Time line การถอนของเจ้าบุ๊ค และ ผู้บงการ
ผมแปะ โพสต์จาก FB ไม่เป็นผมขออภัยจริงๆ แต่เนื้อหามาจากเพจ พี่บับเบิ้ล
เครดิตจากเพจ BubbleYingrak ซึ่งเนื้อหาแกบอกว่าตรงกับทาง Ball Thai Stand ก่อนหน้านี้ด้วย
เรื่องมีอยู่ว่าตั้งแต่กลับไปจากไปอุ่นเครื่องญี่ปุ่น ไม่มีวี่แววใดๆเลยว่า "เอกนิษฐ์" จะถอนตัว โซเชียลลงลงภาพเจ้าตัวกลับไปบ้านที่ "เจียงฮาย" ทำพิธีบายศรีสู่ขวัญด้วยบรรยากาศอบอุ่นก่อนเตรียมกลับมารับใช้ชาติ
ข้อมูลจากแคมป์ทีมชาติไทยระบุว่า "เอกนิษฐ์" ติดต่อมาว่าจะเข้าไปเช็คอินที่โรงแรมโนโวเทลล่วงหน้า 1 คืนก่อนที่ทัพ "ช้างศึก" จะต้องมารายงานตัวในวันที่ 7 ม.ค.ด้วยซ้ำ
แต่สุดท้าย "เอกนิษฐ์" ไม่ได้เข้าไปพักที่โรงแรม กระทั่งวันที่ 7 ม.ค.ก็มีข่าวว่าขอถอนตัว !!!
"เอกนิษฐ์" ไม่ได้แจ้งขอถอนตัวจากทีมชาติไทยด้วยตัวเอง แต่มีคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการไปค้าแข้งที่เจลีกได้สายตรงไปแจ้งต่อ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือทีมชาติไทย
เหตุผลเป็นไปตามที่ข่าวออกในตอนแรกเลยคือระบุว่า "เอกนิษฐ์" ต้องการไปซ้อมพรีซีซั่นกับ อุราวะ เรด ไดมอนส์ เนื่องจากสโมสรเพิ่งมีการเปลียนโค้ชใหม่
ช่วงที่ข่าวยังไม่ออกมีความพยายามจากทีมชาติไทยที่จะติดต่อพูดคุยกับ "เอกนิษฐ์" อยู่ตลอด แต่ไม่สามารถติดต่อได้เหมือนปกติทุกครั้ง กระทั่งสุดท้ายทีมงานของผู้จัดการทีมชาติไทยตามตัวเจอจนได้
"เอกนิษฐ์" อยู่กับใครคนหนึ่งที่เป็นคนคอยดูแลเสมือนเป็น "เอเยนต์" แต่ไม่ใช่เอเยนต์โดยตรง และใครคนนั่นก็ยืนยันกับทีมชาติไทยว่าขอถอนตัวด้วยเหตุผลตามที่มีการแจ้งไปเลย
หลังจากนั้นไม่มีใครสามารถติดต่อ "เอกนิษฐ์" ได้อีก ทั้งที่ มาซาทาดะ อิชิอิ ต้องการที่จะพูดคุยด้วย และทีมชาติไทยอยากให้เข้ามารายงานตัวก่อนแล้วค่อยถอนตัว
แต่ไม่มีสัญญานตอบรับใดๆ จน "สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ" ได้ออกข่าวแจ้งสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการว่า "เอกนิษฐ์" ขอถอนตัวจากทีมชาติไทยเพื่อไปพรีซีซั่นกับ อุราวะ เรด ไดมอนส์
นี่คือข่าวที่เป็นทางการจาก สมาคมฯ ทุกสื่อจึงลงเหมือนกันหมด แต่ไม่เข้าใจว่าแฟนบอลบางคนมาด่าสื่อทำไมว่าปั่นหรือเอา "เอกนิษฐ์" มาแขวน ทั้งทีมันเป็นข่าวที่แจ้งโดยตรงจาก สมาคมฯ แท้ๆ ไม่ใช่ข่าวมั่วจากที่ไหน !!!
แต่หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของแต่ละสื่อที่จะไปสืบเสาะหาความจริงว่ามันอะไร ยังไง ถึงตรงนี้ละครับจึงได้รับรู้ข้อมูลต่างๆเพิ่มเติม ผมจึงกล้าโพสต์บอกว่า
"เท่าที่บอกได้เบื้องต้นคือ เอกนิษฐ์ ปัญญา ไม่ได้ตัดสินใจทั้งหมดเอง ตอนถอนตัวก็ไม่ได้เป็นคนแจ้งกับทีมชาติไทยเองด้วยซ้ำ แต่ข่าวออกมาขนาดนี้แล้วคนที่ตายคนคือนักบอล !!!"
เรื่องทั้งหมดจึงเป็นไปตามที่เล่ามา
กรณีนี้จะไม่ดราม่าขนาดนี้ หาก "เอกนิษฐ์" เข้ามาพูดคุยกับ มาซาทาดะ อิชิอิ ด้วยตัวเองให้เป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่หายไปดื้อๆติดต่อไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้อีกละว่ามันมีอะไรหรือเปล่าถึงติดต่อไม่ได้เหมือนเดิม
ขออนุญาตสรุปแบบตรงๆว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะมีกระบวนการที่ต้องการให้ "เอกนิษฐ์" ได้เล่นเจลีกตั้งแต่เปิดฤดูกาลนั่นละ
ส่วนเหตุผลที่ต้องการไปพรีซีซั่นกับสโมสรเพื่ออนาคตในเจลีกอันนี้แล้วแต่มุมมอง ผมอยู่ในฝั่งที่คิดว่าไม่โอเค ไม่งั้นเราจะเรียกร้องให้นักเตะเล่นเพื่อทีมชาติไทยไปทำไม ถ้าคิดว่าการเลือกผลประโยชน์ส่วนตัวมันดีกว่า
เราเคยต่อว่าและจวกยับกับสโมสรที่ไม่ปล่อยผู้เล่นในช่วง "ฟีฟ่าเดย์" แต่วันนี้เรากำลังบอกว่านักเตะเลือกอนาคตของตัวเองที่สโมสรเป็นเรื่องที่ถูกต้องงั้นหรือ ?
แล้วต่อไปจะปลุกกระแสให้นักฟุตบอลมาเล่นเพื่อทีมชาติไทยได้อย่างไร ฟุตบอลไทยจะไม่พังไปกันใหญ่เหรอ !!!
ก่อนหน้านี้ "เอกนิษฐ์" อาจไม่ใช่ตัวหลักของทีมชาติไทย แต่ใน "เอเชียนคัพ 2023" นี่คือนักเตะที่ถูกคาดหมายว่าจะเป็นกำลังสำคัญทดแทนการขาดหายไปของ ชนาธิป สรงกระสินธ์
ดังนั้นจึงกล้าบอกได้ว่า "เอกนิษฐ์" จะมีส่วนสำคัญกับทีมชาติไทยในเกมชิงแชมป์เอเชียที่กำลังจะเกิดขึ้นแน่นอน
น่าแปลกใจที่หลายๆคนชื่นชมฝีเท้า "เอกนิษฐ์" แต่ทำไมไม่เชื่อมั่นหรือคิดว่าเขาจะไปโชว์ฟอร์มดีใน "เอเชียนคัพ 2023" กลับคิดว่าการไปซ้อมพรีซีซั่นกับ อุราวะ เรด ไดมอนส์ จะเกิดประโยชน์ต่ออนาคตการค้าแข้งมากกว่า
"เอเชียนคัพ 2023" คือทัวร์นาเมนต์ที่สมควรไปเก็บเลเวลเพื่อพัฒนาตัวเองมากที่สุดแล้วสำหรับนักเตะประเทศโลกที่สามอย่างไทยแลนด์ นี่คือเวทีที่จะโชว์ของและต่อยอดในการเล่นอาชีพด้วยซ้ำ
มาซาทาดะ อิชิอิ ก็ไม่ใช่โค้ชไก่กาที่ไหน แต่เป็นบุคลากรที่ญี่ปุ่นยอมรับ ไม่คิดเหรอว่ายังไงพวกญี่ปุ่นต้องติดตามผลงานของทีมชาติไทยด้วยอยู่แล้ว ฟอร์มนักเตะแต่ละคนไม่หลุดสายตาเจลีกหรอก
น่าเป็นห่วงด้วยว่าไม่รู้ตอนนี้ อุราวะ เรด ไดมอนส์ จะสงสัยใน "ทัศนคติ" ของ "เอกนิษฐ์" หรือเปล่า และกระแสเรื่องการถอนตัวที่ดุเดือดในตอนนี้จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของสโมสรแล้วมีผลอะไรตามมาหรือไม่
ทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่าย การถอนตัวจากทีมชาติไทยไปสโมสรของ "เอกนิษฐ์" ครั้งนี้ก็เช่นกัน !!!
-----------------
ซึ่งหลังจากนั้นผมก็ไปเห็นโพสต์ของทิซัง อีกโพสต์ ก็พูดถึง คนที่ สื่อเรียกเค้าว่า "คนที่ทำตัวเสมือนเอเย่นต์ แต่ไม่ใช่" คนนี้เช่นกัน ตามภาพด้านล่าง
ก็คงต้องรอดูว่า คนคนนี้จะออกมามั้ย แต่ที่แน่ๆ กระแสอย่างน้อยๆก็ตีกลับมาหาคนนี้พอสมควร คนที่เรียกว่ากุนซือ แต่ยังไงตัวน้องมันก็เละเป็นที่เรียบร้อยและปฎิเสธไม่ได้ว่ามีคนผิดหวังในตัวน้องอีกเยอะและจะเป็นที่พูดถึงไปอีกนาน
และจากคอมเม้นหลายๆคนที่บอกว่าสื่อกั๊ก โพสต์อ้อมไปอ้อมมาทำไมไม่ซัดตรงๆ มีสื่ออกมาพูดอยู่้ว่า ไม่มีใครกล้าพูดหรอก เพราะเวลาโดนฟ้อง ก็ขึ้นศาลคนเดียว อันนี้ก็เป็นมุมมองทางสื่อที่คนบ่นเยอะๆว่า แต่ละเพจก็ทำเป็นรู้ แต่ไม่เห็นพูดตรงๆอ้อมไปอ้อมมากันอยู่นั่นน่ารำคาญ ก็ลองฟังเหตุผลเค้าดูครับ เห็นด้วยหรือไม่ก็แล้วแต่วิจารณญาณ