ผมมั่นใจว่าต้นฉบับไม่น่าแปลความหมายออกมาแบบฉลับแปล แต่พอแปลเป็นไทยแล้ววงเล็บอย่างแอบหยิกน่ะคงจะหมายถึงตามวงเล็บมากกว่าคือยั่วยุ

ซึ่งมันไม่ใช่การทำร้ายร่างกาย แต่อาจจะการตอด การเบียด มีแอบบกอด การก่อกวนอารมณ์คู่แข่ง ซึ่งมันเป็นทริค เป็นไหวพริบ สำหรับคนที่คุมอารมณ์ได้

ตอนนี้ที่เห็นคือไวท์ ที่ไปกวนประตูคู่แข่ง จนคู่แข่งต้องเสียคนมาขวางในนัดล่าสุด

การตัดเกมแบบเนียนๆอย่างตอดบอลเพื่อตัดเกมให้ไวในแดนกลางหรือแดนคู่แข่ง มันสำคัญครับ เพราะเคยเห็นแต่ทีมหลงเหลี่ยม

และทีมทีประสบความสำเร็จมีนักเตะที่ทำแบบนี้ได้มากกว่า1คนแน่นอน

มีฮาร์ดแมนก็ไม่ชอบหรอก เล่นเอาใบเหลืองใบแดงมาแบบกรรมการยัดให้ ก็โดนด่าละ ทุกวันนี้ต้องเล่นตามแท็คติค ก็พอเข้าใจนะว่าอยากให้มีฟีลนั้น เหมือนไอกีมาถ่อยของนิวอะ แต่ถ้าดวงซวยโดนกรรมการแจกแดงเลย ทีมก็เสียหาย มันไม่ได้โชคดีแบบนั้นตลอดหรอก รู้ว่าพูดมาหวังอะไรแต่ก็ระวังละกัน กรรมการไม่ได้ตัดสินเข้าข้างอาเซนอลมาแต่ไหนแต่ไรละ มีสมองก็คิดไป 55

ต้าตอนนั้นมันอยากเล่นบอลแบบสุภาพบุรุษ คุมทีมแบบติ๋ม เพราะพึ่งเริ่มคุมทีม
มันยังไม่กล้าไปงัดผู้จัดการทีมคนอื่นแบบตอนนี้เลยด้วยซ้ำ

ผมเถียงให้มัน เพราะเข้าใจว่า มันทำเพราะเอาคืนแทนเลโน่
ตอนนั้นแฟนบอลยังแตกเป็น2ฝั่ง

อาร์เตต้ามีปัญหาตรงมันไปยั่วยุ
ทั้งแถม ทั้งดูถูกเรื่องค่าเหนื่อย แล้วก็มีภาพบีบคอ

---

มันไม่ได้สไตล์ถ่อยเป็นสันดานแบบบาร์ตัน หรือเน้นเข้าหนักแบบรอยคีน
เป็นเรื่องทัศนคติการเล่นไม่ตรงกับผู้จัดการทีม

ถ้ามันจะเลวขนาดนั้น ยังไงละครับ ลิสมาให้หน่อย

อย่างมาลาซิโอก็ไม่มีประวัติให้ลากมาตบเลย
มาร์กเซย ที่จำได้ก็เตะป้ายเพราะหัวร้อน ก็ไม่มีอะไร มีกลับบ้านประชดซึ่งมันก็ไม่ได้ทำคนเดียว ผู้จัดการทีมก็ประชดก่อน แล้วผู้จัดการทีมก็ยังใช้ปกติ
แฮร์ธาก็มีแค่เรื่องติดชอบบังบอลชมล้ม แล้วก็โดนว่าไม่ให้ทำ

แล้วก็ยังติดทีมชาติ
คืออยากจะให้มันมีปัญหาให้ได้อ่ะ

ณ จุดนั้น มันแล้วแต่คนจะมองครับ

ผมเห็นแค่มันเริ่มหลังเลโน่โดนโมเปยเล่นหนัก จนโดนหิวออก

เท่านั้นแหละ มันก็ปั่นแหลกเลย

คือต้องให้โมเปยตะบะแตก ถ้ามันติดใบเหลืองหรือหลุด
แนวรับก็จะเบาขึ้นไงครับ

โอยคุณ ตอนนั้นอ่ะ อาร์เซน่อล ยังสู้ไบรตันไม่ได้เลย
คุณจะเอาอะไรมาเสีย
น่อลเล่นบอลอุดอยู่ด้วยซ้ำ

ต้าเขามองแค่เรื่อง เป็นสิ่งที่นักเตะไม่ควรทำ แค่นั้นแหละ