ได้ไปสัมภาษณ์กับหัวหน้าแผนกเรียบร้อยแล้วครับ แต่ย้อนไปนิดก็คือมีพี่มาชวนไปทำงานด้วยก็บอก scope งานคร่าวๆประมาณนึง แล้วก็บอกว่าไปคุยกับหัวหน้าแผนกพี่ก่อนว่างาน/เงินโอเคมั้ย พอสัมภาษณ์เรียกเงินเสร็จสับพี่เค้าก็โทรมา อารมณ์แบบว่ายังไงเอ็งก็ได้ เพราะมาในสายพี่ เค้าก็เลยเล่าเรื่องงานที่ต้องทำ บานออกมาเยอะมาก เงินที่เรียกไปตอนแรกกับสิ่งที่คุยในห้องคนละอย่างกันเลย ทีนี้อีก2-3วันบริษัทจะโทรกลับคอนเฟิร์มว่ารับไม่รับ จังหวะนี้ผมควรจะขอเงินเพิ่มดีมั้ย น่าเกลียดไปป่าว ถ้าราคาที่ดีลกันแล้วโอเค ผมอาจจะขอต่อรองลดงานลงจะโอมั้ย ซึ่งขอลดงานยากมาก เหมือนวางมาให้แล้ว

ลองบอกว่าได้ counter offer มาเท่านี้ๆ

ขอตรง ๆ ไปเลย

ผมว่าควรคุยตรงๆ แล้วบอกว่าผมคงเลือกอยู่ที่เดิมต่อเพราะ scope งานเยอะขึ้นกว่าที่คุยไว้ตอนแรก ไม่เช่นนั้นผมอาจจะเรียกมากกว่านี้อะไรก็ว่าไป ลองหาคำพูดให้ฟังแล้วดูสละสลวยดูในการขอเรียกเพิ่มนะครับ

ก็ขอได้เลย พูดไปว่าเรามองว่า JD ที่คุยกันมันมากกว่าที่คุยกันตอนแรก ไม่ต้องไปบอกหรอกว่าได้ offer จากที่อื่นนู่นนี่ มันดูไม่มืออาชีพอะ เจรจากันไปตามตรง อย่าไปคิดว่าเราต้องตอบรับแน่ ๆ แค่นั้นแหละ ถ้า JD กับเงินไม่สอดคล้องกันก็ไม่จำเป็นต้องรับ

น่าเกลียดไหม ผมว่าไม่นะ เพราะ JD เยอะกว่าที่คุยไว้ตอนแรก แต่ HR จะทำงานลำบากตอนแจ้งผล
เพราะตอนพิจารณาเป็นเงินอีกเรทนึง พอคุณ offer มาเพิ่ม เขาต้องเอาไปพิจารณาใหม่ เพราะไอคนโทรไม่มีอำนาจตัดสินใจแน่นอน
ตรงนี้อาจมีหลุดได้ ถ้าแง่ร้ายสุด ๆ เขาอาจจะมองว่าหิวเงินอารมณ์ผ่านพิจารณาแล้วเล่นตัว

ผมว่าชิงโทรไปก่อนละคุนตรง ๆ ไปเลย หรือ จะเหลี่ยมหน่อยก็บอกไปเลยว่าที่เก่า หรือ ที่สัมอีกที่ offer มาเท่านี้ แต่ผมสนที่นี้ บลา ๆ ว่าไป

ก่อนหน้านี้ผมก็ได้งานแล้วเขาแจ้งมาตัวเลขนึง

ผ่านไปสองวันผมโทรไปให้คำตอบบอกว่าคงต้องปฏิเสธเพราะได้ counter offer มาเท่านี้

ทางบริษัทปลายทางเขาก็แจ้งอีกเลขมาให้ตัดสินใจครับ ผมก็ยืนยันปฏิเสธเหมือนเดิม

ก็จบแค่นั้นครับ

ลองคุยดูได้ครับ แต่ต้องรับความเสี่ยงที่จะไม่ได้งาน

ถ้ามั่นใจในตัวเองก็ต่อรองเลยก็ดีครับ ไปขอหลังเข้างานละมันจะยาก

ผมเห็นด้วยกับท่านบนว่าควรจะพูดเปิดก่อนและตรงๆไปเลยว่าพอฟังรายละเอียดเต็มๆแล้ว
มันมากกว่าที่คิดไว้พอสมควร อยากได้ค่าตอบแทนมากกว่าเดิมซัก...(ใช้เป็น %)
และไม่เห็นด้วยที่จะใช้มุขว่าที่อื่นให้เท่านั้นเท่านี้ อยากให้ตรงไปตรงมามากกว่า

รีบขอด่วน เริ่มงานใหม่กว่าจะปรับอีกเยอะๆ 2-3 ปีเลย
ด้านได้ อายอดครับ

ก็ควรคุยเสียแต่ตอนนี้ครับ

เพราะถ้าคุณไม่พูดด้วยเหตุผลที่ "ปากหนัก" คุณก็จะมานั่งบ่นทีหลังว่า กูน่าจะพูด

ดังนั้นควรพูดเลยครับ ไม่น่าเกลียด เรื่องเงินเดือนเป็นเรื่องที่คุยตรงๆ

ทีนี้ ปัญหาคือ ถ้าเกิดพูดไปแล้วดันไม่ได้งานมาจะทำยังไง

1. คุณมีที่สำรอง หรือไปหางานที่อื่นไว้บ้างหรือเปล่า
2. โปรไฟล์ของคุณดีเลิศขนาดที่สมัครที่อื่น ก็มีโอกาสได้งานสูงไหม

ถ้ามั่นใจตัวเอง พูดเลยครับ

แต่ในกรณีที่ไม่มั่นใจตัวเอง หรือกลัวไม่ได้งาน

คุณ "ต้องชั่งน้ำหนักด้วยตัวเอง" ว่าทำแบบไหนคุ้มกว่า

ชีวิตคุณครับ ต้องเลือกเอง คนอื่นที่ไหนๆ หรือในนี้ก็ตาม ทำได้แค่แนะนำในฐานะที่ว่า ถ้าเป็นเขา เขาจะทำแบบนั้น

แต่เอาจริงๆ

"คุณ"

"ต้อง"

"เลือก"

"เอง"

ไม่น่าเกลียดครับ ดีกว่าเข้าไปแล้วมีปัญหา

ถ้าเขาต้องการเราไปร่วมงานจริง อาจจะมีการต่อรอง

คุยกันตรงๆเลยครับ เชื่อเถอะHRเค้าเจอเคสพวกนี้มาเยอะแล้ว มันเป็นปกติอาชีพเค้าครับที่ต้องดีลเรื่องพวกนี้ให้บริษัท และเค้ามีBudgetอยู่แล้วแน่นอน

เราก็คุยตรงๆเลยว่าหลังจากคุยเรื่องหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายแล้ว มันเยอะกว่าใน Job Description มาก เลยอยากขอตกลงเรื่องค่าจ้างใหม่ แต่ก็เกริ่นไปก็ได้ครับว่าไม่มีปัญหากับภาระงานและรับผิดชอบได้ แค่อยากได้ค่าจ้างเพิ่ม ว่ากันตรงๆไปเลยครับ อย่าไปอ้อมแอ้มหรือทนทำครับ ไม่มีความสุขแน่นอน

ผมก็มีเคสเด็กลูกจ้างผมมาขอขึ้นเงินหลังสัมรอบสองกับTeam Leadเสร็จไปแล้วเหมือนกันสาเหตุคือเค้าสมัคร Video Editing มา แต่ว่าผมอยากได้ที่ทำ Motion เบื้องต้นได้ด้วย แต่ใน Job Description ผมระบุไปไม่ครบเอง เค้าก็พูดมาเลยว่าแบบมันมีภาระงานเพิ่มมาขอเพิ่มเงินเดือนได้มั้ย ซึ่งมันอยู่ใน Budget ผม ผมก็รับได้ ถ้าเค้าทำได้ qualified พอ

เพิ่มเติมนิดนึง
ถามว่ามีโอกาสหลุดงานมั้ย มีแน่นอน เพราะไม่ใช่HRทุกคนจะยอมดีลด้วย ดังนั้นก็เผื่อใจไว้ครับ แต่ว่าลองชั่งน้ำหนักดู งานเยอะเงินน้อย หรือ ไปหาที่ตรงใจดีกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่ความรู้สึกท่านด้วยว่าอยากทำที่นี่มากน้อยขนาดไหน

มีอะไรก็คุยกันตรงๆดีออกครับ เราไม่ได้ล้ำเส้นอะไรครับ

เว้นแต่คนที่เราขอใจแคบมากๆ