เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เผยว่าถึงบทเรียกสติลูกทีมในช่วงพักครึ่งหลังทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานก่อนจะกลับมาลงสนามรัวแซง ลูตั้น ทาวน์ ได้สำเร็จ 2-1

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ในฟอร์มหัวตกสุดๆในช่วงที่ผ่านมาหลังหาชัยชนะไม่เจอมาตลอด 4 เกมก่อนหน้าก่อนจะสามารถหยุดถิติได้อันย่ำแย่นี้ได้ในเกมที่ เคนิลเวิร์ธ โร้ด

เป๊ป อธิบายถึงวิธีการเรียกสติและปลุกใจลูกทีมของเขาในเกมกับ ลูตั้น ในช่วงพักครึ่ง

“ผมบอกกับพวกเขาว่า ‘พวกนายต้องการทำอะไร สงสารตัวเองมั้ย? มันคือฟุตบอล คือชีวิต มันเกิดขึ้นได้” กุนซือชาวสเปนเผย “หากพวกเขายิงประตูที่สองได้ พวกนายจะทำอะไร บ่นและบอกว่าเราโชคไม่ดีหรอ?”

“คาแรคเตอร์ที่ยิ่งใหญ่ ทีมที่ยิงใหญ่ทีมนี้ นั้นถูกเผยออกมาในสถานการณ์เช่นนี้ เราสามารถเอาชนะ 18 เกมรวดได้แต่มันไม่ได้ชี้ว่าจริงๆแล้วพวกเราเป็นใคร”

“พวกเขาต้องแสดงมันออกมาเดี๋ยวนี้ ชนะใครไม่ได้มาสี่นัดรวดและตามหลังหนึ่งประตูในสนามที่ยากแบบนี้ พวกเขาไม่ต้องพิสูจน์กับผมหรอกนะว่าพวกเขาเหมาะสมเพราะพวกเขาเป็นกลุ่มนักเตะที่พิเศษ แต่เกมๆนี้ต้องการให้พวกเขาพิสูจน์มันอีกครั้ง”

แรงจูงใจก็มีผลแหละ ได้แชมป์กันมาขนาดนี้ บางคนอาจจะมีเฉื่อยๆหมดไฟบ้าง

ถ้ามองในแง่ดี มันคือประสบการณ์ของทีมนะช่วงนี้ฟอร์มทีมแย่ๆ ถ้าผ่านมันไปได้จิตใจมันจะแข็งแกร่งขึ้น นักเตะชุดนี้หลายๆคนยังขาดประสบการณ์อะไรแบบนี้ บ้างคนเข้ามาตอนซิตี้กำลังประสบความสำเร็จ ช่วงนั้นเล่นก็แพ้น้อยไม่ค่อยมีประสบการณ์หัวตกแพ้หรือเสมอติดๆกันหลายๆนัด พอมาเจอแบบนี้มันต้องแข็งแกร่งทั้งจิตใจและร่างกาย มันต้องผ่านไปให้ได้

การเสียกุนโดกับมาเรซไปเสียหายมากจริงๆ สองคนนั้นถึงจะอายุเยอะแต่เรื่องประสบการ์มีเต็มเปี่ยม มันจะส่งผลต่อไปให้พวกน้องๆในทีมที่ไม่เคยเจอเหตุการณ์ยากๆแบบนี้ เราเลยจะเห็นโรดรี้เป็นตัวแบกขอองซิตี้ในแดนกลางชุดนี้จริงๆ ถ้าเมื่อก่อนโรดรี้ไม่อยู่ยังมีกุนโดกันคอยช่วยแต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ตัวใหม่มามันก็ยังปรับตัวเข้ากับทีมได้ไม่ดีพอมันยังต้องใช้เวลาอีกพอสมควร

แต่ถ้าผ่านช่วงเวลานี้ไปได้เรื่องพวกนี้มันจะเป็นประโยชน์และมีคุณค่าอย่างมากต่อ ทีมซิตี้ในระยะยาว เรื่องพวกนี้หล่ะที่เค้าเรียกกันว่าประสบการณ์การลุ้นแชมป์ ถ้าทีมไหนมีมันเยอะๆมันจะได้เปรียบกับทีมที่ไม่มี เหมือนกรณีของซิตี้กับอาเซน่อลเมื่อปีที่แล้ว และเหมือนกันกับอาเซน่อลได้ประสบการณ์มาจากปีที่แล้วถ้าปีนี้น่อลเอาตัวเองไปอยุ่จุดนั้นได้อีก(ลุ้มแชมป์จนถึงนัดท้ายๆ) มันจะเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ(สำหรับซิตี้) ลิเวอร์พูลก็เช่นกัน

ไปฝึกจังหวะเกมรุกมาใหม่ด้วย บุกเค้า 10 ที จะได้ประตูนึงยังยาก

มันคืออาการหมดไฟ แม้นักเตะยังเล่นแบบมืออาชีพอยู่ก็ตาม พอได้แชมป์ยุโปป เหมือนมิชชั่นคอมพลีต ไม่แปลกที่เป๊ปจะปล่อยตัวหลักหลายคนแล้วเริ่มสร้างทีมใหม่

ปีนี้ทีมเฉื่อยกันจริงๆ แนวรับคือพรอมเสียประตูได้ตลอดเวลาเลย คนละเรื่องกับปีที่แล้วเลย

แม้จะโดนนำ แต่ก็ยังกลับมาได้

แต่ถ้าขึ้นนำก็พร้อมจะเสมอ หรือแพ้ไปเลยก็มี

เอาตรงๆนะ พอได้สามแชมป์มาหมาดๆ นักเตะมันคงหมดไฟกันไปจริงๆ เราเองก็ด้วย ปกติไม่ป่วยไม่ไข้ก็ดูมันตลอด แต่ปีนี้ถ้าบอลมาดึกๆนี่คือตื่นก็ดูไม่ตื่นก็ไม่อะไรแล้ว ก็ปีที่แล้วมันพีคเว่อร์เกินอ่ะ ตื่นมาทีไรก็ชนะ ชนะไม่พอมันชนะแบบทรงดีทรงสวยด้วย มันเหมือนไปจุดสูงสุดแล้วที่เหลือก็มีแต่เท่าเดิมหรือลดลง ปีนี้พลังในการดูบอลมันเลยเนือยๆไปเยอะ

ปีนี้ขอแค่เป๊ปกระตุ้นจะได้แชมป์ลีก หรือ ป้องกันชปล.อย่างใดอย่างนึงก็โคตรเก่งแล้วกับฟอร์มตอนนี้ ต่ำกว่ามาตราฐานเยอะมาก