เป็นผมขายเลยครับ เก็บไว้เราก็ไม่ได้ดูแลอะไร

แถมราคาก็ไม่ได้ขาดทุนอะไรด้วยนิ เอามาต่อยอดหรือใช้ชีวิตได้อีกยาวๆ เลยนะ

ขาย แล้วเอาเงินไปลงทุนอย่างอื่น

ส่วนตัวที่บ้านเวลาจะขายที่ของบรรพบุรุษจะออกแนวขายที่ที่ไม่ได้ใช้ เปลี่ยนมาเป็นอีกที่แทน ซึ่งอาจจะมีส่วนต่างเอามาใช้ก็ไม่เป็นไร แต่เราจะได้มีความรู้สึกว่าไม่ได้ขายที่บรรพบุรุษทิ้ง แค่เปลี่ยนมันมาอยู่อีกที่นึงแค่นั้นเอง

บ้านผมก็มีขายของย่าใน กทม เอาไปซื้อบ้านในชุมชน แล้วก็ปล่อยให้เค้าเช่า เราก็ดูแลได้

ขายตั้งแต่ 20 ล้านแล้วครับ

ถ้าราคาไม่หนีราคาตลาดก็ขาย เพราะที่ดินเดียวนี้ต้องเสียภาษี บวกกับสภาพคล่องที่ดินน้อย ถ้ายิ่งแปลงใหญ่ยิ่งขายยาก ถ้าราคาได้ก็ขายเอาเงินไปลงทุนอย่างอื่น

ที่ดินราคาค่อนข้างดีน่าจะอยู่ในทำเลที่ดีมีอนาคต ถ้าไม่คิดจะเอาเงินไปใช้ทำอะไรให้เก็บไว้ครับ
เพราะสินทรัพย์ที่มูลค่าเพิ่มอัตราสูงที่สุดก็คือที่ดินนี่แหล่ะ

ปี 45 เพื่อนผมคนนึงกัดฟันขายทองและกู้เงินซื้อที่ดิน 3 ไร่ใกล้แม่น้ำปิงห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 3 กม. ต้องปลูกบ้านด้วยไม่งั้นกู้ไม่ได้ เบ็ดเสร็จกู้ไป 3 ล้าน ได้ที่ดินและบ้านสร้างใหม่เกือบ 200 ตรม. ผ่านไป 10 ปีมีคนมาขอซื้อต่อให้ราคา 25 ล้าน เจาถามผมว่าขายดีมั้ย ผมถามว่าขายทำไม ต้องการใช้เงินเหรอ เขาบอกว่าไม่ ก็เลยเก็บไว้ ตอนนี้ผ่านมาอีก 12 ปี บอกว่าราคาตอนนี้เพิ่มเป็น 60 ล้านบาทแล้ว

ปี 58 ผมซื้อที่ดินไร่มันสำปะหลังแปลงนึง ติดถนนลาดยาง ซื้อไว้ไร่ละ 2 แสน แพงนะเพราะแปลงอื่นเขาขายกันแสนห้า แต่ผมดูว่าติดถนนมีไฟฟ้าทำเลดีกว่าเลยซื้อราคาอนาคต ผมคุยกับลุงที่มีบ้านห่างกัน 300 เมตร ได้ความว่าที่บุงเพิ่งซื้อก่อนผม 3 ปี แกซื้อไร่ละสี่หมื่น และผมเจอเจ้าของที่ดินคนแรก เขาบอกว่าซื้อที่ดินแปลงนี้เมื่อปี 2525 ไร่ละ 2 พันบาท ผ่านมา 33 ปีราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 100 เท่า มีทรัพย์สินอะไรราคาเพิ่มขึ้นมากกว่านี้หรือเปล่า

แม่เพื่อนผมซื้อที่ดินที่นครสวรรค์ไว้ 3 งาน เมื่อ 30 ปีก่อน ราคาเท่ากับทองบาทเดียว สมัยนั้นทองบาทละ 4 ร้อยกว่า พอแม่เพื่อนเสียชีวิตไป เพื่อนผมก็ทำงานกรุงเทพไม่กลับนครสวรรค์อีกแล้ว เพื่อนฝาก มประกาศขายยกแปลงล้านห้า ผมไม่อยากขายเลยประกาศไปสองล้าน สรุปขายได้วันนั้นเลย ราคาเพิ่มขึ้นกี่เท่าคิดในใจไม่ทันแล้ว

คนต่างจังหวัดหลายคนที่ผมรู้จักอยากขายที่ดินบอกว่าต้องใช้เงิน ผมบอกว่ากู้ ธกส ดีกว่ามั้ย ที่ดินขายแล้วไม่มีทางได้ซื้อกลับแล้วนะ ราคามันขึ้นไว สุดท้ายพวกนี้ขายที่ดิน เงินก็ใช้หมด และไม่มีปัญญาซื้อกลับอย่างที่ผมบอก ห้าปีราคาขึ้นสองเท่า

ผมถึงบอกคนมีที่ดินว่าอย่าขาย ภาษีจ่ายไปเถอะ ยังไงมูลค่าที่ดินมันก็เพิ่มมากกว่า

ขายดิรอไร

เอาเงินมาใช้เปย์ให้มีชีวิตดี รวมถึงลูกด้วย ดีกว่าเก็บไว้ให้ลูกในอนาคต

ขายดิครับ คนเราจะตายวันไหนไม่รู้เอาเงินมาปรนเปรอชีวิตตัวเองดีกว่า

50 ล้านเหมาทั้งแปลงหาคนซื้อ ขายแล้วเอาเงินไปซื้อที่ดินแปลงเล็กเก็บไว้น่าจะดีกว่าครับ

รับมรดกมา ตัวคนเดียวไม่มี พี่น้อง ถ้าคิดว่า พื้นที่ผืนนั้น เราดูแลไม่ได้ ก็ปล่อยขายครับไปหาผืนใหม่

นั่งคิดสักคืนครับ ที่ดินท่านมีคนมาขอซื้อตั้ง 50ล้าน

ตัวท่านน่าจะเอาไปทำอะไรได้มากกว่าประคองตัวไปวันๆนะ

มันน่าเสียดายนะครับ แต่ถ้ามีแผนจะเอาเงินไปทำให้มันงอกเงย ก็ขายเลยครับ

50ล้านมันเยอะพอทั้งชีวิตแล้ว แต่พออยู่จุดนั้นถ้าบทจะมันหมดก็หมดง่ายนะครับ

ผมจะเอา 50 ล้านไปฝากธนาคารกินดอก แล้วทำงานชิลๆ หรืออยากทำอะไรโดยไม่เตะเงินต้น เล่นดอกอย่างเดียว แค่นี้ก็สบายแล้วคัรบ

ความฝันของผมเลยคือมีเงิน 10 ล้านฝากธนาคารกินดอก

อยู่บ้านสวน ปลูกต้นไม้ เลี้ยงหมา แมว อ่านหนังสือเรื่อยเปื่อย

ขายแล้วเอาไปซื้อที่ใหม่ที่เราอยากไปอยู่บั้นปลายชีวิตยังได้เลย

เอาสัก 4-5 ไร่ สร้างบ้าน ทำสวนผัก ปลูกข้าวกิน อยู่แบบพอเพียง

เป็นผมขายละ แล้วแบ่งมาลงทันกินปันผลซัก 30-40 ล้าน ที่เหลือก็เคลียหนี้ ซื้อบ้านหาความสุขใส่ตัวเอง

ที่ดินที่ไม่ได้มีแผนเอาไปสร้างประโยชน์ส่วนตัว หรือสร้างรายได้ อย่าเก็บไว้เป็นภาระเลยครับ


เอาไปทำอะไรที่มันทำให้เกิดประโยชน์ต่อท่านดีกว่า