เจาะลึกที่มาและความหมายของชื่อทั้ง 50 รัฐของสหรัฐอเมริกา
-----
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ประกอบไปด้วยรัฐทั้งหมด 50 รัฐ ซึ่งในแต่ละรัฐก็จะมีเรื่องราวและประวัติศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง
โดยในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงที่มาและความหมายของชื่อรัฐทั้ง 50 รัฐของสหรัฐอเมริกากัน...
-----
• อลาบามา (Alabama)
มาจากภาษาชาวช็อกทอว์ (Choctaw) แปลว่า ผู้เก็บเกี่ยวพืชพรรณ
-----
• อลาสกา (Alaska)
มาจากภาษาของชาวอินูอิต alakshak แปลว่าคาบสมุทรหรือดินแดนที่ยิ่งใหญ่
-----
• แอริโซนา (Arizona)
มาจากภาษาสเปน Arizonac ที่มีต้นตอจากภาษาชนพื้นเมือง แปลว่าบ่อน้ำพุเล็ก ๆ
-----
• อาร์คันซอ (Arkansas)
มีต้นตอจาก ‘akansa’ ที่เป็นคำที่ชาวอัลกอนควิน (Algonquin) ใช้เรียกชาวควาพาวส์ (Quapaws) ต่อมาถูกเรียกโดยฝรั่งเศสว่า ‘Arcansas’
-----
• แคลิฟอร์เนีย (California)
มาจากชื่อเกาะในนวนิยายเรื่อง ‘เซอร์กาสแห่งเอสพลานเดียน’ (Las sergas de Esplandián) ของสเปนในศตวรรษที่ 16 ซึ่งตอนนั้นสเปนเข้าใจผิดว่าแคลิฟอร์เนียเป็นเกาะ
-----
• โคโลราโด (Colorado)
มาจากชื่อแม่น้ำริโอ โคโลราโด (Rio Colorado) ในภาษาสเปนแปลว่า แม่น้ำสีแดง
-----
• คอนเนตทิคัต (Connecticut)
มาจากชื่อแม่น้ำคอนเนตทิคัต ที่มีต้นตอจากภาษาชาวโมฮิแกน (Mohican) แปลว่าแม่น้ำสายยาว
-----
• เดลาแวร์ (Delaware)
มาจากชื่อแม่น้ำเดลาแวร์ ที่ตั้งตามชื่อของโธมัส เวสต์ บารอนเดลาแวร์ที่ 12 (Thomas West, 12th Baron De la Warr) หนึ่งในผู้ก่อตั้งอาณานิคมเวอร์จิเนีย ที่เป็นอาณานิคมแห่งแรกของอังกฤษในอเมริกา
-----
• ฟลอริดา (Florida)
ทฤษฎีแรกบอกว่ามาจากภาษาสเปน La Florida แปลว่าเต็มไปด้วยดอกไม้ ส่วนอีกทฤษฎีบอกว่า มาจาก Pascua Florida ในภาษาสเปนเช่นกัน แปลว่าดอกไม้วันอีสเตอร์ เนื่องจากชาวสเปนเดินทางมาถึงฟลอริดาตรงกับวันอีสเตอร์พอดี
-----
• จอร์เจีย (Georgia)
ตั้งตามพระนามของพระเจ้าจอร์จที่ 2 แห่งอังกฤษ
-----
• ฮาวาย (Hawaii)
ตามตำนานของชาวฮาวายเล่าว่า หมู่เกาะแห่งนี้ถูกค้นพบโดยชายที่ชื่อ ฮาวาย โลอา (Hawaii Loa) ระหว่างที่เขาออกล่าปลา ส่วนอีกทฤษฎีบอกว่า มาจากภาษาท้องถิ่นแปลว่า บ้านเกิด
-----
• ไอดาโฮ (Idaho)
มีอยู่หลายทฤษฎี แต่ทฤษฎีที่ดูพอเป็นไปได้ คือมาจาก Edah hoe ในภาษาของชาวโชโชน (Shoshone) แปลว่าแสงบนภูเขา
-----
• อิลลินอยส์ (Illinois)
มาจากภาษาฝรั่งเศสที่มีต้นตอจาก Illini ในภาษาพื้นเมืองแปลว่า ผู้ชายหรือนักรบ
-----
• อินเดียนา (Indiana)
มาจากภาษาละตินแปลว่า ดินแดนของชาวอินเดีย (ที่หมายถึงชนพื้นเมืองอเมริกัน)
-----
• ไอโอวา (Iowa)
มาจากชื่อแม่น้ำไอโอวาที่ตั้งโดยชาวซู (Sioux) ส่วนความหมายไม่เป็นที่แน่ชัด
-----
• แคนซัส (Kansas)
มาจากชื่อชนพื้นเมืองเผ่าแคนซา (Kansa)
-----
• เคนทักกี (Kentucky)
มาจากชื่อแม่น้ำเคนทักกี ที่ตั้งโดยชาวอิโรคอยส์ (Iroquois) แปลว่าทุ่งหญ้า
-----
• หลุยเซียนา (Louisiana)
ตั้งตามพระนามพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส
-----
• เมน (Maine)
มาจากชื่อจังหวัดเมนในฝรั่งเศส บ้างก็ว่านักสำรวจชาวฝรั่งเศสตั้งใจให้พื้นที่นี้เป็นดินแดนหลัก (Main Land) เพื่อแยกจากเกาะเล็ก ๆ
-----
• แมรีแลนด์ (Maryland)
ตั้งตามพระนามของพระนางเฮนเรียตตา มาเรีย (Henrietta Maria) มเหสีของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ
-----
• แมสซาซูเซตส์ (Massachusetts)
มาจากภาษาชาวอัลกอนควิน Massadchu-es-et แปลว่าเนินเขาใหญ่
-----
• มิชิแกน (Michigan)
มาจากชื่อทะเลสาบมิชิแกน ที่ตั้งโดยชนพื้นเมืองแปลว่าทะเลสาบใหญ่
-----
• มินนิโซตา (Minnesota)
มาจากชื่อแม่น้ำมินนิโซตา ตามภาษาชนพื้นเมืองแปลว่า แม่น้ำที่ขุ่น
-----
• มิสซิสซิปปี (Mississippi)
มาจากชื่อแม่น้ำมิสซิสซิปปี ตามภาษาชนพื้นเมืองแปลว่า แม่น้ำใหญ่
-----
• มิสซูรี (Missouri)
มาจาก wimihsoorita ในภาษาชนพื้นเมืองแปลว่า ผู้คนที่อยู่บนเรือแคนูใหญ่
-----
• มอนทานา (Montana)
มาจากภาษาสเปน montaña แปลว่าภูเขา
-----
• เนแบรสกา (Nebraska)
มาจากภาษาชนพื้นเมือง แปลว่าน้ำเรียบ
-----
• เนวาดา (Nevada)
มาจากชื่อภูเขา Sierra Nevada ในภาษาสเปนแปลว่า ภูเขาที่มีหิมะปกคลุม
-----
• นิวแฮมป์เชียร์ (New Hampshire)
ตั้งตามชื่อเมืองแฮมเชียร์ เมืองชายฝั่งทางตอนใต้ของอังกฤษ
-----
• นิวเจอร์ซีย์ (New Jersey)
ตั้งตามชื่อเกาะเจอร์ซีย์ ในช่องแคบอังกฤษ
-----
• นิวเม็กซิโก (New Mexico)
เม็กซิโกใหม่ (Nuevo México) เป็นชื่อที่เม็กซิโกตั้งให้กับพื้นที่ตอนเหนือของแม่น้ำริโอแกรนด์ (Rio Grande)
-----
• นิวยอร์ก (New York)
ตั้งตามชื่อดยุคแห่งยอร์ก (Duke of York) พระอนุชาของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 โดยในอดีตนิวยอร์กเคยเป็นของเนเธอร์แลนด์ และถูกตั้งชื่อว่า นิวอัมสเตอร์ดัม (New Amsterdam)
-----
• นอร์ทแคโรไลนา (North Carolina)
มาจากพระนามของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ ที่ในภาษาละติน คำว่าชาร์ลส์จะเขียนว่า แคโรลุส (Carolus)
-----
• นอร์ทดาโกตา (North Dakota)
มาจากชื่อชนพื้นเมืองเผ่าดาโกตา ที่แปลว่าสหาย
-----
• โอไฮโอ (Ohio)
มาจากชื่อแม่น้ำโอไฮโอ ในภาษาชนพื้นเมืองแปลว่า แม่น้ำที่สวยงาม
-----
• โอคลาโฮมา (Oklahoma)
มาจากภาษาชาวชอคทอว์ (Choctaw) คือ okla และ homma ที่แปลว่า คนและสีแดง
-----
• โอเรกอน (Oregon)
ที่มาของชื่อไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ปรากฏครั้งแรกบนแผนที่ของฝรั่งเศสในปี 1715 ในชื่อ Ouaricon-sint
-----
• เพนซิลเวเนีย (Pennsylvania)
มาจากชื่อผู้ก่อตั้งอาณานิคม วิลเลียม เพนน์ (William Penn) รวมกับ sylvania ในภาษาละตินที่แปลว่าป่าไม้
-----
• โรดไอส์แลนด์ (Rhode Island)
ถูกตั้งโดยนักสำรวจชาวอิตาเลียน ตามชื่อเกาะโรดในทะเลอีเจียนของกรีซ หรือมาจากภาษาดัตช์ Rood Eylandt ที่แปลว่า เกาะสีแดง
-----
• เซาท์แคโรไลนา (South Carolina)
รัฐแคโรไลนาแบ่งออกเป็นนอร์ทแคโรไลนาและเซาท์แคโรไลนาในปี 1712
-----
• เซาท์ดาโคตา (South Dakota)
ในอดีตดาโคตาเคยมีสถานะเป็นดินแดนดาโคตา (Dakota Territory) ก่อนที่ในปี 1889 จะมีการแบ่งดินแดนออกเป็นสองส่วน คือรัฐนอร์ทดาโคตาและรัฐเซาท์ดาโคตา
-----
• เทนเนสซี (Tennessee)
ตั้งชื่อโดยนักสำรวจชาวสเปน ตามชื่อหมู่บ้านของชาวเชอโรกี (Cherokee) ที่ชื่อ Tanasqui
-----
• เท็กซัส (Texas)
มาจากภาษาสเปน tejas ที่เป็นชื่อชนพื้นเมืองเผ่าหนึ่ง หรือมาจากคำว่า teyshas ในภาษาชนพื้นเมืองแปลว่าสหาย
-----
• ยูทาห์ (Utah)
มาจาก yuttahih ในภาษาชาวอาปาเช่ (Apache) แปลว่า ผู้คนแห่งขุนเขา
-----
• เวอร์มอนต์ (Vermont)
มาจากภาษาฝรั่งเศสแปลว่า ภูเขาสีเขียว
-----
• เวอร์จิเนีย (Virginia)
มาจากพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ ที่ทรงมีฉายาว่า ราชินีพรหมจรรย์ (The Virgin Queen)
-----
• วอชิงตัน (Washington)
ตั้งตามชื่อจอร์จ วอชิงตัน (George Washington) ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา
-----
• เวสต์เวอร์จิเนีย (West Virginia)
เป็นรัฐที่แยกตัวจากรัฐเวอร์จิเนียในปี 1863
-----
• วิสคอนซิน (Wisconsin)
มาจากภาษาชนพื้นเมืองแต่มีความหมายไม่แน่ชัด อย่างเช่นแปลว่าแม่น้ำสายหลัก ลำธารที่ไหลเชี่ยว หรือหลุมริมลำธารที่มีนกทำรัง เดิมเคยถูกสะกดว่า Ouisconsin หรือ Misconsing
-----
• ไวโอมิง (Wyoming)
มาจากชื่อหุบเขาไวโอมิง ที่เป็นภาษาชนพื้นเมืองแปลว่า ที่ราบใหญ่
*** References
• U.S. Department of the Interior. Origin of Names of US States.
https://bitly.ws/TMjD
• insider. The surprising stories behind how every US state got its name.
https://bitly.ws/TMjK
credit HistofunDeluxe