[RE: เวลาคนสองคนทะเลาะกัน ฝ่ายนึงผิดมาก ฝ่ายนึงผิดน้อย คนกลางให้ผิดพอๆกันแปลว่าอะไร]
asadong851 พิมพ์ว่า:
Noel Wong พิมพ์ว่า:
มันก็ชัดเจน และท่านก็บอกเองนี่ครับว่าคนกลางมา"ไกล่เกลี่ย"
การไกล่เกลี่ย ก็คือปิดเคสให้เร็วที่สุด แยกย้ายกันไป คู่กรณีจะมานั่งแย้งว่าใครผิดกว่า นั่นคือฝ่ายไม่ยอมจบ ก็ตัดบทให้จบ...ไม่แปลก
และยิ่งที่สำคัญ เคสแบบนี้ง่ายเลย "ผิดทั้งคู่" ก็คือชัดเจนว่าผิดกันทั้งสองฝ่าย จะมานั่งบอกว่าผิดมากผิดน้อย นั่นคือการเอาชนะแล้ว ซึ่งเมื่อคู่กรณีออกรูปนี้ ง่ายสุดคือตัดจบ
คนกลางไม่ใช่มาทำหน้าที่"ตัดสิน"ที่จะต้องนั่งฟังคู่ความโดยละเอียด แล้ววิเคราะห์ว่าใครผิดใครถูกครับ
จะมานั่งบอกว่าผิดมากผิดน้อย นั่นคือการเอาชนะแล้ว ซึ่งเมื่อคู่กรณีออกรูปนี้ ง่ายสุดคือตัดจบ
---------ผมในฐานะเป็นกลาง (ไม่ใช่คนกลางที่คอยไกล่เกลี่ย)
เห็นเหตุการณ์หมด
บอกได้เลยว่าผิดน้อย ห่างจากผิดมาก แบบมหาศาลเลยครับ
การตัดจบแบบนี้ มันทำให้แยกย้ายแบบคลาแคลงใจโดยเฉพาะฝ่ายผิดน้อยโดนมากกว่า แต่กลับต้องยอมจบ
ถ้าเจอหน้าโดยบังเอิญกันอีกครั้ง อีกผมเกรงว่าจะมีเรื่องแน่นอน
เพราะมันเป็นการเคลียร์แบบขอไปที ผักชีโรยหน้า ไมไ่ด้เคลียร์ด้วยใจ
นั่นคือประเด็นครับ ว่าคนกลางที่ว่า มาเพราะอะไร ซึ่งท่านบอกเองว่ามา"ไกล่เกลี่ย"
- คนกลางที่มาไกล่เกลี่ย เข้ามาเพื่อไกล่เกลี่ยให้จบตรงนั้น ส่วนจะไปตีกันตายทีหลัง มันคือจบการไกล่เกลี่ยไปแล้ว
- แต่ถ้าคนกลางเข้ามาเพื่อ"ตัดสิน"ไม่ใช่ไกล่เกลี่ย แล้วไม่ได้ฟังให้ครบถ้วนก่อนตัดสิน นั่นกลายเป็นอีกเรื่องนึงไป ซึ่งถ้าเข้ามาแบบนี้ ต้องบี้ให้ตายผิดถูกชัดเจน มันไม่ได้ไกล่เกลี่ยหรือประนีประนอมแล้ว
- หรือถ้าคนกลางจะเข้ามาเพื่อ"ประสาน" ก็ไม่ได้ต้องไล่ฟังว่าผิดมากผิดน้อย แต่ต้องทำยังไงก็ได้ให้สองฝ่ายยอมรับกันและกัน(ซึ่งก็ไม่ใช่ยอมรับผิด หรือให้แก้ต่างว่าผิดมากผิดน้อยอยู่ดี) แล้วจบเรื่องคาใจทั้งหมด
.
คนที่ว่าเข้ามาแบบไหนล่ะ คนละเรื่องกันเลยนะ
ในส่วนประเด็นที่ท่าน"ในฐานะคนกลาง แต่ไม่ได้ทั้งไกล่เกลี่ยและตัดสิน"มองว่าไม่ถูกใจ มันก็เป็นอีกประเด็นนึงที่กลายเป็นว่า มุมของท่านคือการไป"ตัดสิน"แล้วครับ ซึ่งนั่นมันก็ไม่ใช่จุดประสงค์ของการไกล่เกลี่ยตั้งแต่แรก ไม่ถูกใจท่านก็ไม่แปลก