#SayNoToAbuse
สิ่งที่เขาทำแบบชัดๆ (เฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับผู้หญิง)
.
สืบเนื่องจากต้นโพสต์ของน้องป.
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1746418652502359&id=100014027225999&mibextid=Nif5oz
และผลลัพธ์ซึ่งนำไปสู่การยุติการทำงานร่วมกับ ป๋องแป๋ง อาจวรงค์ จันทมาศ ของ The Standard
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=687263526866327&id=100067480567756&mibextid=Nif5oz
.
เห็นว่ามีคนในคอมเม้นจำนวนหนึ่งที่ยังงง และไม่เข้าใจว่าการกระทำของเขาคืออะไรกันแน่ เลยอยากมาช่วยอธิบายเพิ่มเติมเท่าที่ทำได้ แล้วฝากให้ทุกท่านตัดสินกันเอง
.
สิ่งที่เขาทำแบบชัดๆ
.
Lv.1 เริ่มจากทักไปหา น้องผู้หญิงอายุน้อยๆ และทักไปทั่ว
เลือกจากคนที่เจอตามงานพูด งานบรรยาย ตามสถาบันศึกษา โรงเรียน ค่ายวิทยาศาสตร์ แฟนคลับที่เข้ามาหามาเจอตามโอกาสต่างๆ หรือมาพูดคุยออนไลน์ บางครั้งก็แค่ช็อปปิงจาก friend list ของคนอื่น เลือกคนน่ารัก หรือคนที่ดูปลื้มดูหลง คนที่ดูมีความสามารถเก่งบางเรื่อง เช่น เขียนบทความ วาดรูป ฯลฯ
.
จะทักไปหาแบบไม่ใช่ทักทั่วไป แต่เหมือนมาจีบ มาหม้อแบบแปลกๆ
หลายคนไม่เล่นด้วย ก็จบแค่นี้ (มีบางคนอาจโดนด่าเช็ดก่อนโดนบล็อค) แต่โดนแค่นี้ก็เกิดความอึดอัดแล้ว
ว่าทำไมคนที่เราชื่นชมแบบรุ่นพี่มาเข้าหาเราแนวนี้ แล้วคนที่โดนด่าก็จะเสียความรู้สึกว่าทำไมกูต้องโดนอะไรแบบนี้หว่า
เอาแค่เลเวลนี้ เท่าที่เห็น น่าจะมีเยอะมากๆๆๆๆๆ ไม่กล้าฟันธงว่าถึงหลักร้อยหรือไม่ แต่คนรอบตัวบอกปากต่อปากกันเยอะจริงๆ
และคนที่เพิ่งมาเขียนแชร์ออนไลน์ ว่าหนูก็เคยโดน ก็มีอีกมากมาย
.
1.1 มีเคสหนึ่ง แฟนคลับผู้ชายค้นพบว่า แฟนตัวเองเจอเขาทักแช็ทมาจีบ ชมว่าน่ารักบ้างไรบ้าง พอไปโวยว่าทำไมพี่ทำแบบนี้กับผม ผมนับถือพี่นะ ก็โดนเขาบล็อกไป
.
Lv.2 สำหรับคนที่ตอบแช็ทและคุยกับเขาด้วยความรู้สึกเริ่มต้นที่ดี ก็ได้ไปต่อ ก็จะเริ่มคุยกันดึกๆ ดื่นๆ พัฒนาสู่การขอคอลไปหา พูดง่ายๆ คือเหมือนจีบแหละ
แต่น่าจะหว่านไปทั่วกับผู้หญิงจำนวนมากในเวลาเดียวกัน และไม่เคยบอกใครให้ชัดๆ ว่านี่คือจีบนะ ขั้นต่อไปคือขอนัดเจอสองต่อสอง หลายคนที่เริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบายใจแล้วก็จะหยุดที่ขั้นนี้
บางคนแค่ได้ความรู้สึก creepy แล้วก็จบไป แต่หลายคนพอไปปฏิเสธเขา กลายเป็นว่าโดนด่าเสียๆ หายๆ หยาบๆ คายๆ อีก แล้วก็ถูกบล็อกไปตามสูตร
อาจจะเสียความรู้สึกไปพักใหญ่ แต่ก็มูฟออนและจบไปแค่นั้น (หรือหลายคนอาจเกิดเป็นบาดแผลคาใจไปนาน เพราะระดับคำด่าเขาไม่ธรรมดาจริงๆ)
ระดับเลเวลนี้ เท่าที่รู้ก็เยอะเหมือนกัน
.
Lv.3 ถ้าใครพัฒนาสู่ขั้นต่อไป คือไปหาไปเจอ ยอมคุยประจำ จะกลายเป็นเด็กในสังกัดเขา เค้าจะทำดีด้วย จะชื่นชม จะโทรมาระบายเรื่องนู้นเรื่องนี้ตอนดึกๆ ตลอด เล่นเปียโนให้ฟัง เล่านิทาน ให้คำแนะนำชีวิต ทำให้รู้สึกสำคัญ มอบหมายงานให้ทำ ไหว้วานนู่นนี่ แต่จะไม่บอกชัดๆ ว่านี่คือการจีบหรือขอเป็นแฟน ก็จะกลายเป็นคนสนิทที่คอยตามไปหา คอยทำงานให้เขาอยู่เรื่อยๆ ด้วยความคิดว่าเราอาจจะเป็นคนสำคัญละมั้ง โดยไม่รู้ว่ากำลังอยู่ใน pattern ที่มีคนอื่นอยู่ด้วยอีกหลายคน
.
ความ toxic ขั้นรุนแรงคือสเต็บหลังจากนี้
.
Lv.4 คือคนที่คบกันดีกับเขาอยู่ได้ระยะหนึ่ง แล้วค่อยกลายเป็นสนามรองรับการระเบิดอารมณ์ หากทำอะไรไม่ถูกใจเขาสักอย่าง เช่นโทรไปไม่รับสาย ใช้ทำงานแล้วออกมาไม่ดีพอ เขาจะใช้สิ่งเหล่านี้เริ่มต้นวงจรแห่งการระบายอารมณ์ ด่า ดูถูก หยาบๆ คายๆ พูดให้เด็กรู้สึกหมดคุณค่า หวาดผวา อยากตาย ไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิด หรือเชื่อไปเลยว่าตัวเองแย่จริงๆ
.
ตรงนี้แยกหมวดย่อย 4.1 ให้ด้วย ว่าผู้หญิงบางคนเขาไม่ได้เข้าหาแบบจีบ แต่เข้ามาแบบเป็นรุ่นพี่หัวหน้างาน สั่งมอบหมายใช้งานต่างๆ
แต่จะจ้องหาจังหวะใช้อำนาจโขกสับ กดขี่ข่มเหง ต้องมาหา ต้องรับสายเดี๋ยวนี้ ทำไมมึงทำงานห่วย ไอ้เหี้ย ไอ้ควาย ทำไมมึงโง่แบบนี้ ใช้คำพูดด่าทอดูถูกในระดับที่ไม่ธรรมดา ตรงนี้บางคนที่โดนหวาดกลัวจนเกิดบาดแผลในใจไปนาน จนกลายเป็น PTSD, panic attack
.
บางคนโดนทำแบบนี้ครั้งสองครั้งก็ไม่เอาแล้ว อาจจะเฟดจะบล็อกไป เรียกว่าตาสว่างเห็นผีในที่สุด คนที่แกรดจากเลเวลนี้เท่าที่รับรู้ก็มีเยอะ บางคนอาจต้องใช้เวลาหลักเดือน หลักปีกว่าจะหลุดออกมา
.
แต่หลายคนก็ออกจากความสัมพันธ์ไม่ได้ เพราะเค้ายังกลับมาง้อ มาขอโอกาส ในลักษณะเหมือนง้อแฟน มาบอกว่าพี่ผิดไปแล้ว เธอสำคัญกับพี่มากนะ เพราะเธออดทนกับพี่ได้มากที่สุด ใช้คำว่ารักมาสะกด ก็ยังกลับไป และวนเวียน คิดว่าที่ผ่านมาเป็นความผิดตัวเอง โดนแล้วโดนอีก กับการถูกปั่นหัวด้อยค่า (gaslight) ลดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ช่วงที่ดิ่งก็เกือบจะถึงขั้นฆ่าตัวตายจริงๆ
.
ต้นโพสต์ ยกให้เป็นเลเวล 5 ละกัน เพราะติดอยู่ห้าปี
แล้วระหว่างนั้นไม่เคยได้สถานะชัดเจน ว่าคบกันเป็นอะไร
พอเริ่มสงสัยว่าหรือเขามีด้านที่ปิดบัง จะพยายามสืบเสาะก็จะโดนเขาสกัดด่าเช็ดจนร้องไห้ ว่าไม่มีสิทธิไปยุ่งเรื่องส่วนตัว
.
พอจะทดลองทำอะไรที่ยกระดับเป็นแฟนจริงๆ เช่นจะซื้อดอกไม้ไปให้ที่บ้านในวันวาเลนไทน์ ก็โดนเขาด่าปู้ยี่ปู้ยำความปรารถนาดีจนไม่เหลือซาก ว่าทำแบบนี้ทำไม นี่เธอล้ำเส้นกับพี่
เลเวลนี้ยังไม่รู้ข้อมูลว่ามีกี่คนที่เจอ แต่ได้คุยส่วนตัวกับอย่างน้อยหนึ่งคน และน้องบอกว่ามีคนอื่นๆ ทักมาแชร์หลังไมค์อีก ข้อเท็จจริงคงค่อยๆ ปรากฏออกมา แต่แค่น้องคนนี้คนเดียวก็ไม่สมควรแล้ว
.
สุดท้าย จิตใจน้องแตกสลายอีกครั้ง เมื่อเห็นเขาเปิดตัวหน้าตาเฉยกับสาวอื่น และยังพูดจากดด่าน้องต่อหน้าแฟนและเพื่อนร่วมงานอย่างอำมหิต แถมยังใช้ให้ทำงานต่ออีก นอกจากนี้ยังค้นพบว่าเรื่องส่วนตัวที่เขาปิดบังนั้น คือเขาเคยทำแบบเดียวกันนี้มาแล้วกับใครอีกหลายคน และน่าจะยังมีคนใหม่เพิ่มอีกเรื่อยๆ ตามชื่อเสียงที่โด่งดังขึ้น เมื่อคนเก่าในสังกัดคนไหนเริ่มไม่ยอม เริ่มควบคุมไม่ได้ เขาก็แค่ไปหาเหยื่อใหม่จากคนที่เพิ่งมาปลื้มต่อ โดยไม่มีวี่แววว่าจะสำนึกผิดใดๆ
และภาพลักษณ์เขาในสาธารณะก็ยังดูดีมากๆ มีแต่คนชื่นชม และส่วนใหญ่ไม่มีใครระคายด้านดาร์กเลย
.
ล่าสุด เหตุผลที่น้องป.ออกมา call out คือ ทนไม่ได้ที่เห็นเขามีนักศึกษาหญิงคนใหม่เข้ามาเดินตามใกล้ชิด ในลักษณะที่ชวนให้เกิดความกังวล ไม่อยากให้น้องคนนั้นและคนอื่นๆ ต้องเสี่ยงกลายเป็นเหยื่อรายใหม่ต่อไปเรื่อยๆ จึงตัดสินใจรวบรวมความกล้าออกมาพูด และเรื่องก็ดำเนินมาถึงปัจจุบันด้วยประการฉะนี้
.
เคสของเขาคนนี้ไม่ธรรมดายังไง ?
.
จำนวนผู้ประสบภัยเยอะ และสุ่มเสี่ยงเป็นเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
ระดับความรุนแรงต่อจิตใจของเคสทีโดนหนักมีตั้งแต่ เสียใจมาก หมดคุณค่าในตัวเอง ขยาด ผวา ติดวนอยู่ในความเศร้าและความความกลัว ไปจนถึงคิดสั้นฆ่าตัวตาย
และที่สำคัญ หากไม่เกิดเรื่องก็ดูไม่มีวี่แววว่าเขาจะหยุดพฤติกรรมเดิมๆ อีกทั้งยังได้รับความชื่นชมจากสังคมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผ่านสื่อ
.
เพราะฉะนั้น สุดท้ายแล้ว การกระทำของเขาเรียกว่าเข้าข่ายไหน สมควรได้รับผลกระทบตามที่เกิดขึ้นแล้วหรือไม่ หวังว่าข้อมูลเพิ่มเติมที่ผมเขียนมานี้จะช่วยให้ท่านพิจารณาตัดสินได้มากขึ้น
.
หมายเหตุ
.
1.โพสต์นี้อยากเขียนเพื่อเตือนภัยให้ผู้หญิงที่เสี่ยงจะโดนคุกคามได้เห็นรูปแบบการกระทำ และป้องกันตัวเองได้ ไม่ใช่แค่จากเขาคนนี้ แต่จากใครก็ตาม
.
2. อยากช่วยเสริมรายละเอียดโพสต์ของน้องป.อีกทาง เพื่อให้เกิดความชัดเจนของรูปแบบพฤติกรรมที่ทางต้นสังกัด Standard เห็นสมควรว่าจะไม่สนับสนุนเด็ดขาด จะได้ช่วยลดคอมเม้นแนวที่พยายามไปคาดคั้นกับน้องเค้าด้วยว่าทำไมเขียนเล่าไม่ละเอียด (ส่วนตัวผมคิดว่าน้องเขาเขียนได้ดีมากๆ แล้วนะ) ทั้งนี้การนำบางส่วนมาเล่าเพิ่มเติมได้ขออนุญาตน้องป.แล้ว และน้องยินยอมเพื่อเป็นประโยชน์แก่สาธารณะ อยากให้ทุกคนร่วมชื่นชมให้กำลังใจความกล้าหาญของน้องที่เสียสละเปิดหน้าออกมาเรียกร้องความยุติธรรมด้วยนะครับ
.
3. อยากมีอีกสักโพสต์ที่รวบรวมการแชร์ประสบการณ์ตรงของผู้หญิงมากมายที่เคยโดนคนนี้คุกคามไม่ว่าจะ level ไหน ตอนนี้มีการแชร์กันเยอะแต่กระจัดกระจายอยู่หลายที่หลายช่วงเวลามาก คิดว่าน่าจะรวมมาไว้ที่เดียวให้ตามอ่านง่ายๆ และสร้างความหนักแน่นของพยานหลักฐาน แต่อาจต้องใช้เวลาไปไล่เก็บและขออนุญาตจากเจ้าของโพสต์และคอมเม้นต่างๆ แต่ละคน หากใครอยากช่วยทำตรงนี้คนละนิดละหน่อยก็มาคุยมาเสริมในคอมเม้นได้นะครับ
.
4. โพสต์ต่อไปที่อยากเขียนเพิ่มคือการอธิบายชี้แจงส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวผมเองโดยตรง การตัดสินใจเอา WiTcast ตอนเก่าๆ ออก ความรู้สึกท่วมท้นประดังประเดทั้งหลาย รวมถึงรายละเอียดเหตุผลจากการแยกทางของ WiTcast กับป๋องแป๋งเมื่อหลายปีก่อน รวมถึงว่าทำไมผมไม่ออกมาพูดเรื่องพฤติกรรมของเขาให้เร็วกว่านี้
.
วันนี้หมดแรงแค่นี้ก่อนครับ
#SayNoToAbuse