ผมตามไม่ทันครับ เรื่องราวเป็นมายังไง ทำไมจู่ๆปีนี้ถึงมีดราม่าให้ยกเลิก

ใครรู้เล่าทีครับ

ส่วนตัวมองว่าการทำกิจกรรมควรมีได้ครับ แต่ควรอยู่ในขอบเขต มีประโยชน์ของกิจกรรมที่ชัดเจน และอยู่บนพื้นฐานของสิทธิ และเสรีภาพของคนอื่นด้วย โดยเฉพาะเด็ก

อย่างการแปรอักษรนี่ เด็กรู้ด้วยซ้ำหรือเปล่าว่าตัวเอวต้องถือป้ยคำว่าอะไร ซึ่งจากที่หาข้อมูลมา ไม่รู้ด้วยซ้ำ มันไม่ต่างจากการใช้เป็นเครื่องมือในการทำอะไรสักอย่างเลย

อีกอย่างนะครับ เลิกเอาความภาคภูมิใจของตัวเองไปให้คนอื่นสักที ความภาคภูมิใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

ปล. พวกศิษย์เก่าที่บอกว่าอยากขึ้นใจแทบขาดนี่ บางทีถ้าต้องไปซ้อมหลายๆ ชม. วันจริงต้องตากแดด ลุกไปเข้าห้องน้ำไม่ได้ บลาๆ ไปจริงอาจไม่พอใจเหมือนกันก็ได้

ปล.2 ถ้าบอกว่ามีคนอยากขึ้นเยอะ การยกเลิกบังคับนี่ไม่น่ามีปัญหานะครับ ไม่รู้ทำไมถึงมีปัญหากัน งง

ปล.3 พูดถึง มหาลัยอื่นๆ รวมถึง ฬ มธ ด้วยนะครับ แต่ปีนี้ที่เป็นประเด็นเพราะคนมาให้ความสำคัญกับ สิทธิ เสรีภาพ มากขึ้นในช่วงปีหลังๆ

ไม่ได้จะยกเลิกการแปลอักษรครับ

แค่ "ยกเลิกบังคับ" เฉยๆ มันเลยเป็น "ยกเลิกบังคับแปลอักษร" ไม่ได้ยกเลิกการแปลอักษร

การแปลอักษรอะยังมีอยู่ แต่แค่อยากให้คนที่ขึ้นไปแปลอะ เป็นนักเรียนที่สมัครใจ ไม่ใช่การบังคับ

ไม่ต้องแปลกใจครับ

ทุกคนนี้ยังมีอีกไม่รู้กี่ล้านคน ที่แยกความหมายไม่ออก
ระหว่าง "ยกเลิก XXX" กับ "ยกเลิกบังคับ XXX"

ทั้งเรื่องชุดนักเรียน เกณฑ์ทหาร และอื่นๆ

ผมก็ไม่ได้ไปตามอ่านละเอียด

แต่ก่อนงานบอลจตุรมิตร มีรณรงค์กระแสให้ยกเลิกบังคับการเข้าร่วมแปรอักษรให้เป็นแบบใครสมัครใจเข้าร่วมก็เข้า

แต่อีกมุมนึงถ้าไม่บังคับ จำนวนคนมันก็หายไปเยอะแน่ๆ แล้วมันไม่เวิร์คแน่ๆถ้าจำนวนคนมันไม่พอ

พอมีกระแสออกมาบรรดาศิษย์เก่าก็ออกมาตีโพยตีพายเยอะมาก ว่ามันคือเกียรติยศสถาบัน ต้องเสียสละให้ส่วนรวม บลาๆๆๆ แล้วพวกนี้ก็โดนคนในสังคมโต้ตอบอีกทีเหมือนกัน


ซึ่งเอาจริงๆมันดูเบียวและ cringe ชิบหาย พอๆเด็กช่างกลแสดงพลังหัวเข็มขัดเลย อันนี้เหมือนวอนนาบี Ivy league in Thailand




แต่ถ้าเป็นนักเรียนผมจะไปร่วมนะ เผลอๆจะเป็นแกนนำแปรอักษรเลย จะมีสักกี่ทีที่เราได้โอกาสแสดงข้อความการเมืองโหดๆ อุ๊งอิ๊ง เศรษฐาแกไม่รอดแน่

แต่ถ้ามี censorship จากครู อาจารย์ผมก็ strike ไม่เข้าร่วมก็แค่นั้น

คิดไม่เหมือนกัน ทุกที่มันมี

กฏหมาย > กฏสถานที่ > สิทธิเสรีภาพ


ถ้าอันนี้มันรุ้กันอยุ่แล้วว่ามันมีการต้องขึ้น ตั้งแต่ก่อนเข้าเรียนแล้ว มาบอกว่าบังคับแล้วไม่ขึ้นก้แปลกๆ

มันก็มีคนที่ไม่อยากขึ้นแปลอักษร รุ่นผมก็มี แต่ขอบอกเลยว่าส่วนน้อยมากๆๆๆๆ

แต่ผมมองว่า ถ้ามือเท้ายังดี ไม่ได้เจ็บได้ไข้ ก็ควรขึ้นแปรอักษร
ในการเรียนนอกจากได้รับความรู้ด้านวิชาการแล้ว ก็ควรร่วมกิจกรรมด้วยนะ เรียนรุ้การทำงานร่วมกัน
ไม่ใช่อะไรไม่พอใจ ก็อ้างสิทธิเสรีภาพตะพรึดตะพรือ ดูอ่อนแอจัง
มิน่าถึงเวลามีชุมนุม มีกิจกรรมกันทางการเมือง ถึงชนะทหารตำรวจไม่ได้สักที

ในการแปรอักษร มันไม่ได้แค่ยกเพจขึ้นบนแสตนเชียร์แล้วแปลได้เลยนะ
มันต้องมีการระดมความคิด มีการแบ่งงานกัน ใครขึ้นเชียร์ ใครคุมน้อง ใครดูแลเรื่องสะเบียง
ใครเป็นคนกลางในการติดต่ออีก 3 รร
ฝ่ายนักเตะก็ต้องมีการเตรียมทีม มีฝึกซ้อม

ตอนรุ่นผม ก็ยอมรับว่าร้อนครับ แต่มันคือความภาคภูมิใจนะ

https://www.soccersuck.com/boards/topic/2374173

รอดูคนเข้าแรง แบบเน้นสะใจ

ส่วนตัวมองว่าการทำกิจกรรมควรมีได้ครับ แต่ควรอยู่ในขอบเขต มีประโยชน์ของกิจกรรมที่ชัดเจน และอยู่บนพื้นฐานของสิทธิ และเสรีภาพของคนอื่นด้วย โดยเฉพาะเด็ก

อย่างการแปรอักษรนี่ เด็กรู้ด้วยซ้ำหรือเปล่าว่าตัวเอวต้องถือป้ยคำว่าอะไร ซึ่งจากที่หาข้อมูลมา ไม่รู้ด้วยซ้ำ มันไม่ต่างจากการใช้เป็นเครื่องมือในการทำอะไรสักอย่างเลย

อีกอย่างนะครับ เลิกเอาความภาคภูมิใจของตัวเองไปให้คนอื่นสักที ความภาคภูมิใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

ปล. พวกศิษย์เก่าที่บอกว่าอยากขึ้นใจแทบขาดนี่ บางทีถ้าต้องไปซ้อมหลายๆ ชม. วันจริงต้องตากแดด ลุกไปเข้าห้องน้ำไม่ได้ บลาๆ ไปจริงอาจไม่พอใจเหมือนกันก็ได้

ปล.2 ถ้าบอกว่ามีคนอยากขึ้นเยอะ การยกเลิกบังคับนี่ไม่น่ามีปัญหานะครับ ไม่รู้ทำไมถึงมีปัญหากัน งง

ปล.3 พูดถึง มหาลัยอื่นๆ รวมถึง ฬ มธ ด้วยนะครับ แต่ปีนี้ที่เป็นประเด็นเพราะคนมาให้ความสำคัญกับ สิทธิ เสรีภาพ มากขึ้นในช่วงปีหลังๆ

กิจกรรมมันงดงามนะ ทั้งฟุตบอล กองเชียร์ การแปลอักษร มันเป็นความสวยงามของมนุษย์อ่ะ แต่มันแปดเปื้อนด้วยการบังคับคนที่ไม่ได้อยากมีส่วนร่วม มันเลยกลายเป็นความไม่สวยงามของบางคน ทำให้ความสวยงามมันหายไป

ผมยืนยันว่าการยกเลิก"บังคับ"แปลอักษรจะทำให้จตุรมิตร ดูสวยงามขึ้นเยอะ

ถ้าไม่บังคับเด็กแล้วมันทำให้การแปลอักษรล่ม ก็แสดงว่ามันไม่ควรมีแล้วครับ

ลองฟังที่ ผอ เทพศิรินทร์เค้าชี้แจงครับ เด็กมีสิทธิเลือกทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ ไม่ขึ้นแสตนก็ไปเป็นฝ่ายสวัสดิการนู้นนี้ได้


ส่วนเรื่องข้อความ ที่อ้างว่าเด็กรุ้รึเปล่าว่าแปลอะไร อันนี้ก็ต้องบอกว่า งานแปรอักษรทั้งหมด นักเรียนทำกันเอง ในส่วนรุ่นพี่สตาฟเชียร์รู้อยู่แล้วเพราะเป็นคนทำ ส่วนรุ่นน้อง จริงๆก้รู้ครับ อย่างเวลาแปร เค้าก็จะต้องมีการบอกชื่อโค้ดที่จะแปร ยิ่งถ้าเป็นโค๊ดที่สำคัญ ยกตัวอย่าง รูปนี้เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ ต้องตั้งใจแปร เช็คโค้ดดีๆอย่าให้ผิด แต่ถ้าเป็นโค้ดยิบย่อย ยกตัวอย่าง อันนี้โค๊ดขอบคุณสปอนเซอร ก็อาจจะต้องลงมาบอกมั้งว่า ยี่ห้ออะไ่ร

ถ้าการยกเลิกการบังคับแปลว่าไม่ควรมี ให้คนที่โดนบังคับเลือกได้

บนโลกนี้มีสิ่งที่ไม่ควรมีหลายเรื่องมากอะ

ผมในฐานะศิษย์เก่า ผมเข้าใจทั้งฝั่ง

ยกเลิกบังคับแปรอักษร != ยกเลิกแปรอักษร

และ
ยกเลิกบังคับแปรอักษร = ยกเลิกแปรอักษร

คือการจะแปรอักษรได้คนมันต้องครบอะครับ ต้อง1600 ขาดหลักสิบ อาจจะหายไป 1 แถวได้ แต่ถ้าขาดหลักร้อย อันนี้ไม่ได้ชัวร์ๆ มันจะแหว่ง ซึ่งถ้าหายไป 200 เท่า 1400 มาฟรีๆ แปรอักษรไม่ได้ ได้แต่ร้องเพลง โค้ดที่เตรียมมาเป็นปีๆ ก็ไม่ได้ใช้
แล้วพวกโค้ดตบมือมันต้องซ้อมอะครับ มันมาวันงานแล้วยกเลย ตบมือเลยไม่ได้หรอก

เพราะฉะนั้นมันเป็นงานที่แบบกึ่งๆ ห้ามล้มเหลวอะ ไม่งั้นเหมือนเวลาเตรียมงาน 2 ปีหายไปเฉยๆ

แต่ผมก็เข้าใจฝั่งไม่อยากบังคับนะ
น้องต้องร้อน ต้องตากแดก ต้องอั้นเยี่ยว ดูบอลไม่ถนัด
ทำไมกุต้องโดนบังคับมาทำไรวะเนี่ยด้วย

ซึ่งผมก็ได้แต่หวังให้วิธีแก้ปัญหา
ออกไปทางกึ่งบังคับ กึ่งให้รางวัล
ให้คะแนนจิตพิสัยเป็นพิเศษ
เน้นใช้รางวัลจับฉลาก มีของขวัญแจกในงานที่ดีกว่านี้
อาจจะพา นร.ปีที่แปรอักษรไปทัศนศึกษาที่มันดีกว่าปีอื่นเป็นพิเศษ

ก็ถ้าใครไม่อยากขึ้นจริงๆ ก็ต้องยอมได้สิทธิพิเศษตรงนี้ไป

ซึ่งจะบอกว่าไม่บังคับเลย ก็มีคะแนนจิตพิสัยอยู่(ไม่ได้ไปหักคนไม่ได้ไปนะ แต่ให้คนไปมากเป็นพิเศษ) มันก็พูดไม่ได้เต็มคำว่า ไม่บังคับเลย

ยกเลิกบังคับแปรอักษร ย้ำว่ายกเลิกบังคับแปลอักษร ย้ำอีกที่ ดูปากนะ “ยกเลิกบังคับแปรอักษร” ไม่ได้ยกเลิกแปรอักษร

ผมโตมาทำงานไม่เห็นได้ใช้โค้ด 1:16 เลย