มีวันนี้เพราะแม้วให้

เรื่องนี้ก็ต้องย้อนไปไกลๆเลยครับ เส้นทางของ True กับ Ais ต่างกันเยอะ และส่งผลมาถึงทุกวันนี้
True สมัยก่อนเป็น TA Telecom Asia กับ โทรศัพท์ PCT บวกกับ UBC เคเบิ้ลสมัยก่อน
(พวกนี้เป็นสิ่งที่เจ้าสัวเลือกเก็บไว้สมัยปี40 ซึ่งเป็นการลงทุนที่ผิดพลาดแน่ๆ เพราะคนเลิกใช้โทรศัพท์บ้าน)

พอจะหันมาทำมือถือ ก็ไปร่วมกับ Orange ซึ่งก็เจ๊งไปอีกราย แต่ก็ยังจะดื้อทำต่อ
เพราะงั้น True ก็เลยมีหนี้ก้อนโต ที่ต้องทยอยคืนอยู่ทุกปีๆ ทำให้รวมๆแล้วกำไรแทบไม่มี ขาดทุนมาตลอด
พอไม่มีตัง จะไปลงทุนต่างๆนาๆ ประมูลสู้ AIS ที่การเงินแข็งแกร่งมันก็ลำบาก

หันมาดูฟาก AIS ที่มีชินคอร์ปของทักษิณเป็นเจ้าของ มองย้อนไปแล้วถือว่าอ่านขาดกว่า
ลงทุนในสัญญาณเน็ทตั้งแต่ก่อนปี40 พอเน็ทบูมขึ้นมา + มือถือโตแรง ก็ครองตลาดได้หมด
และทำกำไรมหาศาล ทำให้ฐานทุนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่Trueลงทุนผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
พอฐานทุนใหญ่ ก็ประมูลสัญญาณได้เยอะ วางโครงสร้างพื้นฐานได้แน่น

ในฟากเจ้าสัว เลือกโฟกัสไปที่ค้าปลีกและชนะในสนามนั้น แต่ในจังหวะที่ชนะขาดแล้ว
หันไปดูฟาก True ก็เรียกว่าแพ้ขาดไปแล้วเหมือนกัน สาเหตุเพราะ AIS ใหญ่เกินไปแล้ว
และตลาดโตเต็มที่แล้ว ทุกคนใช้เน็ท ทุกคนมีมือถือกันหมด

ซึ่งจะเติมเงินให้แบบจุกๆก็ไม่ไหว เพราะเพิ่งซื้อแมคโครโลตัสกลับ ก็หนี้ท่วมอยู่
แถมค้าปลีกที่ว่าแน่ๆ เจอช้อปปี้ลาซาด้า แถมมาด้วยผผู้เล่นรายใหม่ๆใหญ่ๆอีกหลายเจ้า

โดยสรุปก็คือ หนี้เยอะ พ่อไม่เติมตังให้ ไม่มีตังไปประมูลสู้
ไม้เด็ดปล่อยไปแล้วในการควบกับ Dtac

ผมเคยได้ยินแนวๆว่า

ตจว สัญญาณทรู ดีแทค กาก

รู้ได้ไงว่า เงินทุนและสายป่าน AIS สู้ไม่ได้

ตอนนี้ back ของ AIS ไม่ได้แย่กว่า TRUE
เผลอๆจะดีกว่าด้วยซ้ำ

AIS คือที่ 1 เรื่องการบริการ ทั้งคุณภาพสัญญาณ
ความเร็ว
บริการหลังการขาย
ระบบการจัดการหลังบ้าน

จึงเป็นที่มาว่าทำไมแพงกว่าทุกค่าย แต่ยังมีคนใช้มาก

กลุ่มลูกค้ามันชัดเจน แบ่งแยกกันไปแต่ละค่าย เหมือนเนตบ้านนั่นแหละ แต่ละพื้นที่ก็จะมีอยู่ค่ายหนึ่งที่สัญญาณไม่ค่อยมีปัญหา แล้วจะย้ายทำไม