1- ประโยคนี้มีที่มาจากโจ๊กฝรั่งที่เล่าต่อกันมานานนับสิบ ๆ ปี จะเรียกว่าเป็นคลาสสิกโจ๊กก็ว่าได้
2- โจ๊กนี้มีอยู่ว่า ผู้หญิงคนหนึ่งพาชู้รักมาเสพสมที่บ้านระหว่างที่ลูกไปโรงเรียนและสามีไปทำงาน แต่ปรากฏว่าวันนั้นลูกชายวัย 11 ขวบของเธอกลับมาถึงบ้านเร็ว เด็กชายเห็นแม่อยู่กับชู้ก็ทำอะไรไม่ถูก เข้าไปแอบในตู้เสื้อผ้า
3- ไม่นานสามีซึ่งเลิกงานเร็วก็กลับมาถึงบ้านอีกคน ฝ่ายภรรยาตกใจมากรีบผลักชู้รักเข้าไปในตู้เสื้อผ้าโดยไม่รู้ว่าลูกชายของเธอก็อยู่ในนั้น
4- เด็กชายเดาสถานการณ์ออกและเริ่มบทสนทนาทันที
เด็ก: ในนี้มืดจังเลยนะฮะ
ชู้: อืม
เด็ก: ผมมีไม้เบสบอล
ชู้: ดีแล้ว
เด็ก: อยากซื้อมั้ยฮะ
ชู้: ไม่ล่ะ ขอบใจ
เด็ก: แต่พ่อผมอยู่ข้างนอกนะ
ชู้: โอเค เท่าไหร่
เด็ก: 250 ดอลลาร์ฮะ
5- อาทิตย์ต่อมาเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันอีก เด็กชายกับชู้ของแม่ต้องมาอยู่ในตู้เสื้อผ้าด้วยกันอีกครั้ง
เด็ก: ในนี้มืดจังเลยนะฮะ
ชู้: อืม
เด็ก: ผมมีถุงมือเบสบอลนะ
ชู้: เท่าไหร่อีกล่ะ
เด็ก: 750 ดอลลาร์ฮะ
ชู้: โอเค เธอขายออกละ
6- วันต่อมาพ่อหยุดงานและชวนลูกไปเล่นเบสบอล เด็กชายบอกพ่อว่า “ผมเล่นเบสบอลไม่ได้แล้ว ผมขายไม้เบสบอลกับถุงมือไปแล้ว” พ่อถามว่าขายไปเท่าไหร่ พอลูกบอกราคา พ่อก็ดุลูกที่โก่งราคาเพื่อนขนาดนี้ เลยพาลูกไปหาบาทหลวงที่โบสถ์เพื่อสารภาพบาป
7- พ่อดันหลังลูกเข้าไปในห้องสารภาพบาปซึ่งค่อนข้างมืด เด็กชายอุทานออกมาว่า “ในนี้มืดจังเลยนะฮะ” เสียงบาทหลวงถามกลับมาแบบเซ็ง ๆ “มึงจะเอาอะไรมาขายกูอี๊กกกก!“
8- โจ๊กนี้แพร่หลายไปในหลายประเทศ ในปี 2011 หนุ่มคนหนึ่งชื่อ Luis Labrador เอาโจ๊กนี้มาทำเป็นหนังสั้นความยาว 18 นาที ชื่อเรื่อง It Is Dark in Here (ในนี้มืดจังเลยนะฮะ) ต่อมาเขากลายเป็นคนทำวิชวลเอฟเฟ็กต์ในหนังฮอลลีวู้ดหลายเรื่อง ปัจจุบันทำงานกับดิสนีย์
** ภาพประกอบบทความนี้แอดก็แคปมาจากหนังสั้นของเขาค่ะ
9- โจ๊กนี้ได้รับการแปลเป็นภาษาไทย ไม่แน่ชัดว่าใครเป็นคนเริ่มเล่าก่อน แต่มีหลักฐานว่า ”น้าเน็ก“ เคยเล่าไว้เมื่อปี 2011 (พ.ศ. 2554) โดยเปลี่ยนจากเบสบอลเป็นปิงปองเพื่อให้เข้ากับบริบทสังคมไทย
10- ล่าสุดโจ๊กนี้ถูกนำมาเล่าซ้ำโดยคอนเทนต์ครีเอเตอร์หลายราย บางคลิปทำเป็นอนิเมชั่น มีการใช้ AI สร้างภาพประกอบเด็กกับบาทหลวงขึ้นมา จนกลายเป็นไวรัลไปทั่วประเทศ
11- ประโยค ”ในนี้มืดจังเลยนะฮะ“ กลายเป็นประโยคไวรัลที่แค่พูดออกมาคนก็ขำได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลาเล่าโจ๊กทั้งเรื่องอีกต่อไป

อืม กินดิ

ก่อนคำนี้จะมาเป็นกระแส ผมเห็นลินินเล่าในคลิปของยืนเดี่ยว ไม่รู้ว่าคือจุดเริ่มต้นของการที่มันกลับมาดังป่าว

ผมถามแล้ววันนั้นที่หงส์ชนะฟูแล่ม แล้วพาดหัว ในนี้ไม่มืดนะฮะ มันเกี่ยวกับบริบทบอลนัดนั้นยังไงครับ

ใช้กันจนเกร่อและไม่รู้ว่ามันฮายังไง โดยเฉพาะกรณีที่มันไม่สัมพันธ์กับบริบท แต่ก็เอาเถอะ

โคตร overrated

ขอบคุณครับ สงสัยอยู่นานเลย

ติกต๊อกตัดไปลงด้วยแหละ

น้าเน๊กก้อเคยเล่าสมัยสามแยก

ผมชอบนะ นึกถึงทีไรก็ฮา

เคยฟังสมัยสามแยกนุ้นอ่ะ พอมาเจอของยืนเดี่ยวก็เลยเฉยๆ
แต่เห็นด้วยกับยูสบนนะ เห็นบางเพจบางคนแค่กุจะเอามาเล่นแต่บริบทไม่ได้แล้วมันก็แบบ... เห้อมมม

ลูกค้า: แปะๆ กินกาแฟปะ
แปะ: อืม...กินดิ

สำหรับผมคือเป็นแค่ประโยคบอกเล่า เอามาใช้พร่ำเพร่อคือไม่เข้าใจความหมายเลยครับ บางคนใช้มั่วไปหมด ไม่เข้ากับเรื่องที่คุย ๆ กันอยู่เลย

เป็นไปได้ไหมว่าคนที่ฮามุกนี้น่าจะอายุน้อยๆหรืออายุเยอะแบบเพิ่งเข้าถึงอินเตอร์เน็ตไม่กี่ปี

คืออิมุกนี้ผมจำได้ว่าเห็นครั้งแรกในประมูลเลยนะ ฮามาเป็น 20 ปีได้ละนะ ละก็ได้ทั้งแบบฟอเวิดเมล เว็บอื่นก็มีลงไปทั่ว

โคตรงงมันกลับมาเกร่อได้ไง