ออกตัวก่อนนะ ว่าผมก็เม่าตัวนึง ไม่ได้เก่งอะไรเลย
พึ่งเข้าวงการ Crypto สมัยตอน BTC ที่ยอดเขาราคา 69K
ก็เจ็บตัวกันไป เหมือนมือใหม่ เป็นเม่าให้ตลาดไป เห็นคนโพสโชว์กำไรคิดว่าจะง่าย จัดหนักจัดเต็ม เรียบร้อย
หลังจากนั้นเลยไปศึกษาเพิ่มขึ้น ทั้งอ่าน ทั้งดูยูทูป หาความรู้เพิ่ม
สุดท้ายผมใช้ indicator โง่ๆตัวเดียวพอ คือ CDC Action zone (TF DAY) ซื้อเขียว ขายแดง ที่หลายคนคุ้นเคย
บางคนใช้แล้วเจ๊งก็เยอะ อาจจะด้วยไม่ได้ MM
อันนี้คือตัวอย่างที่ผมจดบันทึกไว้สมัยต้นปี 2022-ตอนนี้ ด้วยทุนที่มี 100K
วิธีของผมคือ
1.เปิด Position เมื่อมีสัญญาณซื้อ Action zone เขียว
2.กำหนดจุด SL เพื่อกำหนด size ในการเข้าซื้อ โดยใช้ indicator pivot หรือ low ต่ำสุดใน 7วัน
3.เมื่อได้จุด SL แล้วก็จะได้ size ในการเข้าซื้อ ซึ่งผมจะเสี่ยง (risk of rule) 5% แต่หลายๆคนบอกว่าเสี่ยง 2-3% ก็พอ (อันนี้ยอมรับว่าโลภอยู่เพราะ 2-3% มันได้กำไรน้อย ซึ่งข้อดีเวลาเสียมันก็เสียน้อยด้วย)
ซึงในการใช้ risk of rule 5% ผมจะเสียติดต่อกัน 19 ครั้ง ถึงจะหมดตัว (bias ส่วนตัวคิดว่าไม่มีทางขนาดนั้น *อันนี้เป็นความเสี่ยงที่ต้องรับ)
4.เปิด Position เสร็จแล้วก็ไม่ต้องทำไร ถ้าผิดทางมันก็จะโดน SL เอง หรือ ถ้าไม่ถึง SL แต่มีสัญญาณขาย แดง ก็ขาย ซึ่งตรงนี้เราคุมความเสี่ยงไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าในการเปิดครั้งนี้จะเสียเท่าไหร่
ถ้าเปิด Position แล้วถูกทางก็รันเทรนยาวไปใน TF D อย่ารีบปิด ปล่อยไปเลย ตลาดให้เท่าไหร่ก็เอาเท่านั้นพอ
จากรูปจะเห็นว่า
ปี 2022 มีสัญญาณเข้าซื้อ 6 ครั้ง เป็นการเข้าซื้อที่ขาดทุนทั้งหมด (6 ครั้งติด)
ปี 2023 มีสัญญาณเข้าซื้อ 4 ครั้ง กำไรทั้ง 4 ครั้ง
(ครั้งที่ 4 ยังไม่ได้ปิด Position เพราะยังไม่มีสัญญาณขาย
ถ้าปิดตอนนี้กำไรของ Position นี้จะอยู่ที่ 58% ทำให้พอร์ทรวมจะอยู่ที่ 52%)
**
สังเกตุว่าปี 2022 เสียมา 6 ครั้งติด แต่ปี 2023 เทรดได้กำไรมา 1 ครั้ง กำไรที่ได้เกือบ cover ทั้งหมดที่เสียไปทั้ง 6 ครั้งในปี 2022
ถามว่า 2 ปีกำไร 52% ตกปีละ 26% เองถือว่าน้อยนะสำหรับวงการคริปโท
อย่างบางคนที่เทรดโหดๆ ได้กันเป็นร้อย เป็นพันเปอร์เซ็นเลย
เลยเอามาแชร์เป็นไอเดียและเผื่อมีท่านไหนมีวิธีการเทรดแบบอื่นๆมาแลกเปลี่ยนกันครับ