เห็นในนี้แว๊บๆนะ

psychopath ไหมหรือแค่ narcissistic

แต่มี mind control แถมหลอกคนภายนอกมาตั้งเป็นสามสิบปีผมว่าเขาน่าจะมี radiant หลายอย่างซ้อนกันอยู่นะ

ถ้า psychopath ถ้าให้เดาตอนนี้เขาก็ยังไม่คิดว่าตัวเองทำผิดนะ อาจจะอ้างไปว่าคนนั้นเว่อเกินเหตุหรือจงใจแกล้งตัวเอง อะไรแบบนี้

ไม่ต้องหมอจิต ผมว่าทุกคนก็หาคำตอบได้แหละคร้บ เพราะสิ่งที่เรามีร่วมกันคือNatural Instinctที่มันติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด เพื่อให้เอาชีวิตรอด เหมือนที่สัตว์อื่นๆก็มี

บางคนดูเหมือนยอมให้พวกพ้องได้ผลประโยชน์ก่อน ผิวเผิน ก็เหมือนเป็นคนใจกว้าง แท้จริงใจคนยากแท้จะหยั่งถึง วันนี้ให้เขา เขาก็ติดหนี้บุญคุณเรา จะช้าเร็ววันหน้าแม้ไม่ทวงบุญคุณตรงๆก็คาดหวังจะได้รับสิ่งตอบแทนจากที่เป็นคนให้ไปอยู่ตลอด แบบนี้คนทีเอาพวกพ้องก่อนถือว่าเป็นคนไม่มีเหลี่ยม ไม่Manipulateรึเปล่า ถ้ามองผิวเผินแบบที่สังคมไทยชอบกันก็ชอบเลยล่ะ คนประเภทนี้ แต่ในความเป็นจริงก็Manupulationในอีกรูปแบบหนึ่งเหมือนกันแหละ

คือสิ่งที่นักวิทย์ทำ ก็เพื่อผลประโยชน์ของเขา จะMind game จะใช้ความสเน่หา ก็มีจุดประสงค์แอบแฝง ที่ออกจะชัดเจนเสียด้วยซ้ำ ส่วนคนที่บอกว่าเป็นเหยื่อที่อ้างเรื่องSH(ใช้คำว่าอ้าง เพราะไม่มีหลักฐานเขิงประจักษ์ใดๆ) ที่ยอมโดนสิ่งที่บอกว่าSHก็ต้องการบางสิ่งตอบแทนไม่ใช่หรือ จะความรัก หรือความรู้ หรือการดูแลเป็นพิเศษ เพราะไม่อย่างนั้น คนทุกคนก็walk awayจากสถานที่นึงได้ง่ายๆก็เท่านั้นเอง

ประเด็นคือท้ายที่สุดผมว่ามนุษย์ทุกคนมันมีHidden Agendaพวกนี้เสมอแหละ แค่แสดงออกมาในระดับไหน โจ่งแจ้งหรือไม่ มากกว่า

ไม่ต้องหมอจิต ผมว่าทุกคนก็หาคำตอบได้แหละคร้บ เพราะสิ่งที่เรามีร่วมกันคือNatural Instinctที่มันติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด เพื่อให้เอาชีวิตรอด เหมือนที่สัตว์อื่นๆก็มี

บางคนดูเหมือนยอมให้พวกพ้องได้ผลประโยชน์ก่อน ผิวเผิน ก็เหมือนเป็นคนใจกว้าง แท้จริงใจคนยากแท้จะหยั่งถึง วันนี้ให้เขา เขาก็ติดหนี้บุญคุณเรา จะช้าเร็ววันหน้าแม้ไม่ทวงบุญคุณตรงๆก็คาดหวังจะได้รับสิ่งตอบแทนจากที่เป็นคนให้ไปอยู่ตลอด แบบนี้คนทีเอาพวกพ้องก่อนถือว่าเป็นคนไม่มีเหลี่ยม ไม่Manipulateรึเปล่า ถ้ามองผิวเผินแบบที่สังคมไทยชอบกันก็ชอบเลยล่ะ คนประเภทนี้ แต่ในความเป็นจริงก็Manupulationในอีกรูปแบบหนึ่งเหมือนกันแหละ

คือสิ่งที่นักวิทย์ทำ ก็เพื่อผลประโยชน์ของเขา จะMind game จะใช้ความสเน่หา ก็มีจุดประสงค์แอบแฝง ที่ออกจะชัดเจนเสียด้วยซ้ำ ส่วนคนที่บอกว่าเป็นเหยื่อที่อ้างเรื่องSH(ใช้คำว่าอ้าง เพราะไม่มีหลักฐานเขิงประจักษ์ใดๆ) ที่ยอมโดนสิ่งที่บอกว่าSHก็ต้องการบางสิ่งตอบแทนไม่ใช่หรือ จะความรัก หรือความรู้ หรือการดูแลเป็นพิเศษ เพราะไม่อย่างนั้น คนทุกคนก็walk awayจากสถานที่นึงได้ง่ายๆก็เท่านั้นเอง

ประเด็นคือท้ายที่สุดผมว่ามนุษย์ทุกคนมันมีHidden Agendaพวกนี้เสมอแหละ แค่แสดงออกมาในระดับไหน โจ่งแจ้งหรือไม่ มากกว่า

ถือว่าเป็นเคสที่เข้าใจยากสุดเคสนึงเลยละ



ศัพท์อังกฤษเยอะชิหาย ตั้งแต่ต้นเรื่องละ สงสัยกลัวไม่น่าเชิ่อถือเลยใช้ศัพท์ยากๆหน่อยให้คลุมเครือๆหน่อย ทั้งๆที่ภาษาไทยมันน่าจะอธิบายพฤติกรรมเหล่านี้ได้ไม่ยาก

มีแชทหลุดเด็ดมาบ้างแล้วยังครับ ขัดคีบอร์ดรอแล้ว

เคสนี้ผมแปลกตรงนี้ไม่เห็นไรเลยนอกจากคนพูดกันๆ แต่ก็พยายามยาระดับนึงนะทั้งสองฝั่ง

อยากให้คนไทยระวังมากขึ้น กับเพียงแค่การอ่านบางอย่างในโลกออนไลน์แล้วพยายามตีความเองว่าคนๆ นั้นมีอาการทางจิตหรือไม่

หากเคยเรียนหรืออบรมกับอาจารย์จิตวิทยาจริงๆ จะทราบว่าจรรยาบรรณหลักเลยคือ ห้ามแปะป้ายหรือวิเคราะห์เองว่าคนนั้นป่วยเป็นโรคหรืออาการนั่นนี่ เพราะขนาดจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาคลีนิก ยังต้องให้ทำแบบประเมินหลายๆ อย่างเพื่อวินิจฉัยอาการและทำการรักษาอย่างถูกวิธี

การอ่านแค่เพียงตัวอักษรในโลกออนไลน์ และแปะป้ายให้คนๆ นึงเลย จึงเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง