ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
02 January 2024 06:47 by เบน ฟรีคิก
ขึ้นปีใหม่ เกือบดูหนังม้วนเก่า




ต้องบอกว่าภาพวันที่เสมอ แมนฯยูฯ และ อาร์เซนอล ลอยมาแต่ไกลหลัง ลิเวอร์พูล พับสนามกระหน่ำยิงใส่ นิวคาสเซิ่ล จนตีนบวมกว่าจะหายใจทั่วท้องต้องรอจนถึงนาที 86

แนวรุกและแถวสองยิงในลักษณะกะ “ฆ่าให้ตาย” เน้นแรงไม่พอพ่อเล่นตรงตัวแทบทุกลูกเป็นเหตุทำให้ มาร์ติน ดูบราฟก้า เซฟไม่พักคว้า MOM กันไป

ยังดีที่ “สาลิกา” ช่วงนี้ขาลงเล่นนอกบ้านมา 9 นัดชนะแค่นัดเดียวเจอทีเด็ดซูเปอร์ซับขวัญใจชาว “หงส์” ผู้ลงมาเปลี่ยนเกม 2 เกมติดแล้ว

ใช่ครับ ดิโอโก้ โชต้า “ผู้ปลดปล่อย” ใช้เวลา 10 นาทีแอสซิสต์ไป 1 และ 22 นาทีเรียกจุดโทษพลิกสกอร์จากเกมตันๆเสมอ 1-1 เป็นชนะ 4-2

แกเป็นนักเตะประเภทจมูกไวเหมือนได้กลิ่นเลือด เล่นบอลไม่พูดเยอะเน้นประสิทธิภาพอย่างเดียว

เชิงบอล+ความนิ่งมาครบ ไม่ต้องบ้ากดเต็มหลอดเหมือนคนอื่นๆนำมาซึ่งลูกสำคัญ 2-1 หลัง แอสซิสต์ ให้ เคอร์ติส โจนส์ ยิง...ไม่สิขอใช้คำว่า “สะกิด” บอลจากระยะ 3 หลาเข้าไปง่ายๆดีกว่า

ผมอยากให้ทุกคนลองสังเกตลูกนี้จากไฮท์ไลท์คือ โชต้า หันไปเช็กทั้งตัวประกบและสภาพแวดล้อมรอบตัวถึง 2 หนซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ โม ซาลาห์ ยังไม่จ่ายให้ด้วยซ้ำ

ตรงนี้เองทำให้ดาวเตะทีมชาติ โปรตุเกส สามารถ cut back หลบ ดูบราฟก้า โดยไม่ต้องมองและรู้ว่าเพื่อน (โจนส์) อยู่ตรงจุดไหน

เชื่อว่าในอนาคต Boss น่าจะมีการปรับตำแหน่งแนวรุกเพื่อยัดนักเตะที่ clinical เพิ่มซักตัวเพราะเห็นแล้วว่าการใช้โอกาสเปลืองและขาด cutting edge มันสุ่มเสี่ยงต่อผลการแข่งขันแค่ไหน

ผมก็เหมือนทุกคนครับอยากดูบอลที่ชนะสบายๆไม่เครียดซักเกมบ้างและในช่วงที่ “หงส์” กำลังคึกไล่ขยี้พับสนาม “โม” ดันยิงจุดโทษพลาด

สไตล์เน้นแรงไม่เน้นทางของแข้งอิยิปต์ถูกพูดถึงมานานแล้วว่ามันก็ต้องมีซักวันที่พลาดเพียงแต่ช่วงหลังมาถี่มากที่เห็นๆเกมเสมอ อาร์เซนอล 2-2 เมื่อเดือนเมษายนและแพ้ บอร์นมัธ

แต่ท้ายที่สุด ณ เวลานี้ ซาลาห์ เป็นตัวแบกในแนวรุกทั้งยิงและจ่ายก่อนมาแก้ตัวยิงจุดโทษปิดเกม 4-2 ก่อนอำลาไปแอฟค่อน 1 เดือน เตรียมตัวเตรียมใจกันได้ครับ!!

เช่นเดียวกับ วาตารุ เอนโด ที่ต้องไปเอเชียน คัพ ทิ้งทวนฟอร์มการเล่นที่โคตรเอา ตัดเกมเบรกเกมเป็นตัวชนที่สำคัญจริงๆ โชคดีที่ แม็คอัลลิสเตอร์ คัมแบ็คกลับมาได้ทันเวลา (ลงเล่นไป 20 นาที)

ครับในชัยชนะที่บีบหัวใจที่ แอนฟิลด์ มีช่วงเวลาหนึ่งที่เกมเดือดและแข้ง ลิเวอร์พูล หัวร้อนเสียสมาธิกันเต็มๆจนเข้าทาง “สาลิกา”

นั่นคือเหตุการณ์ที่ แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ทำเรื่องเหลือเชื่อและไม่คิดมาก่อนว่าจะได้เห็นอะไรเช่นนี้

ก่อนหมดครึ่งแรก 2-3 นาที (ไม่รวมทดเจ็บ) เจ้าถิ่นได้สวนกลับโดย โซโบ ควบบอลมาถึงกลางสนามก่อนที่ โจลินตอน ยอมพลีชีพคว้า 2 มือยอมแลกใบเหลือง

เทย์เลอร์ ปล่อยให้เล่นต่อเพราะบอลยังอยู่ในการครอบครองของ “หงส์” ที่ตอนนี้มีโอกาสถึงหน้าประตู

ตามหลักแล้วลูกลักษณะนี้เมื่อบอลตายเราจะต้องได้ยินเสียงนกหวีดหยุดเกมจากผู้ตัดสินเพื่อแจกใบเหลือง

แต่พรี่เขาไม่ให้!! นักเตะ ลิเวอร์พูล รุมประท้วงกันยกใหญ่ งงกันทั้งโลก ผมว่า โจลินตอน แม่งก็น่าจะงงด้วยเหมือนกัน

ปกติแล้วผู้ตัดสินเป่าไม่เหมือนกันแล้วแต่ดุลพินิจของตัวเองแต่นี่มันเป็นคู่มือตัดสินตามตำราเลยนะครับ จบหลักสูตรไหนมาต้องเหมือนกันสิ ผู้ตัดสินมือสมัครเล่นผู้ตัดสินจากกรมพละเขาก็ให้ทั้งนั้น

จากการรอดพ้นใบเหลืองหนนี้ทำให้ โจลินตอน มี “โควต้า” เล่นนอกเกมได้ 1 ครั้งและส่งผลต่อเกมโดยรวมเพราะแกไม่ต้องระวังโดนเหลือง 2 (ก่อนมาโดนในนาที 66)

ผิดกับ เทรนต์ ที่โดนใบเหลืองโง่ๆช่วงทดเจ็บครึ่งแรกด้วยการเตะบอลทิ้ง คือไม่ต้องเตะ “นิว” เขาก็ไม่เล่นเร็วอยู่ละ

ใบเหลืองนี้ส่งผลอะไรต่อมารู้ไหมครับ? ทำให้ TAA ไม่กล้าตัดเกม กอร์ดอน ในช่วงต้นครึ่งหลัง (ได้แต่ทำท่าผายมือ) จนโดนกระชากหลุดง่ายๆและโดน อีซัค ตีเสมอจากจังหวะนี้ทันที

ก่อนหน้านั้น ดิอาซ ก็หัวร้อนไปด่าผู้ตัดสินโดนใบเหลืองไปอีก เรียกว่าอารมณ์ขึ้นกันหมด ทรงบอลแต่ละคนไม่เหลือ โชคดีจบครึ่งแรกได้สงบสติอารมณ์กัน 15 นาที

ส่วนตัวผมมองว่า ดิอาซ เกมนี้เล่นดีขึ้นมีจ่ายมีเล่นกับเพื่อนร่วมทีมมากขึ้น (ลูก 1-0 เครดิตเต็มๆ)แต่ก็ยังมีช็อตบ้าเลี้ยง กระชากหนีเขาได้แล้วไม่รีบคายบอลสุดท้ายโดนรุมเสียบอลตามสไตล์ เพื่อนรอเก้อโดนสวนกลับกันไป

นอกจากนี้ต้องตามเช็กอาการของ โซบอสซ์ไล ที่เดินจับแฮมสตริงก่อนโดนเปลี่ยนออก (และแน่นอนเล่นไม่ดีเหมือนเดิม) รวมถึง ไรอัน กราเวนแบร์ค ที่เกมนี้ลงสำรองแต่ป้อแป้ 2 นัดติดแล้ว

ประเด็นที่พูดถึงกันพอสมควรคือจุดโทษที่ทำให้ “สาลิกา” หมดสิทธิ์คัมแบ็ค ว่าตกลงแล้วควรเป็นจุดโทษไหม?

อดีตนักเตะลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า โชต้า “พุ่ง” ทั้ง อลัน เชียเรอร์ เด็กเก่านิวที่ด่าว่า “น่าอายฉิบหาย”, เอียน ไรท์ อดีตหอก “ปืน” บอกยิงโล่งๆไม่เอาจะเอาจุดโทษซะงั้น

เช่นเดียวกับ เจมี่ คาร์ราเกอร์ เด็กหงส์บอกมีการโดนตัวจริงแต่ก็ไม่รุนแรงถึงขั้นต้องล้ม

แกรี่ เนวิลล์ อดีตแบ็ค แมนฯยูฯ มองว่าหลังมี contact โชต้า ยังสามารถวิ่งไปได้ 2-3 หลาก่อนล้มลง

หลังดูรีเพลย์ 4-5 รอบตรงนี้ผมเห็นด้วยว่า โชต้า สามารถควบไปเอาบอลต่อได้เนื่องจาก “เท้าซ้าย” ซึ่งโดนศอกของ ดูบราฟก้า สามารถลงพื้นก้าวได้อย่างมั่นคง (ไม่ปัดและไม่เป๋)

แต่อย่างที่ คาร์ราเกอร์ หรือ เนวิลล์ ยอมรับท่อนฮุคเอาไว้ว่ามีการ contact จริงมันก็จบครับ มันจะไปเข้าเคส “เสียเหลี่ยม” พวกนักเตะที่รอให้มีการ contact ซึ่งต่างจากการพุ่งหลาวแบบไม่มีใครโดนตัว

ในมุมนึง โชต้า แกยิงด้วยซ้ายดีเท่าๆกับขวาและบอลไม่ห่างตัวไม่มีความจำเป็นต้องพุ่งล้มเอาจุดโทษแต่ผมมองทฤษฏีความเป็นไปได้ที่แกอยากจะ “เก็บ” ผู้รักษาประตูด้วยใบแดง ยิ่งผู้ตัดสินโง่ๆแบบนี้โคตรน่าลอง

ครับ 3 แต้มสำคัญเลือดตาแทบกระเด็นทำให้ ลิเวอร์พูล ยังรักษาจ่าฝูงหรืออย่างน้อยๆจะไม่ถูก แมนฯซิตี้ ขึ้นนำหากทีมของ เป๊ป กวาดิโอล่า เก็บนัดตกค้างได้

แต่เรื่องจ่าฝูงหรือไม่จ่าฝูงไม่สำคัญเท่าช่วง 1 เดือนที่ไร้ ซาลาห์ กับ เอนโด “หงส์” จะจัดการกับตัวเองอย่างไรมากกว่า..

สถิติ สถิติ สถิติ

โม ซาลาห์ ยิง 150 ประตูในพรีเมียร์ลีกให้ ลิเวอร์พูล เรียบร้อยแล้ว กลายเป็นนักเตะคนที่ 5 ที่ยิงถึงเลขหลักนี้ให้กับสโมสรเดียวต่อจาก แฮร์รี่ เคน (สเปอร์ส), แซร์จิโก อเกวโร่ (แมนฯซิตี้), เวย์น รูนีย์ (แมนฯยูฯ) และ เธียร์รี่ อองรี (อาร์เซนอล)

นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นให้ “หงส์แดง” ซาลาห์ พลาดจุดโทษในพรีเมียร์ลีกมากกว่านักเตะคนอื่นๆไปแล้ว (พลาด 6 ครั้ง / เป็นประตู 23 จาก 29 ครั้ง) มีเพียง สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด (9) และ ไมเคิ่ล โอเว่น (6) ที่พลาดมากกว่า “คิงอิยิปต์”

จนถึงตอนนี้แล้ว ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ นิวคาสเซิ่ล ที่แอนฟิลด์ในพรีเมียร์ลีก 28 เกมติดต่อกัน (ชนะ 23 เสมอ 5) ทำสถิติไม่แพ้คู่ต่อสู้ทีมเดิมยาวนานที่สุด “ร่วม” กับ เชลซี ในการพบ เอฟเวอร์ตัน ที่ทำไว้ 28 เกมเท่ากัน

ลิเวอร์พูล มีโอกาสส่อง นิวคาสเซิ่ล ในครึ่งแรกถึง 18 ครั้ง มีเพียงเกมที่เจอ เลสเตอร์ เมื่อปี 2015 (20 หน) เท่านั้นที่พวกเขามีโอกาสยิงใน 45 นาทีแรกมากกว่าโดยที่ไม่สามารถทำประตูได้ (ตั้งแต่มีการเก็บสถิติซีซั่น 2003-04)

นิวคาสเซิ่ล แพ้ 5 จาก 6 เกมในพรีเมียร์ลีกหลังสุดโดยแพ้นอกบ้าน 5 เกมติดเป็นหนแรกนับตั้งแต่มกราคม 2021
แก้ไขล่าสุดโดย เบน ฟรีคิก เมื่อ Tue Jan 02, 2024 07:33, ทั้งหมด 4 ครั้ง
15
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 1185
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jan 02, 2024 11:17
[RE: ขึ้นปีใหม่ เกือบดูหนังม้วนเก่า]
วิ่งมาขนาดนั้นโดนปัดข้อตีนเบาๆมันเสียหลักได้แล้วครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 09 Feb 2022
ตอบ: 573
ที่อยู่: บ้านในฝัน
โพสเมื่อ: Tue Jan 02, 2024 12:55
[RE: ขึ้นปีใหม่ เกือบดูหนังม้วนเก่า]
โจเอลินตอน ดูบอลให้อารมณ์หนังแอ็คชั่น นอกเกมส์ทุกดอก อาวุธ
มาครบ บาทาลูบพักตร์ แอนโทนี่อาจควักแค่ใบเหลือง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Nov 2021
ตอบ: 344
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jan 02, 2024 12:58
[RE: ขึ้นปีใหม่ เกือบดูหนังม้วนเก่า]
ในมุมนึง โชต้า แกยิงด้วยซ้ายดีเท่าๆกับขวาและบอลไม่ห่างตัวไม่มีความจำเป็นต้องพุ่งล้มเอาจุดโทษแต่ผมมองทฤษฏีความเป็นไปได้ที่แกอยากจะ “เก็บ” ผู้รักษาประตูด้วยใบแดง ยิ่งผู้ตัดสินโง่ๆแบบนี้โคตรน่าลอง

อันนี้โดนใจ
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status: ทำดีกว่าพูด
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 29 Sep 2008
ตอบ: 2133
ที่อยู่: ม้านั่งสำรอง
โพสเมื่อ: Tue Jan 02, 2024 21:15
[RE: ขึ้นปีใหม่ เกือบดูหนังม้วนเก่า]
,มันจะเขียนรายงานออกมามั้ย มักรถพ่วง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 Sep 2008
ตอบ: 14066
ที่อยู่: ♥♥♥ Aegis ♥♥♥
โพสเมื่อ: Wed Jan 03, 2024 01:13
[RE: ขึ้นปีใหม่ เกือบดูหนังม้วนเก่า]
ผมก็เห็นด้วยเรื่องโชต้าเล่นเพลย์นี้ถือว่าฉลาดนะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel