สมมติเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด
การติดเชื้อทำให้อวัยวะภายในล้มเหลว ไม่สามารถทำงานได้ จนหัวใจหยุดเต้น
การเสียชีวิตแบบนี้ไม่สามารถบริจาคอวัยวะภายในให้ผู้อื่นได้
แต่ก็สามารถบริจาคร่างเพื่อนเป็นอาจารย์ใหญ่ได้

สมองตาย ก็อย่างที่อธิบายไปด้านบน อวัยวะภายในยังทำงานอยู่ แต่สมองไม่ทำงานแล้ว
ทางการแพทย์ = เสียชีวิต
แต่ว่าสามารถบริจาคอวัยวะ เพื่อการปลูกถ่ายได้

เสียชีวิตที่ รพ. ไม่เท่ากับ สมองตาย

จากประสบการณ์คนแก่ที่ผมพบเจอผ่านการเจาะคอ+icu มาแล้วบอกเลย ขอตายที่บ้านดีกว่า ดูแล้วทรมานแทน รวมถึงมะเร็งด้วยถ้าตรวจเจอตอนแก่ผมไม่ทำคีโมแน่นอน

ไปตายที่โรงบาลแต่ไม่เจาะคอ สอดท่ออาหารเด็ดขาด แค่เห็นยังรู้สึกทรมานโคตรๆ โดนเองคงไม่ต้องพูดถึง

ไม่ค่อยอยากตายที่บ้าน เพราะมันเป็นปัญหาหลายอย่าง ตายที่ รพ. ดีกว่า one stop service เลย

ถ้าคนที่เรารักยังอยู่ ผมคงเลือกยื้ออยู่กับพวกเขาให้นานที่สุด วันเดียวก็คุ้มค่าแล้ว

แต่ถ้าไม่มีใครให้ห่วงแล้วก็คงไปแบบสงบๆดีกว่า

ตายที่บ้านครับ เจาะคอใส่ท่อพวกนี้เจ็บตัวฟรี ไม่ค่อยหายดีเท่าไร ถึงหายก็เดียวกลับมาเป็นว้ำอีกอยู่ดี ผมว่าคนป่วยส่วนใหญ่อยากตายที่บ้านทั้งนั้นถ้าเลือกได้

ผมขอเลือกตายนอกบ้านอ่ะ แฟนผมกลัวผีและไม่อยากให้บ้านมีประวัติ

อีกอย่าง ตายที่บ้านนี่คนตายสบาย แต่คนในบ้านวุ่นวายมากน่ะครับ ต้องเคลื่อนย้ายไปชันสูตรที่โรงพยาบาลอีก บลา ๆ ๆ

อยู่โรงพยาบาลแต่แรก จบเลย

ถ้าป่วยด้วยโรค อาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ก็น่าจะต้องรักษาก่อน คงอยู่โรงพยาบาลแหละ

ตา ยายผมเสียที่บ้าน แต่จำอาการก่อนเสียชีวิตไม่ได้ละ แต่ไม่ได้ทรมานก่อนเสียชีวิต

หม่อน (พ่อ แม่ของยาย ตามที่คนเหนือเรียกกัน) ก็เสียชีวิตที่บ้านแบบหลับไปเลย

พ่อ ป่วย เสียชีวิตในห้อง icu รักษาด้วยวิธีทางการแพทย์จนสุดทางแล้วไม่ไหว
สองคำสุดท้าย ที่ได้ยินจากพ่อ คือบอกว่าหิวน้ำ กับ เจ็บ เพราะเจาะคอ ใส่ท่อ หลังจากนั้นไม่รู้สึกตัว ตอนรักษาหมอต้องเพิ่มยาสลบ กดเรื่องค่าออกซิเจน การเต้นของหัวใจ ให้ในเกณฑ์ปกติ เพื่อให้ค่าออกซิเจนฟื้น แต่ก็ไม่ไหว ความดันลดเรื่อย ๆ จนเสียเหมือนหลับไป

เดี่ยวนี้ก็ไม่ค่อยเห็นการเสียชีวิตแบบหลับไปเลยเหมือนเมื่อก่อนละ