ถ้างั้นมันก็แทบไม่ต่อยอดอะไร มันก็คือเหมือนเดิม ในเมื่อมันก็คือต่างคนต่างแยกกันเล่น แค่ออกมาแถลงข่าวเคลมว่า นี่คือการเล่นทั้งเดือนตามโรดแมพ ไอเดียของพรรค ทั้งๆที่คนเขาก็เล่นกันเป็นปกติ ต่างกันแค่มีแถลงข่าวเปิดงาน

กับอาจจะบูสบางงานของแต่ละภูมิภาคให้ใหญ่โตไปเลย ซึ่งคนเล่นมันก็เล่นกันแค่นั้นแหละ คำว่าทั้งเดือน มันเหมือนซื้อใจนักท่องเที่ยวมากกว่าคุณเล่นนี่เสร็จไปเล่นนู้นต่อได้นะ ในขณะที่คนแต่ละถิ่นแม่งของเล่นของเค้าเหมือนเดิม และคงไม่โยกย้ายไปเล่นถิ่นนู้นที่ไกลต่อขนาดนั้น เพราะทั้งเรื่องการเดินทาง ภาระทางบ้าน การยังต้องกลับไปทำงานยังเป็นเงื่อนไขอยู่ ต่างจากนักท่องเที่ยวที่ใส่หนักได้รัวๆ

สรุปง่ายๆก็คือเล่นคำเล่นลิ้น กับสิ่งเดิมๆที่มีอยู่แค่นั้นแหละ

ปะแป้งให้หนำใจเลยจั๊บ

ไม่รู้อะไรจะเปื่อยก่อน

ดูแล้วก็ไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ แต่เอามาประกาศใหญ่โตเฉยๆ

เหมือนแค่จัดตารางที่ชาวบ้านเล่นกันมาประกาศเป็นทางการ แต่อยากได้หน้าเลยโดนด่าชุดใหญ่แทน

ผมเป็นห่วงเรื่องเอลนินโย่สุดละ ไม่รู้ปีหน้ามันจะแล้งนานแค่ไหน การเอาน้ำมาใช้แบบนี้ ผมหละสงสารเกษตรกรเลย ไม่รู้เพื่อไทยเคยคิดถึงจุดนี้บ้างรึป่าว

สื่อสารพลาด ได้ยินครั้งแรกนึกว่าไม่ต้องทำไร จัดสงกรานแม่งทั้งเดือน แต่ที่ไหนได้คือทำแผนผังให้ นทท มีไอเดียการเล่นทั้งเดือน

ถ้าเหมือนเดิมก็แค่เคลมแล้วเบิกงบเพิ่มหรอ

แต่ละอย่างที่อุ๊งอิ๊งพ่นออกมา อยากรู้จริงๆว่ามีการประชุมที่บรีฟกันก่อนบ้างมั้ย

หรือลูกนายพ่นออกมาแล้ว ทุกคนต้องรับลูกดันทุรังส่งเสริมแม้ว่ามันจะแย่แค่ไหน

เอาง่ายๆแบบนี้ก่อนละกันนะครับ


ก่อนอื่นเลย การจะเล่นสงกรานต์ทั้งเดือนเพื่อเรียกนักท่องเที่ยวเข้าประเทศให้มากขึ้นเนี่ย คอร์ไอเดียคือโอเคนะ ไม่แย่


แต่ถามคำถามแรก เอาคนไทยก่อน คนไทยเคยเดินทางไปจังหวัดเหล่านั้นหรือไม่? และถ้าเคย เดินทางกันแบบไหน? การจะดันท่องเที่ยวเมืองรอง มันไม่ใช่แค่จัดพิธี จัดกิจกรรม ละก็จบ บางจังหวัดที่ว่ามาเนี่ย ผมคนไทยยังไม่เคยไปเลย และถ้าให้ไป ก็นึกไม่ออกว่าถ้าไม่ขับรถไป จะเดินทางไปยังไงเหมือนกัน



คำถามต่อมา เสน่ห์ของแต่ละที่ต่างอะไรกันยังไงบ้าง หรือแค่จัดกิจกรรมสาดน้ำเหมือนกันต่อเนื่อง? ถ้าเหมือนกัน แล้วมันจะมีนักท่องเที่ยวที่ไหนเล่นที่นี่เสร็จ ไปเล่นต่อที่อื่นอีก? แปลว่าออกจากเมืองท่องเที่ยว ก็จะเป็นนักท่องเที่ยวชุดใหม่ที่มาเพื่อไปเล่นสงกรานต์ในจังหวัดอื่น จริงหรือไม่?


คำถามสุดท้าย ถ้ามันเป็นที่ว่ามาข้างบน มันก็คือแยกกันเล่นตามวันไหล คำถามคือแล้วมันมีอะไรเปลี่ยนแปลง??? การโฆษณาให้ต่างชาติรับรู้มากขึ้นหรอ??? ยังไง แบบไหน ใช้เงินเท่าไหร่??????

ถ้าเป็นผมงานหลักเป็นแบบเดิมคือ 13-15 นี่แหละ แต่ตรงไหนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใครอยากจัดทั้งเดือนก็จัดไป ใครอยากเล่นน้ำก็มาโซนนี้ นอกจากโซนนี้ก็ใช้ชีวิตปกติ

หาอะไรให้ลูกนายกทำฆ่าเวลา

ปกติมันไม่ค่อย official ถ้ารัฐประกาศ official ผมกลัวมันจะกระจายไปหลายที่ ครับเพราะ ที่ไหนก็อยากจัดนะ

ส่งสัยรายละเอียดจะเยอะ แถลงข่าวซะนานเลย

ผมงงแค่ว่า

ตกลง core ของการจัดงานคืออะไร มีการทำ SWOT Analysis บ้างไหม

รัฐบาลคาดหวังอะไรกับจังหวัดที่จัดงาน wk3 กับ wk4 อย่างชลบุรีและสมุทรปราการ

โอเคว่า 2 จังหวัดนี้เป็นแหล่งงาน มีนักท่องเที่ยวมาแซม แต่ประเด็นคือมันเลย wk ของสงกรานต์ไปแล้ว

คนก็ต้องกลับมาทำงาน มึงคิดเหรอว่าคนมันจะมาเล่นสาดน้ำสงกรานต์กันหลังเลิกงาน

อีกเรื่องคือถัดจากเมษาคือเดือนพฤษภา ซึ่งแม่งเป็นเดือนที่วันหยุดเยอะสัสๆ ไหนจะวันฉัตร วันพืช

ลำพังเดือนเมษาไม่ค่อยจะได้งานอยู่แล้ว นี่คือกะว่า blank ทั้งเดือนเลยดิ

แล้วต้องถามต่อว่าระบบวันหยุดประจำปีเซตกันไว้ยังไง

แค่เด็ก ม.6 เห็นว่ามึงประกาศหยุดตอน 4 ทุ่มวันอาทิตย์ มีผลวันจันทร์อยู่แล้วนี่

หรือไง หรือจะมาโชว์ปาหี่ห่วยๆให้ดู

ภูเก็ต​ปกติเล่นแค่วันเดียว วันที่ 13 ให้เล่นลากยาวเป็นวีค จำเริญ​ล่ะมึง

หรือนับแค่ 13 วันเดียวแล้วประกาศเหมารวมว่าทั้งวีคไรแบบนี้อีกปะ สมกับเป็นไอ้พรรค​บิดคำจริงๆ

เหมือนอาไม่มีผิด