Top Comment [RE: มีใครมีเพื่อนเป็นคุณหมอเสริมความงามบ้างครับ ??]
เยอะเลยครับ แต่ละคนนี่ใช้คำว่าอู้ฟู่ ยังน้อยไป
ต้องบอกว่าค่านิยมบ้านเรามันประหลาดครับ
เสียค่าโบท็อกคอร์สละ 2 หมื่นได้ ไม่สนใจ
แต่จ่ายค่ายาโรงพยาบาลครั้งละ 2 พัน โพสต์ด่ารพ.แล้ว
ถ้าพูดถึงเบื้องหลังสายความงามนี่ มีเรื่องดาร์คๆเยอะ แต่ชาวบ้านไม่ค่อยรู้ แพทยสภาก็ไม่สนใจเพราะมีสปอนเซอร์สนับสนุนก็พวกคลินิคความงามเนี่ยแหละ
เอาแค่ว่า ตอนผมลาออกจากราชการใหม่ๆ เพื่อนที่ทำเค้าหาคนไปช่วยคลินิค มันจ้างผมเดือนละ แสน + ค่าคอม ให้ไปทำคลินิคเสริมความงามให้หน่อย ปล. คลินิคเพื่อนไม่ใช้แบรนด์ใหญ่ด้วย ลองนึกภาพว่าสามารถจ้างหมอเดือนละแสนได้โดยไม่แคร์ได้ ต้องฟู่ขนาดไหน

ผมไปลองทำอยู่เดือนสองเดือนก็ไม่รอด ไม่ชอบง้อกับขายคอร์สลูกค้า
ทุกวันนี้ หมอจบใหม่เกินครึ่ง ก็ออกไปทำคลินิคพวกนีแหละ มันมีตลาดของมันอยู่โดยเฉพาะยุคสูงอายุ คนก็อยากสวยอยากหล่อกัน แต่ผมว่ามัน red ocean มานานละแหละ เพื่อนก็บอกว่า คู่แข่งเริ่มเยอะ เดี๋ยวนี้โบท็อกโดสละสามสี่พันก็มี เมื่อก่อนหลักหมื่น ทั้งๆที่ทุนรับมาหลักพันต้นๆเอง กำไรเกิน 200 เปอร์เซนต์