนผมนี่ ไปเร็วโคตร ทั้งๆที่ความสามารถ

ถ้าเทียบกับคนอื่นแล้วไม่เก่งเลยด้วยซ้ำ เพราะงานที่มันทำยังต้องถามต้องให้ผมช่วยแทบทุกงาน

แล้วความโหด ของ Connection ก็คือ คุณสามารถใช้ Connection ต่อ Connection ได้ไปเรื่อยๆ

อย่างในวงการออกกแบบบ้าน ถ้ารู้จัก

Designer เก่ง , ผรมดีๆ , วิศวะกรเก่งๆ , ลูกค้าดีๆ , สังคมคนรวย, agent ดีๆ

แป็บเดียวครับงานล้นมือจนทำแทบไม่ทัน

ยิ่งตอนอยู่บริษัทนึง ที่เจ้านายไม่รู้เรื่องอะไร แต่ดันรู้จักคนเยอะ

สุดท้ายมาเปิดบริษัทออกแบบเพียงแค่รู้จักคนเยอะโดยที่ตัวเองไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับงานตกแต่งหรือสถาปัตย์เลย แถมเรียกค่าแบบได้โหดสุด ค่าแบบตารางเมตรละ 3000 นี่จิ๊บๆเลย


(ปล.ประโยคคลาสสิคที่เจอมาประจำ โหยถ้าผมรู้จักคุณเร็วกว่านี้ คุณได้งานนี้ไปแล้วดีกว่าเจ้าที่ทำก่อนหน้านี้ตั้งเยอะ)

โครตเกี่ยวสุดๆ หรือจะมองในอีกแง่มันคือจังหวะชีวิตจริงๆ และที่มาพร้อมดวงเลยคือ Connection ที่เข้ามาแบบ งงๆ และพาเราได้ดี นี่คือที่สุดจริงๆ