จริงไม่จริงไม่รู้ แต่คบเด็กนี่มาแนวโรคจิต

คบตอนเด็ก15เนี่ยนะ อืม…

อันนี้เรียนที่ไหนครับ

ถามเลยละกันครับ
1) กระทู้ที่แล้วคุณบอกว่าแม่น้องกับน้องสัญชาติอเมริกาตั้งแต่เกิด สงสัยว่าแม่น้องกับน้องเกิดที่ไหนครับ
2) น้องเพิ่งกลับมาเวียดนาม 3 ปี ก่อนนี้น้องอยู่อเมริกาตลอดเหรอครับ
3) แม่ก็อยู่อเมริกามาตลอดหรือเปล่า

ตอนนี้เรียนที่โฮจิมินห์ครับ สิงหาเขาก็ย้ายไปเรียนต่อที่เมกาแล้ว

น้องย้ายกลับมาเวียดนามปี2020ครับ ก่อนหน้านั้นเรียนและใช้ชีวิตอยู่เมกาตลอด ที่ย้ายกลับมาเพราะโควิดครับ ทั้งแม่และเขาเลย

เขาไม่ได้กลับไปเมกาตั้งแต่ปี2020 แต่ปีนี้จะกลับไปเรียนต่อนั้น ซึ่งบ้านที่เมกาเขาปล่อยเช่าครับ
พ่อของน้องก็อยู่ที่เมกา แต่น้องบอกว่าพ่อเลิกกับแม่ตั้งแต่ยังเด็ก
น้องโตมากับแม่และทั้งตระกูลเขา ป้า น้าเขาไม่มีลูกชายเลย มีแต่ลูกสาว แม่เขาก็เลยเอ็นดูผมเป็นพิเศษเรียกผม son ตลอด

แต่ก่อนหน้าแม่แอนตี้ที่จะให้เขาคบกันกับผมมาก ซึ่งผมก็ยอมรับว่ามันเป็นไปไม่ได้ เด็กอายุ14อย่าง15 ณตอนที่คุยกัน ตอนแรกน้องก็มาแบบตรงๆ เลยว่าชอบผม รับได้มั้ยที่เขาอายุยังน้อยอยู่ เขาใช้เวลาจีบผม3เดือน , ตอนแรกผมปฏิเสธและเลี่ยงแล้วนะ แต่น้องก็โทรมาคุยทุกคืน ไม่เคยเจอตัวจริงกันเลยเลยนะ ระยะทางก็ไกลกัน ผมก็ไม่ได้อยู่ไทยด้วย และน้องการเรียนไม่ตกเลย เป็นตัว top ของโรงเรียน บางวิชาผมก็สอนน้อง
ลงเรียนพิเศษภาษาไทยเพื่อที่จะมาสื่อสารกับผมด้วย

ผมก็คิดว่ามันความรู้สึกเด็กวัยรุ่นตอนแรกหรือเปล่า แต่พอตกลงคบกัน และเจอกันครั้งแรก น้องเขาก็บอกและย้ำกับผมทันทีเลยว่า ผมคือคนที่ใช่สำหรับเขา ยังไงเขาก็จะให้ผมรอจนกว่าเขาจะเรียนจบและแต่งงานกับเขาให้ได้ น้องมันจริงจังมาก ตัดสินใจบอกแม่เขาตรงๆ ว่าอยากคบกับผม และบอกแม่ว่าผมก็เป็นคนดีด้วย ถ้าเจอกันแม่จะต้องชอบผมแน่ๆ

พอเจอหน้าแม่น้องแค่ครึ่งวัน แม่เขาก็บอกตรงๆ เลยว่า ทุกครั้งที่น้องคุยกับผม น้องก็จะชอบมาบอกว่า คุยอะไรกัน ผมเป็นคนยังไง และแม่เขาก็สัมผัสได้จริงๆ ว่าเป็นแบบที่น้องเขาบอก

ผมไม่ได้หล่อหรือรวยอะไร ของที่เคยซื้อให้แพงสุดก็แค่น้ำหอม แต่ผมสม่ำเสมอครับ จริงใจทุกการกระทำ เวลาน้องเรียนมาเหนื่อยๆ ผมก็เปนเซฟโซนคอยฮีลใจให้ ผมไปทำงานกลับห้อง เขาก็บอกว่าอยากให้บอกทุกวันว่าวันนี้ไปทำงานนะ เลิกงานกลับห้องแล้วนะ
น้องโทรปลุกผมทุกวัน และยังรอนอนเวลาตรงกันทุกคืน

ผมไม่เคยล่วงเกินน้องเขาทั้งคำพูดและการกระทำ(เจอกันครั้งแรกผมไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวน้องเขาเลย จนวันสุดท้ายที่น้องขอกอดผมในร้านกาแฟแค่นั้น)
ท่านคิดว่า เด็กแค่นี้ แต่เขาจริงใจและจริงจังกับผมสุดๆ ผมจะทิ้งน้องเขาไปเพียงเพราะว่า น้องยังเด็ก หรือว่า ผมอายุเยอะแล้วคบเด็กมันดูเหมือนโรคจิตแบบที่เขาว่าจริงๆใช่ไหมท่าน

ผมคิดมากและคอนเซิร์นเรื่องนี้สุดๆ พอคุยเรื่องนี้กับน้องเขาทีไร น้องก็ร้องไห้ ตัดพ้อว่าผมรอไม่ได้ เขาเป็นแค่เด็ก แต่เด็กแบบเขาก็มีหัวใจ ผมก็ไม่กล้าที่จะคุยเรื่องพวกนี้ต่อ แม้ผมจะคุยกับแม่น้องเรื่องนี้ แม่น้องก็บอกว่าให้รอน้องจน18แล้วแต่งงานกับน้องทันที เพราะแม่เขาเชื่อใจในตัวผม และยังเชื่อในรักของผมกับน้องด้วย

คือมันแปลกจริงๆ ท่าน แต่ผมพูดจริงๆ ผมยังตกใจและอึ้งเลยตอนที่แม่เขาบอกนี่โรงแรมเขานะ แต่มันเป็นโรงแรมครอบครัวเขา ผมไม่ได้ไปยุ่งหรือเมนชั่นอะไรอยู่แล้ว และผมตั้งใจจะไปเยี่ยมน้องที่เมกาด้วยตัวผมอยู่แล้วครับ อย่างน้อยปีละครั้ง

จริงละกัน แต่แม่เขาจะซุยไหม สองปีหน้ามาดูกัน

ซุยจัด

*edit หลังจากที่ได้อ่าน จขกท มาชี้แจง


ถ้าเป็นเรื่องจริง น้องก็หลงท่านนั่นแหละครับ และท่านก็รู้มาตลอดว่าจะทำยังไงให้น้องหลงรัก

ที่เขาบอกว่ารอเรียนจบก่อนแล้วค่อยมาแต่งงานผมว่าโอกาสเป็นไปได้น้อย ตอนนี้เขายังเด็กมาก

มากเกินจะเข้าใจว่าความรัก การแต่งงาน การใช้ชีวิตคู่ด้วยกันลำพังมันเป็นยังไง


ตอนนี้โลกของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเขามีแค่ท่านคนเดียวครับ พอเขาเริ่มโตเริ่มเรียนรู้ชีวิตในมหาลัย

เริ่มมีสิ่งที่ต้องคิด ต้องทำ เขาจะเริ่มเข้าใจว่าระหว่างท่าน มันจะเป็นไปไม่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ


แม่ที่เห็นด้วยก็เพราะเห็นลูกสาวมีความสุขมีความฝัน มันสวยงามเสมอแหละครับ


ผมอยากให้เก็บสิ่งสึกดีๆเหล่านี้ไว้ ไปมาหาสู่ตามปกติ ทำตัวให้ดีสม่ำเสมอเหมือนอย่างที่เคย


แต่เมื่อวันที่เขาเข้าใจชีวิตมาถึง ท่านสองคนจะเข้าใจมันมันดีมากกว่าทุกคนบนโลกนี้ครับ

ผมต้องระวังเรื่องอะไรเกี่ยวกับแม่เขาบ้างครับท่าน
สแกมผมแบบไหนบ้างที่ผมควรรู้ จริงๆ ผมไม่ได้ตกลงว่าเขาอายุ18แล้วผมจะแต่งงานเลย ผมกับน้องเขาแพลนจะแต่งงานกันตอนที่น้องเรียนจบมหาลัยแต่เรื่องหมั้นนี่ มันกระทันหัน เพราะน้องเขากลัวผมจะทิ้งไป ผมเลยตกลงไว้ก่อนและสวมแหวนแค่นั้น เป็นการตกลงทางวาจาครับ

ส่วนตัวน้องเขาผมระวังสุดๆ การแตะเนื้อต้องตัวนี่ละ แต่มันก็เผลอบ้าง จับมือ ถือแขน หนักสุดคือแค่จูบ1ครั้ง แต่น้องเขาเป็นคนจูบผมนะ เพราะผมรู้ว่าผมโตกว่า ผมควรเป็นคนแนะนำการใช้ชีวิตให้เขาและต้องหักห้ามใจ
ถ้าเรื่อง18+ ไม่มีเลยครับแม้แต่คำพูด น้องบอกแค่ รอจนกว่าน้องจะบรรลุนิติภาวะ ซึ่งผมก็เห็นด้วย

เรื่องกฎหมายผมไม่ทราบว่า ถ้านอกจากตัวแม่เขา ใครสามารถที่จะฟ้องได้อีก เพราะแม่เขาค่อนข้างไว้ใจผมจริงๆ แต่ถ้าเขาจะฟ้องทีหลัง อันนี้ผมก็แอบกังวล ไม่รู้กฎหมายเรื่องนี้จริงๆ ครับ แล้วถ้าฟ้องข้ามประเทศ มันจะมีผลกับประเทศที่ผมอาศัยอยู่ตอนนี้มั้ย เพราะผมเองก็ไม่ได้อยู่ไทย


ผมเพิ่มเติมเรื่องที่แม่เขาเป็นห่วงเขาเป็นพิเศษจริงๆ
แต่น้องไปไฟต์จนแม่เขายอมรับให้คบกันแต่ต้องอยู่ในสายตาแม่เขา และพอเจอหน้าแม่เขา ตอนแรกก็มีระยะห่าง พอหลังจากนั้น แม่เขาก็เอ็นดูผมทันทีครับ จริงๆ เขาไม่ได้รู้จักผมดี แต่เขาบอกเขารู้ทุกอย่างจากลูกสาวเขา เพราะตลอดเวลาที่คุยกันแม่เขารับรู้หมดครับ

1) ผมสงสัยว่าทั้งแม่และลูกเกิดที่อเมริกาหรือเปล่า อันนี้คุณยังไม่ได้ตอบ แต่สรุปได้ว่าก่อน 2020 แม่และลูกใช้ชีวิตที่อเมริกามาตลอด (จริงๆผมสงสัยว่าแม่เกิดและโตมาที่อเมริกาหรือเปล่า หรือย้ายไปตอนโตแล้ว)
2) กระทู้ที่แล้วคุณบอกว่าเจอกันตอนเรียนคอร์สภาษาอังกฤษออนไลน์ น้องขอเฟสคุณจากจารย์แล้วแอดมาจีบตอนเรียนจบคอร์ส อันนี้คือคอร์สอะไรยังไงครับ ของสถาบันอะไร แล้วถ้าให้เดาคือจบคอร์สเมื่อประมาณปีกว่าที่ผ่านมาใช่ไหมครับ

She doens't allow and accept our relationships

คือเขาไม่ให้ไปกันต่อนะครับท่าน

เกราะป้องกันแรก คือผู้ปกครองของเด็กเป็นธรรมดา ผมว่าไม่เกี่ยวกับอายุ แต่มันยังไม่ใช่วัยของน้อง น้องกำลังหลงท่าน

แม่อนุญาตให้น้องมีความรักได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแม่ ท่านอยู่ในสถานการณ์ที่เข้าใจดีกว่าผมอยู่แล้วครับ


ถ้าเป็นผมก็หยุดครับทิ้งระยะไว้ ถ้าน้องทักทายมาก็คุยเรื่องทั่วไปตามปกติเป็นงดคุยเรื่องความสัมพันธ์ แม่เขารับรู้ทุกอย่าง

ผมก็เคยอยู่ในสถานการณ์คล้ายกัน สาวอาหรับผมไปทำงานที่ประเทศเค้า น้องถึงกับจะออกอิสลามและย้ายตามมาเมืองไทย(ร้ายแรงมาก)

ผมรีบเบรคตัวโก่ง ทีเล่นทีจริงจนได้เรื่องขนาดโตๆกันแล้วทั้งคู่ อยู่ห่างๆรักษาความสัมพันธ์เป็นเพื่อนไว้ก่อนจะดีกว่าครับ

น้องยังไม่มีวุฒิภาวะในการตัดสินใจ พยายามมองในมุมของแม่เค้าปลอดภัยที่สุดครับ

ผมลงเรียน topica native และ engoo แต่ของ engoo ทำให้ผมเจอน้องเพราะอาจารย์สอนเขาไปเปิดกลุ่มสอนส่วนตัวใน skype และน้องก็ไปอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย

ผมถามน้องเขามาละ น้องเกิดที่เวียดนามแต่ย้ายไปเมกาตอนอายุ2ขวบ แล้วอยู่นั่นยาวจนปี2020ย้ายกลับมาเวียดนามครับ

อันนี้มันเหตุการณ์เมื่อปีก่อนครับ ที่ผมบอกว่า แม่เขาก็ห่วงเขาเหมือนกัน
ซึ่งหลังจากวันนั้น ผมก็ยอมรับและบอกน้องว่ามันเปนไปไม่ได้ แต่น้องมันก็ไปขอแม่ พูดกับแม่ตรงๆ จนแม่เขายอม แต่ให้อยู่ในสายตาแม่เขา

ไอ้เรื่องทำให้เขาหลงมััย ผมก็พยายามทำดีที่สุดเพื่อเขาแหละครับ เพราะเราตกลงเป็นแฟนกันแล้ว

ผมไม่อยากให้มันจบเพียงเพราะระยะห่างของอายุเท่านั้น