ก็จริง

ถ้ามนุษย์ยังมีความอยาก ความต้องการ ยังไงมนุษย์ทุกคนก็เห็นแก่ตัวครับ

เราแค่โดนมาตราฐานสังคมครอบไว้ ไม่ให้เห็นแก่ตัว

ประชากรเพิ่มมากขึ้น = เห็นแก่ตัวมากขึ้น

หรือจะดำเนินชีวิตพอเพียง

มีบ้างที่ชนะกันด้วยผลประโยชน์ ด้วยข้อมูลที่ดีกว่า

แต่ผมถือคติ จะไม่ขี้โกงใครฮะ แพ้เป็นพระ ชนะเป็นเจ้าอาวาส

ถ้าการที่ไม่ยอมให้คนอื่นเอาเปรียบคือการเห็นแก่ตัว ผมก็เป็นแบบนั้นแหละครับ เพราะคนไทยชอบบอกให้หยวนๆเล็กๆน้อยๆให้ยอมมันไปเถอะ แต่จริงๆแล้วที่มันเอาเปรียบคือมันตั้งใจไงไม่ใช่ผิดพลาดแบบนี้ใครมันจะอยากไปยอมวะ

จริง มนุษย์บางคนเกิดมาเพื่อโดนตีนจริงๆ

ตีความคำว่าใจร้ายให้ออก ผมว่าไม่เชิงนะ แค่กลับมาคิดในเชิงที่ต้องเป็นมากขึ้น

แต่ที่ในประเทศเรา รู้สึกถึงความใจร้ายมากขึ้น อาจเป็นเพราะมันจำเป็นต้องใช้ตรรกะและความเป็นจริงมาประกอบการตัดสินใจมากขึ้น

ยิ่งขึ้นอยู่กับช่วงวัย/ความคิดของแต่ละเจนเนอเรชั่นด้วย ประเทศเราถูกซุกการคิดอย่างถูกต้อง มีเหตุมีผล ไว้ด้วยคำกลุ่มเดียว...น้ำใจ, คนกันเอง, บลาๆๆๆ ซึ่งทำให้การคิด/วิธีคิดถูกเบี่ยงเบนไปเยอะพอสมควรจากสิ่งที่ควรทำครับ

ผมมองแบบนั้นนะ

สำหรับผมจริง100%เลยนะ

เดี๋ยวนี้คือไอโบกรถอ่ะ อย่าหวังว่าจะมีคนจอดเลย เป็นผมผมก็ไม่จอด กลัวขึ้นมาโดนปาดคอ แต่จำได้สมัยเด็กพ่อผมเคยรับพระไปส่งดึกๆ

เดี๋ยวนี้คนแปลกหน้ามาคุยผมก็ไม่กล้าคุยละกลัว ยิ้มๆละหนีดีกว่า

ลองคิดดูเล่นๆผมจำได้นะสมัยก่อนผมเคยให้คนยืมโทสับ แต่ถ้าตอนนี้มีคนเดินมายืมโทสับก้แอบลังเลนะ กลัว

แชร์เน็ตตอนแรกผมก็ไม่คิดอะไร แต่พอฟังข่าวมากๆ พูดตรงๆตอนนี้ผมคงไม่กล้าแชร์เน็ตมือถือให้ใคร กลัวโดนดูดตัง แฮคมือถือไรงี้

ผมเลยคิดว่าสังคมมัน เหมือนผ่านช่วงเวลาที่มิจฉาชีพใช้ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การแบ่งปัน ที่ดีในสังคม มาหลอกคน จนตอนนี้คนต้องไม่มีความเอื้อเฟื้อกันแล้วอ่ะ

ช่วยกันหน่อยดินิดหน่อยๆ แต่บ่อย ถามว่าเคยช่วยเรากลับมั้ย น๊านนานที

สรุปเราเป็นคนยังไง ก็เป็นคนชั่วเหมือนเดิม หวานเจี๊ยบ

คนเรามักคิดว่าเล็กๆน้อยๆ แต่จริงแล้วมันคือความเห็นแก่ตัว

เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด

ใจร้ายกับคนที่เห็นแก่ตัวกับเราและคนอื่น

ใจดีกับคนที่สมควรได้รับมันครับ

ผัวเมีย แฟน ทะเลาะกัน ตีกัน

ไม่ห้าม - เห็นแก่ตัว ใจดำ เห็นคนมีปัญหายังเดินหนีอีก

ห้าม - ไปยุ่งอะไรกับเค้า เรื่องส่วนตัว