คนไทยต้องสอนว่า ให้นั่งเฉยๆ แล้วเรียกร้องเยอะๆ ให้ได้ชีวิตดีๆ

มาพูดให้ขยันทำงาน ขวนขวาย พัฒนาตัวเอง แล้วชีวิตจะดีไม่ได้

เรื่องบางเรื่องคนรวยเขาไม่มาสอนคนอื่นหรอก เพราะสอนไปไม่เข้าใจ
เขาอยู่เฉยๆแล้วแบ่งแยกความคิดของ ผู้ประกอบการ กับลูกค้าไป
เพราะสื่อสารไปคนก็ไม่เขาใจ

ประชาชนบนโลก 95% สนใจแต่การบริโภค ไม่ได้สนใจส้รางผลผลิต มันจึงแบ่งความคิดออกจากัน

ความรู้ทุกอย่างมันจำกัดให้คนเฉพาะกลุ่มเรียนรู้เท่านั้น อย่างมหาวิทยาลัย ยังแบ่งออกเป็นหลายคณะ วิทยาลัย แล้วยังแบ่งออกเป็นอีกหลายเอก

การเรียนรู้บางเรียนอาจจะไม่ถูกจริตเลยก็ได้ ถ้าไปนั่งเรียนผิดห้อง

--

คุณไปนั่งเรียน รัฐศาสตร์อาจจะอินความเสมอภาค ความเท่าเทียมในมนุษย์ และกระอักกระอ่วนกับกับการสร้างนวตกรรม

บางคน เหม็นความเสมอภาคและไม่เชื่อว่ามีอยู่จริง แต่อินเรื่องการสร้างเทคโนโลยีการไขปัญหาชีวิต ที่จะยกระดับตัวเองได้

Netflix, Starbuck

พวกกูสองคนอีกแล้วใช่ไหม

มันมีคนที่ไม่มีเวลาจิงๆนะ

แบบไม่มีเวลาพักแทบจะไม่มี

บางคนมันไม่มีเวลาจริงๆ

คนไทยขยันเยอะนะบางคนทำงานหามรุ่งหามค่ำ แต่สภาพสังคมมันได้แค่นี้

ตื่นเช้าเข้างาน 8.30 เลิก 6 โมง รถติดนั่งรถเมล์ถึงบ้าน ทุ่ม 2 ทุ่ม

เอาของไปขาย ของกินไปขาย ตลาดกลางคืนกว่าจะเก็บร้านกลับบ้าน ตี2

บางคนมีคนแก่ป่วยที่บ้าน ทำอะไรไม่ได้ ต้องดูแลหาของกินให้อีกแบบใกล้ชิด

ลูป เสาร์ อาทิตย์ ไม่มีหยุด

ไม่ผิดแหละแต่แรงไปหน่อยมั้ง ที่บอกดูหนังไปวันๆ คนชอบให้เวลากับสิ่งที่ไร้ความหมายกับชีวิต คำพูดแกมันสุดโต่งไปหน่อย

ทำงาน audit big4 หรือ consult บ.ใหญ่ๆ คุณไปบอกเค้ามีเวลานี่ตลกเกิน


ของแบบนี้แล้วแต่สังคมรอบตัว

ผมว่ามันเพี้ยนๆนะ ประสบความสำเร็จตรงไหนก้อยังไม่เห็นชัดๆ ถ้าทั่วๆไปก้อ เจ้าของธุรกิจรายหนึ่ง ซึ่งก้อไม่ได้ใหญ่มาก

แต่คำพูดใหญ่โตเหลือเกิน

โชว์พาวว่ากูเจ๋งระดับซุปเปอร์ไซย่า แล้วก้อโปรโมทตัวเอง

ใครชอบก้อตามสบายเลยครับ

คนแบบนี้วันนึงผมว่าจะรวยนะ แต่อาจต้องใช้เวลาหน่อย

ถามว่าที่เค้าพูดถูกไหมมันก็ถูกอยู่แหละ แต่สงสัยมีสิทธิ์อะไรถึงตัดสินคนอื่นว่ากำลังทำอะไรที่ "ไร้ความหมายต่อชีวิต" ?
แต่ละคนก็มีชีวิตและลักษณะงานไม่เหมือนกันไหม ซึ่งผมยังไม่เข้าใจว่าการบอกให้ไปออกกำลังกายเล่นกล้ามแทนมันจะทำงานดีขึ้นยังไง โดยเฉพาะกับคนทั่วไปที่เค้าก็ไม่ได้มีปัญหาสุขภาพอะไร หรือกล้ามใหญ่แล้วจะใช้คอมพิวเตอร์ได้ดีขึ้นหรอ แต่เค้าถ้าหมายถึงฟรีแลนซ์รับจ้างขนของก็คงใช่แหละ

ปัญหาคือมันต้องมีการแบ่งเวลาไงครับ คนเรามีเวลาเท่ากันแต่คนที่เค้ารวยจริงๆ หมายถึงคนที่สร้างชีวิตให้รวยนะไม่ใช่ลูกที่เกิดมาแล้วรวยเลย เค้าเอาเวลาที่เราอ้างว่าเราพักผ่อนนี่แหละไปหาเงินหรือสร้างรายได้ไงครับ ซึ่งมันก็ถูกต้องในสิ่งที่เค้าพูดนะ

แต่ประเด็นมันอยู่ที่ตัวเราจะขยันขนาดไหนต่างหากครับ หรือว่าเป้าหมายของเราอยู่ตรงไหน ถ้าเราพอใจที่จะดูเน็ตฟลิก และบอกว่านี่คือเวลาพักผ่อนของเรา มันก็ไม่ผิดนะเพราะเราพอใจตรงจุดนี้ แต่หลายๆคนชอบบ่นว่าอยากรวยอยากมีpassive income อยากมีเงินเก็บเป็นล้านๆ แต่มีเวลาว่างแล้วนั่งดูเน็ตฟลิกตลอดทุกวัน วันละ1-2ชม. มันก็แปลกๆนะ เหมือนคิดได้แต่ไม่ทำ ประมาณนี้น

ชีวิตใครชีวิตมันอ่ะ

ผมไม่ชอบ CK แค่ มันล้างสมองไปอ่ะ ก็วิธีการเขาแหละที่ล้างสมองคนให้ไปทำงานกับเขา เอาจริงๆที่เขาทำอยู่มันก็คือการให้คนเสียเวลาไปนั่งดูคลิปเขาอ่าแหละ เอาจริงๆหลายๆคลิปก็เสียเวลาชิบ

โอเคคนใช้ชีวิตแบบ CK โอกาสสำเร็จมันอาจจะเยอะกว่า แต่คนรับชีวิต สังคม และบุคลิกมันไม่เหมือนกันอ่ะ รวมถึงสายงานด้วย

บางคนการดู netflix อาจจะช่วนเยียวยาความเครียด แล้วตื่นมาทำให้เขาทำงานได้ดีกว่าเดิมก็ได้

เอาจริงๆถ้าถามผมนะ ถ้าจะรวยแล้วชีวิตทุกนาทีก็ต้องมีความหมายแบบ CK วิธีผมคือรวยยังไงให้ขี้เกียจได้มากที่สุดดีกว่า ทำยังไงให้มีเวลาทำสิ่ง "ไร้ความหมาย" แล้วได้เงินอ่ะ 555555

สิ่งเดียวที่เห็นด้วยคือ ผมก็ไม่ชอบคำว่า "ไม่มีเวลา" เหมือนกัน เพราะเอาจริงๆแล้วคนเราจัดสรรเวลาได้ ถ้ามองว่าสิ่งนั้นคุ้มค่า

เอาง่ายๆนะสังคมจะเห็นกันบ่อยๆ หุ่นเสียบอกไม่มีเวลาออกกำลังกาย แต่มีเวลาไปกินเหล้า

ไม่ไปเจอครอบครัว บอกว่าไม่มีเวลา แต่มีเวลาไปปาร์ตี้

ไม่มีเวลาส่งงาน แต่มีเวลาอัพสตอรี่

และไม่ใช่ 1-2 ครั้งแต่ซ้ำไปซ้ำมา อันนี้แหละข้ออ้าง สุดท้ายมันคือการจัดสรรเวลา และการให้คุณค่ากับแ่ล่ะสิ่งของแต่ล่ะคน แต่คนที่ไม่มีเวลาจริงๆก็มี พวก freelance โหมงานจนตัวแทบขาดไม่ได้พักก็เยอะแยะ

สำหรับผมสิ่งที่แต่ละคนเห็นว่าเป็นสิ่งที่เสียเวลาไม่เหมือนกันครับ ยกตัวอย่างเช่น ผมเป็นคนที่ไม่ชอบเลยเวลาตัวเสียเวลาไปกับการไถคลิปเฟสบุ๊ค สำหรับผมมันไม่ได้อะไรเลย ผมมองว่าผมเอาเวลานี้ไปไถblockditหรือดูหนังซีรี่ย์อนิเมะหรืออ่านหนังสือ,การ์ตูนหรือฟังพอดแคสเป็นเรื่องเป็นราวดีกว่า

แต่พี่ผมไม่ใช่เค้าเป็นคนไม่ดูหนังความผ่อนคลายของเค้าคือการไถพวกนี้เล็กๆน้อยๆ เพราะงั้นมันไม่เหมือนกันสำหรับแต่ละคน

แต่ผมก็ชอบคุณCKพูดในหลายๆเรื่องนะ

เห็นด้วยอะ

ผมไม่ชอบนะพูดเรื่อง ai จะแย่งงานบอกเลยเอางานกูไปเลย
ส่วนเรื่องเวลาเค้าจะเอาเวลาไปทำอารายก่อเรื่องของเค้า
ผมว่าบางคนเค้าอยากแค่ทำงาน ซื้อแกงถุงกลับบ้านดูหนังแล้วตื่นไปทำงานใหม่
เหมือนหนังเรื่อง perfect day

บิลเกตมาเล่น ss เหรอนี่