ฟังน้ำเสียงแล้วก็เหมือนเซ็ง ๆ นะ อยากได้ใครก็เลือกไม่ได้ เพราะฝ่ายสเกาท์มีลิสต์มาให้เลือกอยู่แล้ว ตำแหน่งนี้ 5 คน ราคาเท่านี้ จิ้ม ๆ เลือกมา อยากได้คนนอกเหนือจากลิสต์ ไม่ได้ เรามีรีพอร์ตอยู่แล้ว

แกบอกเองเลย อำนาจไม่มีแบบท่านเซอร์ เลือกได้แค่ในลิสต์นั่นแหละ จะเลียบ ๆ เคียง ๆ จะวีโต้ขออำนาจเลือกมากกว่านี้ก็ไม่ได้ เพราะอยู่ในสัญญาตอนเซ็นแล้วว่าให้ได้แค่นี้

โค้ชทุกคนมันก็ไม่ได้นักเตะที่ต้องการทั้งหมดอยู่แล้ว อย่างกับโซลชาไม่เคยได้นักเตะที่ตัวเองต้องการทั้งหมด

จะมีใครทำซับไทยไหมน้อ บทพูดเยอะจริงตลอดทั้งคลิป

พอผิดพลาดที่ไม่นำเข้านักเตะที่โอเล่แนะนำ

เลยมาแก้ตัวในยุคเทน ฮาก เอาหมดทุกคนที่ฮากจิ้ม

ไม่สนว่าราคาเท่าไหร่

ทีมบริหาร ทีมซื้อขายทำงานได้ บซ. มาก

คือถ้าได้ดูตัวเต็มอ่านตัวเต็ม นัดเตะที่ได้มาทุกคนโอเล่บอกว่าไม่มีคนไหนที่ตัวเค้าเองไม่โอเคนะครับ เค้าบอกเอ็ดไม่เคย Veto หรือร่วมเลือกนักเตะนะ จะมีแค่บอกว่าเอ็ดจะคอยอัพเดทในเชิง Veto Financial เท่านั้นว่าเป้าหมายคนไหนที่ทางการเงินของสโมสรไม่สามารถสู้ได้ ไม่เคยมาเลือกนักเตะให้

การเลือกนักเตะส่วนใหญ่จะเป็นโอเล่กับฝ่าย Scout ร่วมกันตัดสินใจเลือก โดยเอ็ดแค่คอยบอกว่าเชิง Financial ไหวมั้ย

อยู่ที่การบริหารบุคลากรล้วนๆ ซึ่งโอเล่ทำไม่ได้

แกย้ำสามสี่รอบเลยว่า ไม่มีนักเตะคนไหนที่ย้ายมาที่แกไม่อยากได้

ผมถึงไม่อ่านแปลจากไหนเลยแต่เปิดดูคลิปเอง บางอันฟังไม่ทัน-สำเนียงฟังไม่ออกก็ให้มันเจน Sub Eng ขึ้นมาเทียบด้วย ตอนเฝ้ายัยหนูนอนดูดนม

ทำไมผมอ่านไวๆกลายเป็น ตอนนอนดูดนมยัยหนู

ตอนยุคโอเล่ ใครๆก็บอกว่าลูกรักบอร์ด เห็นไม่กล้าปลดโอเล่สักทีเพราะเป็นตำนาน

จริงๆโอเล่ก็ไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควรจากบอร์ดเหมือนกัน

การทำงานต่างจากทีมอื่นมาก และต่างจากอดีตของตัวเองไปไกล

ลิสต์รายชื่อนักเตะให้โค้ชเลือก อันนี้มันปกติ แต่มาติดตรงต้องเอาตามลิสต์เท่านั้น

โค้ชทีมอื่น แจ้งต้องการตำแหน่งนี้ ทีมก็จะไปหามาว่าคนไหนน่าสนใจบ้าง โค้ชเสนอชื่อให้เองได้ ทีมก็แค่ไปดูฟอร์มต่อเนื่อง

การที่ทีมจะทำแบบหานักเตะเอง โค้ชแค่ตัวทีม เลือกนักเตะตามที่ทีมหามานั้น สิ่งสำคัญคือ แนวทางของทีมต้องชัดเจน สไตล์การเล่น วิธีการเล่น มันต้องเป็นแบบเดิม โค้ชที่จะมารับงานก็ต้องแนวทางเดียวกับสโมสร เพื่อมาสานต่อ ไม่ใช่มาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของทีม

บาซ่า วางระบบไว้แล้วโดย โยฮัน ครัฟฟ์ คนมาคุมทีมก็จะแนวทางเดียวกัน อาจจะต่างกันบ้างในเรื่องรายละเอียด การจัดตัว การแก้เกม แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ DNAและความเป็นเอกลักษณ์มันคือยี่ห้อ บาเซโลน่า

อาร์เซนอลพังมาก่อนแมนยู เพราะการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของทีม จากผู้จัดการทีมกลายเป็นโค้ช ทำหน้าที่คุมซ้อมและแข่งขันเท่านั้น การซื้อขายอำนาจอยู่กับอีกทีม คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ มันจะได้ผลก็ต่อเมื่อ ฝ่ายเทคนิคเลือกทั้งโค้ชและนักเตะที่เหมาะสมกับโครงสร้างของทีม

อาร์เซนอลพังเพราะ อยากแก้ไขจุดอ่อนของเวนเกอร์ ที่ซื้อตัวไม่ถูกจุด กลางรับมีปัญหาไปซื้อตัวรุก ไปซื้อกองหลัง ง่ายเวนเกอร์เกาผิดที่ แต่การเปลี่ยนแปลงของอาร์เซน่อลนั้นดันเลือกคนผิดมาบริหาร ซื้อตัวไม่สนใจคนคุมทีม อูไนอยากได้ซาฮา ฝ่ายบริหารไปซื้อเปเป้ มันกลายเป็นไม่ได้แก้เรื่องเวนเกอร์

อาร์เซนอลล้างบางใหม่ ขนาดฝ่ายบริหารกระเด็น นักเตะก็กระเด็นได้ถ้ามีปัญหา

แมนยู กล้าล้างบางไหม แต่ต้องวางโครงสร้างทีมใหม่ด้วย เพราะจากที่ดู เละยันDNAของทีม

สิ่งสำคัญ การซื้อนักเตะ อำนาจสุดท้ายคนตัดสินใจควรเป็นโค้ชว่าจะเอาใคร จากลิสต์รายชื่อทั้งหมดที่เป็นแคนดิเดทสุดท้ายที่ผ่านการพิจารณา

ของโอเล่อะฟังง่าย อย่างว่ามันภาษาที่สองของแก แกก็พูดเองว่าไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษนานลืมคำบางคำด้วยซ้ำ

คีนกับคาร่านี่ฟังยาก ไอช็อตถามพูดช้าๆพอได้ ไอ้ช็อตพูดขัดหรือพูดแทรกนี่คือฟังยากชิบ

โอเล่ฟังง่ายครับ สำเนียงแกชัดดี แต่คีนนี้ผมฟังแทบไม่รู้เรื่องต้องอ่าน Sub Eng ที่ยูทูปเจนขึ้นมาให้ประกอบ

อ่านสัมภาษณ์แปลไทยบางเจ้าในเฟส แล้วรู้สึกว่าจับแพะชนแกะมั่วไปหมด

ไม่ได้นักเตะที่ต้องการ แต่ถ้านักเตะที่มีมันใส่เต็มร้อย มันก็ดีกว่านี้ละวะ นี่อะไรก็เห็นกันทั้งโลกไม่ต้องโอ๋มันมาก เงินเดือนเป็นล้าน