สาขาอื่นนี่ชัดเจนมาก ถ้าอยู่มหาดไทย ก็จะถูกถามว่าจบจากไหน สิงห์ดำ หรือ สิงห์แดง
ถ้าสิงห์ดำก็เติบโตเร็วหน่อย ถูกใช้งานไปเป็นหน้าห้อง

หรือถ้าวิศวะ ก็จะถามว่าอยู่ท็อปเกียร์มั้ย

ตำรวจสัญญาบัตรก็ถูกถามว่า จบ นรต มา อบรบมาม หรือเลื่อนชั้นประทวน

อยากรู้ว่าหมอมีแบบนั้นมั้ย แต่ส่วนตัวไปรักษาไม่เคยถามนะ ว่าหมอจบไหน
จบเอกชนเดินออกไม่รักษานะ แบบนั้นไม่เคย

ไม่มีแบ่งเทียร์นะ
เอกชน ก็ไม่แบ่ง ขอแค่คุณจบเฉพาะทางมาได้ คือ ถือว่า ใช้ได้แล้ว (เพราะ เฉพาะทาง กว่าจะเรียนจบมาได้ ก็ต้องผ่านการสอบมากมายก่ายกอง ที่ประเมินโดยระดับปรมาจารย์ตั๊กม้ออยู่แล้ว)

แล้วก็ ทุกสถาบัน จะต้องมีการสอบเอาใบประกอบอยู่แล้ว (ศรว.) ขอแค่ผ่านก็พอ ไม่มีใครมาถามหรอกว่า คะแนนเท่าไร (แต่ตอนผมสอบ ขั้น 1 ผมอยู่ Percentile ที่ 99 นะ 555 แต่ไม่เคยมีใครเช็คหรอก)

สถาบัน อาจจะมีผล ในการคัดเลือกเรียนต่อ ในบางสาขา บางที่ แบบมีโควต้าลูกหม้อ เป็นต้น

ปล. ผมว่า สถาบันในประเทศ ไม่ค่อยจะแย่อย่างเห็นได้ชัด พวกจบจากบางประเทศ จะเหนื่อยหน่อย เท่าที่เคยสอนน้องกลุ่มจบจากบางประเทศมานะ
แต่หมอจบแต่ละที่ ก็ สไตล์ไม่เหมือนกัน ประสบการณ์ไม่เหมือนกัน อย่างสถาบันผม คือ คนไข้เยิน เยอะ ได้ทำหัตถการเยอะ ก็จะเป๊ะหัตถการกว่าพวกจบใน กทม อยู่ประมาณนึง + มีความประยุกต์เก่ง เพราะ อุปกรณ์มันไม่ได้ทันสมัยเหมือนพวกสถาบันใน กทม.

ปล2. ความรู้มันก็สำคัญ แต่อันนึงที่จะทำให้คนไข้ติด คือ ความใส่ใจ + อัธยาศัยของหมอ

จะเหลือเหรอ

ปล. หลายคนถ้ารักษาโรคทั่วไป opd ไม่สนใจประวัติเเพทย์ผมว่าปกตินะ เเต่ลองที่เป็นการรักษาที่ต้องเป็นอะไรที่เฉพาะทางนิดนึงหรือต่อเนื่อง โดยเฉพาะพวกที่ต้องมีหัตถการหรือผ่าตัด เกือบทุกคนดูประวัติเเพทย์หมดเเหละ

ยิ่งโรงพยาบาลเอกชนในเวปไซต์ของโรงพยาบาลแปะเเผ่เลย บอกหมดอะว่าเเพทย์จบที่ไหน ยังไง บอกยันมัธยมก้มี

คนไข้คงไม่มีปัญหา เพราะเดือดร้อนถึงได้มาหาหมอ

แต่ถ้าในวงการด้วยกัน มีตอนจะเรียนต่อ ครับ

ระดับปฏิบัติการน่าจะไม่ แต่ระดับ บริหาร อันนี้ไม่แน่ใจ

ไม่เหลือแบ่งกันตั้งแต่เรียนแล้ว
จุฬา ศิริราช
รามา

ไม่ถึงขนาดแบ่งเทียร์นะ แต่ตอนเรียนต่อมักจะพรีเฟอร์ที่ๆเรียนจบมานะ

อาชีพแรกๆ คนที่ถามคือรุ่นพี่ในอาชีพนั้นๆ

แต่ตอนหมอ ท่านยกตัวอย่างท้ายสุดว่าเป็นลูกค้าไม่เคยถามหมอเลย

มันไม่ได้เป็นเคสเดียวกันครับ

มีครับ ยอมรับเลยว่าส่วนตัวตอนเรียนต่อ ถ้าได้ทำงานหรืออยู่เวรกับintern ที่จบจากบางสถาบัน ให้คิดไว้ก่อนเลยว่าเหนื่อยเองแน่ๆ เพราะความรู้ไม่ได้ หัตถการไม่แม่น การจัดการเคสฉุกเฉินทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ก็ไม่ 100% บางคนก็ดีมีคุณภาพมากกว่าหมอที่จบจากรรพ.ดังๆด้วยซ้ำ

ใช่ เพราะแต่ละที่ ความเข้มข้นก็ต่างกันครับผม

ไม่มีแบ่งเทียร์นะ
เอกชน ก็ไม่แบ่ง ขอแค่คุณจบเฉพาะทางมาได้ คือ ถือว่า ใช้ได้แล้ว (เพราะ เฉพาะทาง กว่าจะเรียนจบมาได้ ก็ต้องผ่านการสอบมากมายก่ายกอง ที่ประเมินโดยระดับปรมาจารย์ตั๊กม้ออยู่แล้ว)

แล้วก็ ทุกสถาบัน จะต้องมีการสอบเอาใบประกอบอยู่แล้ว (ศรว.) ขอแค่ผ่านก็พอ ไม่มีใครมาถามหรอกว่า คะแนนเท่าไร (แต่ตอนผมสอบ ขั้น 1 ผมอยู่ Percentile ที่ 99 นะ 555 แต่ไม่เคยมีใครเช็คหรอก)

สถาบัน อาจจะมีผล ในการคัดเลือกเรียนต่อ ในบางสาขา บางที่ แบบมีโควต้าลูกหม้อ เป็นต้น

ปล. ผมว่า สถาบันในประเทศ ไม่ค่อยจะแย่อย่างเห็นได้ชัด พวกจบจากบางประเทศ จะเหนื่อยหน่อย เท่าที่เคยสอนน้องกลุ่มจบจากบางประเทศมานะ
แต่หมอจบแต่ละที่ ก็ สไตล์ไม่เหมือนกัน ประสบการณ์ไม่เหมือนกัน อย่างสถาบันผม คือ คนไข้เยิน เยอะ ได้ทำหัตถการเยอะ ก็จะเป๊ะหัตถการกว่าพวกจบใน กทม อยู่ประมาณนึง + มีความประยุกต์เก่ง เพราะ อุปกรณ์มันไม่ได้ทันสมัยเหมือนพวกสถาบันใน กทม.

ปล2. ความรู้มันก็สำคัญ แต่อันนึงที่จะทำให้คนไข้ติด คือ ความใส่ใจ + อัธยาศัยของหมอ

มันมีแหละ แต่ส่วนตัวว่าไม่ได้ต่าง ถ้าเรียนจบมาได้

ตอนเรียนเฉพาะทางมีผลตอนคัดเลือก

จากปสก.เคยเจอ

นศพ.ปี4-5 ต่างจังหวัด ต้องมาคุมนศพ. ปี6 จากรร.แพทย์ดังๆ ทำหัตถการ พวกเจาะปอด เจาะหลัง

เพราะโรงเรียนแพทย์ดังๆ จะมีหัตถการให้ทำน้อย ในขณะที่ต่างจังหวัด คนไข้เยอะ ได้ทำกันตั้งแต่ปี4

ตั้งแต่เรียนมาคณะที่แบ่งดทียร์ แบ่งพัก แบ่งพวกบ่อยสุดก็รัฐศาสตร์

คณะอื่นๆ ก็พอมีบ้างเป็นธรรมดา ไม่มีนี่สิแปลก

จบมาจากดร.เค สนพ.วิบูลย์กิจ

แพทย์มันแบ่งเทียร์มาก่อนอยู่แล้ว มันไม่ค่อยมีหมอเอกชน มีแต่หมอรัฐบาล เลยไม่ค่อยเป็นประเด็นเท่าไหร่

ตอนนี้ก็มีแบ่งเทียร์ หมอรังสิตล่ะมั้ง แต่หมอรังสิตเค้าค่าเทอม 4 ล้าน มาเป็นหมอทั่วไปไม่ไหวหรอก สุดท้ายก็ต้องไปเปิดคลีนิคความงาม เพราะงั้นมันก็ไม่ค่อยมีประเด็นกับหมอทั่วไปอยู่ล่ะ

ส่วนใหญ่มันโดนแบ่งโซนกันทำงานไม่ได้ไปกองในส่วนกลางแบบสายอาชีพอื่น มันจะมีหลุดๆไปต่างถิ่นบ้างแต่ก็กลับมาประจำถิ่น ส่วนใหญ่ราชการมันก็นะไม่ค่อยแบ่งอะไรกันมาก แต่ถ้าพวกคนในวงการก็ได้ยินอยู่นะแบบแรงๆ มาจากนี่ไม่ได้เรื่องเลยวะ ไรทำนองนี้