[RE: [บันทึกความสำเร็จชีวิต] จากคนว่างงานเงินเก็บไม่ถึงหนึ่งพัน สู่เจ้าของบ้านหลักหลายล้านบาท]
Taerg พิมพ์ว่า:
ยินดีที่ จขกท สามารถลุกขึ้นยืนได้ด้วยตัวเองครับ
และก็ต้องโน๊ตไว้นิดสำหรับคนที่จะอ่านเอาแรงบันดาลใจคือ นอกจากกรีนการ์ดลอตเตอรี่ คุณจะขอกรีนการ์ดตั้งแต่อยู่ไทยโดยที่ไม่ต้องไปทำงานใช้ชีวิตที่โน่นก่อนแบบ จขกท คือคุณต้องมีญาติสายตรง(พ่อ แม่)หรือคู่สมรสที่มีกรีนการ์ดอยู่ที่นั่นก่อนครับ ถึงจะมาสปอนเซอร์ให้ได้ ไม่งั้นคุณก็ต้องขอในฐานะผู้ที่เป็นนักธุรกิจและจะไปลงทุนที่นั่นครับ ถ้าไม่ใช่สองเวย์นี้ คุณไม่มีทางขอตั้งแต่อยู่ไทยโดยไม่ไปอเมริกาก่อนได้
ส่วนทางสุดท้าย(นอกจากลอตเตอรี่)สำหรับคนที่ไม่มีญาติใด ๆ อยู่ที่นั่น คุณจะไปได้ทางเดียวคือต้องได้ไปทำงานที่นั่นโดยบริษัทที่มีที่ตั้งอยู่ที่อเมริกาครับ เมื่อทำงานที่นั่นนานจนผ่านเกณฑ์คุณถึงจะสามารถเริ่มขอกรีนการ์ดได้
ปล.ที่พิมพ์งี้ ไม่ได้ต้องการจะดิสอะไร จขกท นะ แต่ผมแค่พูดถึง fact เผื่อบางคนเขาอ่านแล้วไม่เข้าใจ คิดว่ากรีนการ์ดมันได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ
เพิ่มเติมให้นะครับ Green card คุณสามารถขอเองได้จากไทย ถ้าเป็นระดับลงทุนคือ USD 500k แต่ที่ไปลงทุนกันอันนั้นคือ E2 VISA เริ่มลงทุนที่ "substantial amount" ถ้า business model คุณดีๆ ต้นทุนน้อยสุดที่เคยเห็นก็ประมาณ $50k ถ้าธุรกิจทั่วไปก็ $100k + - นิดหน่อยสำหรับทุนธุรกิจ
อีกวิธีคือ คุณเป็นคนคุณภาพในสายงาน คุณจะเคยเป็นนักร้องออก เทป พนักงานระดับบริหาร นักดนตรีไทย ถ้ามันมีการรับรอง และ ทนายเก่งๆทำเคสให้ก็สามารถขอ EB1-EB2 ได้ ส่วนหมอ พยาบาลพวกนี้ลำบากหน่อย เพราะ มันต้องเรียนใหม่
สำหรับคนที่จะมาเรียนแล้วขอ Green card จากที่ทำงาน ที่ง่ายสุด คือ ทำงานมหาลัย หรือ เรียนหมอ เรียนพยาบาล ที่เหลือคุณก็ต้อง prove ตัวเองกับที่ทำงานเองว่าคุณ worth it
อีกอันคือ EB3 คุณไม่สามารถ file petition เองได้ ถ้าคุณเก่งจัดๆ หรือ ที่ทำงานอยากได้คุณจัดๆ ตอนนี้ เขาก็ file EB3 ให้กัน เราไม่ต้องทำไรเลย นายจ้างคือคนจัดการทั้งหมด
Green card ถ้าไม่เกินมามีพ่อแม่ หรือแต่งเมีย ไม่ได้มาง่ายๆ แต่ไม่ได้ยากจนขนาดว่าหมดหมดหวัง