BYD Vs DEEPAL เพื่อนๆเลือกอะไรกันครับ (Vote)
ในเรื่อง รูปลักษณ์ ความสวยงาม เทคโนโลยี ความคุ้มค่า บริการหลังการขาย

เทคภายใน deepal สวยกว่าเยอะเลย

แต่ผมเลือก byd พึ่งได้รถมาวันศุกร์

ชอบ Deepal ออกแบบสวยมาก

ความสวยงามต้องยกให้ Deepal ครับ

แต่ถ้าให้เลือกใช้ ผมไป byd ครับ ผมใช้ทั้ง tesla และ byd ผมชอบ android based มากกว่าเยอะ มันยืดหยุ่นและลงแอพได้สะดวกกว่ามาก พวก information ต่างๆหลังจากใช้มา ปีกว่า ผมก็ไม่สนใจดูแล้วล่ะครับ ขึ้นรถผมก็ติดเครื่องเปิดแมพ เปิดหนังแล้วก็ขับอย่างเดียวครับ ไม่ต้อง jailbreak ไม่ต้องซื้อกล่อง ไม่ต้องต่อมือถือ ลงแอพที่จอ หา Aircard กับซิมเทพ เสียบทิ้งไว้จบแล้ว

ถ้า ณ เวลานี้ผมเลือกbyd แต่ก็เห็นเคสแบตวูบอยู่ๆก็แบตหมดกลายเป็น0เรื่อยๆ ช่องแอร์หักมาเนืองๆ

Deepalยังใหม่จัดยังไม่รู้ว่ายังไง

Deepal ที่วางขายไทยอยู่ดูแข็งๆทื่อๆไงไม่รู้

แต่ถ้า AVATR 11/12 มายกให้เลยครับสวยจัด Song L ก็เท่

Urus จีน สวยจริง

LFP แบตวูป เป็นทุกยี่ห้อครับ ไม่เว้นแม้แต่ Tesla LFP ตัวล่างสุด

วิธีแก้นั้นอยู่ในคู่มือครับ ต้อง Rebalance Battery ทุกๆ 3 เดือน

ส่วนตัวผมใช้มา ปีกว่า ไม่เคยเจอวูปแม้แต่ครั้งเดียวครับ ตอนนี้วิ่งงาน เช้า/เย็นกลับ 360 โล อาทิตย์ล่ะ 2 วัน ไม่แวะชาร์จเลย ถึงบ้านเหลือ 6-7% จากตอนเช้า 100% มา จะ 5 เดือนแล้วครับ ไม่เคยเจอวูปครับ

ส่วนแบตของ Deepal เป็น NMC คนล่ะอย่างกับ BYD มีดี มีเสีย แตกต่างกันครับ ไม่ใช่ว่า NMC เห็นว่าแพงแล้วจะดีอย่างเดียวครับ

Byd ถ้ามันปรับ UI ให้สวยกว่านี้จะดีมาก หน้าปัดมันโบราณมากเลย

รูปร่างภายนอกแล้วแต่คนชอบ ทางใครทางมัน

ภายใน และ Software ทาง Deepal ทำได้ดีกว่า รู้สึกว่า Huawei จะทำ Software ให้

แต่ผมเลือก BYD เพราะเรื่องของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ และศูนย์บริการที่เยอะกว่า

BYD ปัญหาจุกๆ จิกๆ เริ่มมา ตามจำนวน
โดยเฉพาะแบต กับคุณภาพชิ้นส่วน
แล้วนโยบายที่ไม่เคลียร์ ว่าทำอะไรบ้างหลุดประกัน
...คือเหมือนทำอะไรก็หลุดประกันมันหมด แม้แต่เปลี่ยนแบตลูกเล็กก็ต้องเปลี่ยนศูนย์ อันนี้ไม่ไหว
ข้อดี BYD น่าจะตั้งตัวได้ละ ไม่น่าจะเทแล้ว

Deepal รถยังวิ่งไม่เยอะ รอก่อน
รอ 2 อย่าง
- รถวิ่งเยอะ ขายได้มากขึ้น จนพอสรุปเคสได้
- รถขายออกน้อยจนเท กลับบ้านไป

ถ้าเทียบความเสี่ยงระหว่าง "จุกจิก" กับ "โดนเท"
ตอนนี้ไป BYD ปลอดภัยกว่า

ใช่เลยครับ Dlink ที่จีนไป Version 5 แล้วอ่าครับ ที่ไทยยัง 3 อยู่เลย ก็ได้แต่หวังลมๆแล้งๆ 555

สิ่งที่ห่วยแตกของเรเว่คือมันกำกวมไปหมด

1. คันที่ทดสอบวิ่ง 160,000 โล แล้วบอกแบตเสื่อม 6% ไหนล่ะเอกสาร ไหนล่ะหลักฐานการตรวจสอบ ทุกวันนี้มีแต่ Youtuber บอกต่อให้ โคตรทุเรสเลยครับ

2. คันที่ควันท่วม (ไฟยังไม่ไหม้) ดักไว้ก่อน ให้คันใหม่แล้วจบเลย??? คันนั้นเอาตรวจสอบถึงไหนแล้ว ผิดปกติตรงไหน ถือว่าโชคดีมากนะ ถ้ามีคันที่สองไหม้อีก ขอให้แก้ปัญหาให้ได้ล่ะกัน

ยังมีอีกหลายๆอย่างที่ ทำงานกันแปลกๆทั้งดีลเลอร์ทั้งเรเว่ แต่ภาพรวมคือ “ห่วย” ครับ โชคดีของเรเว่ที่สินค้ามันขายตัวมันเอง ถ้าหลังการขายยังห่วยแบบนี้ เจ้าอื่นก็จะแซงไปกันได้ในอนาคตอันใกล้

ใช้ตัวtop อยู่ หน้าจอยังกะมือถือตกยุค

หลังการขายเนี่ย ห่วยจริง
แต่สภาพก็คือ เหมือน MG Nissan Mazda Ford Chev แหละ
คือ ไม่เป็นข่าวใหญ่ ไม่ขยับ กับ พยายามเคลียร์หลังบ้าน ให้ลบโพสต์
แล้วแนวทางแก้ปัญหาก็คือ เคสบายเคส...เคสไหนโวย เสียงดัง โพสต์ดัง ก็เร็ว

หลายเคสที่ เป็นปัญหาคุณภาพ แต่ดันให้เคลมประกันนั่นก็เ-งซวยเลยแหละ

แล้วดันอะไหล่แพงมากไง แพงขูดเลือดขูดเนื้อ
พอมีความไม่แน่นอน เลยยิ่งน่ากังวล

แต่ รถไฟฟ้า ตอนนี้ที่น่าจะปักหลักได้ จริงๆ
ก็มีแค่ MG ที่ทำมานาน BYD ที่ยอดขายไปได้ GAC ที่เอาไปขายแท็กซี่ Neta+GWM ที่เริ่มผลิตโรงงานไทย