ในการพัฒนาครั้งใหญ่ของแมนฯยูไนเต็ด เผยให้เห็นว่า เอเนออส(Ineos) ซึ่งนำโดยเซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ จะมีบทบาทกว้างกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรกเมื่อพวกเขาเข้าซื้อหุ้น25% มูลค่า1,300ล้านUS$ เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยในระหว่างการประชุมพนักงานที่จัดขึ้นเมื่อวันพุธ ซึ่งได้รับการดูแลโดยแพทริค สจ๊วร์ต รักษาการซีอีโอ ของแมนฯยูไนเต็ด



The Athleticได้เปิดเผยว่าในการประชุมครั้งนี้  พนักงานได้รับแจ้งถึงความเข้าใจที่ได้รับการแก้ไข ระหว่าง INEOSและครอบครัวเกลเซอร์ การปรับเปลี่ยนในข้อตกลงนี้หมายความว่า INEOS จะมีอำนาจในการตัดสินใจทางธุรกิจควบคู่ไปกับตระกูลเกลเซอร์ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้มีความเชื่อมโยงภายใน กับการดำเนินงานด้านฟุตบอล

รายงานอ้างว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ ชี้ให้เห็นแนวทางบูรณาการมากขึ้น ในการตัดสินใจที่สโมสร  ซึ่งตรงข้ามกับก่อนหน้านี้ ที่แยกธุรกิจและฟุตบอลออกจากกันอย่างชัดเจน ความรับผิดชอบหลักของ INEOS จะยังคงเป็นการบริหารการดำเนินงานด้านฟุตบอล อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าตระกูลเกลเซอร์เปิดกว้าง  เพื่อให้บริษัทของแรทคลิฟฟ์มีขอบเขตที่กว้างขึ้น ในการมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงทั่วทั้งสโมสร รวมถึงภาคการค้า เพื่อเพิ่มความสำเร็จในฟุตบอล


(แรทคลิฟฟ์เชื่อว่า มูลค่าสโมสรเพิ่มขึ้นได้อีกถ้าในสนามมีผลงานดี)

จากรายงานของ The Athletic นั้น INEOS เชื่อว่าความสำเร็จเชิงพาณิชย์ของสโมสร มีความผูกพันกับความสำเร็จในสนามอย่างแน่นแฟ้น ความเชื่อนี้ได้รับการเสริมแรงอีกจากการตัดสินใจคว้าตัวโอมาร์ เบอร์ราดา จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เบอร์ราดาซึ่งมีชื่อเสียงจากประสบการณ์ด้านฟุตบอล และความเฉียบแหลมเชิงพาณิชย์ คาดว่าจะรับช่วงต่อจากสจ๊วร์ตในตำแหน่งซีอีโอในช่วงฤดูร้อนนี้

รายงานยังระบุเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่สโมสรที่เปิดเผยข้อมูลกับ The Athletic เผยว่า สจ๊วร์ตย้ำถึงความมุ่งมั่นของสโมสรในการส่งเสริม “วัฒนธรรมฟุตบอลเป็นอันดับแรก” โดยคำนึงถึงการตัดสินใจทั้งหมด เกี่ยวกับการพัฒนากีฬาให้ดีขึ้นภายในสโมสร



อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงที่คาดหวังนี้ทำให้เกิดความไม่สบายใจในกลุ่มพนักงาน ตามรายงาน แรตคลิฟฟ์กระตือรือร้นที่จะตรวจสอบพนักงานของสโมสร ซึ่งมักถูกมองว่าลูกจ้างมีจำนวนมากเกินไป ในกลุ่มเจ้าหน้าที่สโมสรมีความกลัวที่ชัดเจนว่า อาจมีการลดงานหลังจากการทบทวนนี้

โอมาร์ เบอร์ราด้า มีกำหนดจะเริ่มบทบาทของเขาในช่วงซัมเมอร์นี้ ต่อจาก แพทริค สจ๊วร์ต ซึ่งดำรงตำแหน่งรักษาการซีอีโอ หลังจากที่ริชาร์ด อาร์โนลด์ ลาออกจากตำแหน่งเมื่อปลายปีที่แล้ว

เรีบบเรียงจากบทความของ Adam Crafton - The Athletic

ที่มา CentreDevils.co.uk

ถ้าได้แพทริค สจ๊วร์ตมาดูและจริงๆ ผมว่าโดนควบคุมได้หมดแน่นอน

อาจจะมีแค่แมคนีโต้ที่ใส่หมวกอ่ะกันได้

คนละแพททริค !!!

้ต้องย้อนกลับไปอ่านอีกรอบ แพทริค สจ๊วร์ตไหน

แพทริค สจ๊วท สตาร์วอรส์ >>> โอมาร์ เบอร์ราด้า หัวใสเหมือนกันน่าจะเวิร์คครับ อ่ะเอาแบบนี้แหละ

แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

เอาวะ ไม่มีอะไรจะเสียหละ แต่ตอน F-1 INEOS เข้าไปจอยทีม Mercedes-AMG ก็โดนทีม RB แย่งแชมป์ไปเลย ซึ่งก่อนหน้านั้น Mercedes-AMG แรงไม่เกรงใจใคร เป็นทีมเทพต่างดาว

ถ้าMercedesเครื่องมันดีกว่านี้คงอันดับดีแหละ แต่ชอบการบริหารจัดการนักแข่งของIneos รอดูการจัดการไวรัสในทีมแมนยูได้เลยน่าจะเห็นอะไรดีๆ