ขอตอบในฐานะศิษย์เก่า (แต่ไม่ค่อยเกี่ยวกับประเด็นมู้นี้นะฮะ)

พอดีเห็นประโยคที่ฮิตมากในหมู่ศิษย์เก่าด้วยกัน (วันก่อนก็เห็นจาก สัญญา คุณากรที่เป็น OSK)

ประโยคที่มีใจความทำนองว่า.. อย่ามายุ่งกับพวกเรา, อย่ามายุ่ง รร.เรา, คนนอกอย่าเ-ือก ฯลฯ

อยากจะบอกว่าในฐานะศิษย์เก่าคนนึง..เรา(ศิษย์เก่า) ก็ไม่ได้ต่างจากคนนอกคนอื่นๆที่มาวิจารณ์นะฮะ

คุณเป็นบอร์ดบริหาร รร.? หรือคุณขึ้นแสตนด์ปีนี้? หรือคุณไปช่วยเขียนโค้ดแปรอักษร? หรือไปจ่ายเงินค่าเพลต ไปช่วยซ่อมเพลต?

อย่างมากสุดก็แค่ไปแหกปากเชียอยู่อัฒจรรย์ฝั่งตรงข้าม..แล้วมันต่างจากคนนอกตรงไหน? (เค้าก็ซื้อบัตรเข้าไปดูได้เหมือนกัน)

อย่าอินเกินไปจนเบียว วันนี้คุณก็เป็นคนนอกคนนึงเหมือนกัน ถ้าชี้นิ้วบอกคนอื่นห้ามยุ่ง ก็กลับมามองตัวเองด้วยว่าไม่ควรเ-ือกเช่นกัน

แม้เรื่องราวจะเกิดภายในแต่ละ รร. แต่สังคมมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งที่คิดว่ามันไม่ถูกต้อง ถ้าเห็นต่างกันก็โต้แย้งตามเหตุผล

อย่าทำตัวเป็นเด็กช่างกลที่เราเองก็ด่ามันทุกวัน (ลองเวลามีเรื่องตีกัน แล้วศิษย์เก่ามันมาชี้หน้าเราว่า"คนนอกอย่าเ-ือก"..คิดว่าทุเรศมั๊ย?)

และอะไรจะเกิดขึ้นก็ปล่อยให้มันดำเนินไป ยุคสมัยเปลี่ยนไป มันก็ย่อมมีอะไรที่อาจจะต้องเปลี่ยนแปลง แค่นั้นแหละ

ถ้าคุณอยู่ในสถานะนักเรียนโรงเรียนดังขนาดนั้น

คะแนนแค่ไม่กี่คะแนนอาจตัดสินชีวิตคุณได้เลย

ต่อให้คุณไม่เต็มใจ คุณจะกล้าเรียกร้องโดยตรงหรอครับ

หลาย ๆ รร. ก็พยายามจัดการอยู่ครับ แต่แน่นอนว่าไม่สามารถที่จะปุบปับในจตุรมิตรครั้งนี้ได้แน่นอน มีเวลาอีก 2 ปีก่อนที่จะถึงครั้งถัดไปที่แต่ละ รร. จะหา solution ในการจูงใจเด็ก ไม่มีการบังคับขึ้นแปรอักษร ไม่ว่าจะศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ รวมไปถึงอาจจะมีตัวแทนจากคนนอกเข้ามาพูดคุยกัน และหาตรงกลางที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุดครับ

เท่าที่ผมเห็นจากหน้าฟีดของผมเอง ก็มี รร. เริ่มทำแคมเปญที่ตอบโจทย์กับสถานการณ์ปัจจุบันที่สุด (ก็ยอมรับว่าในวันพรุ่งนี้น่าจะยังเป็นการบังคับ) แต่ก็จะมีสุ่มแจกรางวัลในสแตนด์เพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้กับน้อง ๆ รางวัลมีตั้งแต่ iPhone15 Nintendo Switch Voucher ต่าง ๆ โดยเงินก็มาจากการระดมเงินจากศิษย์เก่านี่แหละครับ ถ้าโค้งสุดท้ายได้มากพอ ก็อาจจะมี PS5 ด้วย

ผมเป็นศิษย์เก่าที่เห็นด้วยกับการยกเลิกบังคับแปรอักษรนะ แต่ใด ๆ ก็แล้วแต่ ต้องมีการพูดคุยและรับฟังกับทุกฝ่าย เพื่อลดปัญหาเหล่านี้ลงไปให้ได้มากที่สุดต่อไป

ผมถึงบอกในคอมเม้นท์ถัดมาด้านล่างไงครับ
ว่ารอดูกันไป ว่าคนที่(อาจจะ)ไม่เต็มใจ แล้วทำยังไงต่อ เมื่อขยับสถานะขึ้นมาเป็นรุ่นพี่แทน และ(อาจจะ)มีหน้าที่กำกับสิ่งที่ไม่เต็มใจทำนั้น

ในจุดนี้ ผมขยายความให้ว่า ก็รวมถึงรุ่นพี่ศิษย์เก่าทั้งหลายที่จบไปแล้วด้วย ตรงนี้สถานะคะแนนมันไม่มีผลต่อรุ่นพี่พวกนี้อยู่แล้ว ตั้งต้นเรียกร้องโหวตผ่านสมาคมศิษย์เก่าฯยังได้ พาว์เวอร์สมีกันอยู่แล้ว ถ้ามันไม่เหมาะสมและกลุ่มศิษย์เก่าส่วนใหญ่เห็นพ้องกันส่วนมากว่าไม่เหมาะสม มันก็ไม่ยากที่จะเลิก หรือปล่อยผ่านแล้วให้กลุ่มที่สนับสนุนเป็นเสียงหลัก อันนี้มันสะท้อนออกมาได้ครับ

แต่จุดที่ผมแปลกใจ เพราะศิษย์เก่าที่กลุ่มคนนอกอ้างถึงเพื่อมาสร้างกระแสกัน ก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรเป็นเรื่องเป็นราวนะ กลับกันคือกลายเป็นคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องเลย และเป็นแค่ผู้ชม มาบอกไม่ถูกใจ/ยกเลิกเถอะ...ซะงั้น
ถ้าตามที่ท่านว่า นักเรียนปัจจุบันไม่กล้าขยับ แม้แต่เรียนจบแล้ว ก็ยังไม่กล้า และพร้อมจะนิ่งเพื่อส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นไป...หรือครับ

ในฐานะศิษย์เก่านะครับ ของกท. เหมือนจะไม่ได้บังคับนะครับ

ผมจำรายละเอียดไม่ได้เพราะจบมานานแล้ว

แต่มีเอกสารแจ้งผปคอยู่ว่ายินยอมให้เข้าร่วมกิจกรรมมั้ย

มีเฟคภาพนิ่งแปรตัวอักษรแซะส้มด้วย ส้มเสือก,ส้มว่าว แล้วคนเชื่อเยอะด้วย พอถามหาแบบคลิปนี่เงียบกริบ

คนทุกคนมันเห็นแก่ตัวอยู่แล้ว เอาแค่ตัวเอง

รุ้นพี่จบไป

คนที่อยากให้มีอยู่ก็สู้เพื่อตัวเอง เพราะถ้าไม่มี เกียรติยศ บลาๆ ที่ตัวเองนับถือจะหายไป

กลับกัน

ส่วนคนที่ไม่ชอบ ร้อน เหนื่อย จบไป เขาก็ไม่เดือดร้อนแล้ว จะมีสักกี่คนที่กลับมาเรียกร้องให้ตรงที่ตัวเองไม่เดือนร้อน

ตัวอย่างง่ายๆเลยนะ เรื่องตัดผม ตอนเรียนส่วนมากก้ไม่ชอบหมด บอกว่าไม่มีผลต่อการเรียน พอจบมา มีใครเรียกร้องให้น้องๆไหมละ เต็มที่ก็มีตาม social เวลามีข่าวมาแค่นั้น มีคนในรวมกลุ่มมาเพื่อบอกกระทรวงศึกษาไหมละ ก็มีแค่กลุ่มเล็กๆ กลุ่มนึง

แต่ถ้ารอสัก 20-30 ปี แบบเปลี่ยนเจนอ่ะ เห็นชัดแน่ๆ

อันนี้ผมอาจจะมองโลกในแง่ร้ายไปนิดนะครับ แต่คุณคาดหวังว่าการเปลี่ยนเจนเนอเรชั่น จะสามารถกลับความคิด/จิตสำนึกคนขนาดนั้นเลยหรือ

การจะทำได้ มันต้องมีการปลูกฝังสิ่งที่ดี วิธีคิดที่ถูกต้องส่งต่อลงไปด้วย แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ท่านกล่าวถึง นั่นคือกลุ่มที่จะส่งต่อจิตสำนึกต่อไป ยังยืนอยู่ในจุดที่เห็นแก่ตัวเป็นหลัก คุณคาดหวังว่าคนเหล่านี้จะส่งต่อความมีสามัญสำนึก ความคิดที่เหมาะสม ให้เป็นรากฐานที่แน่นให้รุ่นต่อไปเติบโตขึ้นมาพร้อมๆกันได้จริงหรือ หรือปล่อยไปตามยถากรรมแล้วคาดหวังว่ามันจะเปลี่ยนไปเอง

ผมเห็นด้วยนะครับ อีก 20-30 ปีมันมีการเปลี่ยนแปลงแน่ แต่จากสาเหตุไหนผมคงไม่อาจบอกได้ อาจจะความคิดความอ่านที่ถูกต้องเหมาะสม อาจจะนวัตกรรมใหม่ๆที่ไม่ต้องไปใช้คนนั่งเปิดเพลทแบบนี้ บลาๆๆๆๆๆ ผมก็เชื่อเช่นกันว่ามันเปลี่ยนแปลงแน่ ในเวลาขนาดนั้น เพราะทุกอย่างทุกจารีต มันย่อมเสื่อมสลายไปตามกาลเวลาครับ...แค่ตอนไหนแค่นั้นเอง

1. ประเด็นเมื่อขยับสถานะ
-เมื่อขยับเป็นรุ่นพี่แล้ว จะเหลือแค่ไม่กี่คนแล้วครับ ดังนั้นจะเหลือเฉพาะคนเต็มใจ

2. ประเด็นศิษย์เก่าไม่เรียกร้อง
-คนที่สนใจเรื่องพวกนี้ คือ กลุ่มศิษย์เก่าที่อินกับประเพณีครับ พวกที่เฉยๆ ถึงจะเคยโดนบังคับมา ก็คงไม่ได้สนใจหรอกครับ

3. อันนี้ต้องเข้าใจนะครับ เค้าเรียกร้องเรื่องไม่ให้บังคับ ไม่ได้ยกเลิกกิจกรรม ถ้าใครคิดว่าดี ก็รณรงณ์ให้รุ่นน้องๆเค้าอยากมีส่วนร่วมเอาก็ได้ครับ กิจกรรมดีๆแบบนี้ (ในสายตาศิษย์เก่าฯบางคน) ใครๆก็อยากร่วมครับ

1. นั่นเป็นสิ่งน่าสนใจเลยครับ พอขยับเป็นรุ่นพี่ จะเหลือคนที่ทำกิจกรรมไม่กี่คน แต่ในขณะเดียวกัน ส่วนที่เหลือ แม้(อาจจะ)ไม่พอใจมาก่อน ก็ปล่อยให้รุ่นน้องที่เห็นหน้าและเดินสวนกันในโรงเรียน ถูกบังคับต่อไปอย่างนิ่งเฉย(?) มันสะท้อนว่าการเรียกร้องที่ไม่ได้มาจากกลุ่มที่เกี่ยวข้องโดยตรงหรือเปล่าครับ

2. ใช่ครับ เห็นด้วยนะ ว่าเอาจริงๆผู้เกี่ยวข้องโดยตรงที่เคยผ่านมาเอง อาจจะไม่ได้สนใจอะไรจริงๆก็ได้

3. นี่คือสิ่งที่ผมแปลกใจครับ ว่าการเรียกร้องกลายเป็นกระทำโดยคนนอก(เท่าที่เห็นในขณะนี้คือกลุ่มนักเรียนเลวนะ)ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเโดยสิ้นเชิง ซึ่งสืบเนื่องมาจากข้อ 2 ผู้เกี่ยวข้องจริงๆหรือเคยเกี่ยวข้องอาจจะไม่ได้สนใจอะไรก็ได้ แต่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นความไม่พอใจ ทั้งๆที่วิธีเรียกร้องอาจจะทำได้ก่อนล่วงหน้าด้วยซ้ำ ที่ถ้าผู้เรียกร้องมั่นใจว่าจำนวนศิษย์เก่าที่ตรวจสอบมาว่าไม่พอใจไม่เห็นด้วยกับการบังคับ(ไม่ได้กล่าวอ้างถึงหลักฐานมาด้วย แต่เห็นผ่านๆตาจากคอมเม้นท์เพื่อนสมาชิกว่า น่าจะมีจดหมายแจ้งผู้ปกครองขออนุญาต ซึ่งกลายเป็นกึ่งบังคับที่ไม่อนุญาตก็ได้-ถ้าผู้เกี่ยวข้องจริงๆเล่นด้วย) เสียงของคนที่ถ้ามีจำนวนมากพอเหล่านี้ กระแทกไปยังสมาคมศิษย์เก่าที่เสียงเหล่านี้สังกัดอยู่ยังได้ หรือสมาคมผู้ปกครองของโรงเรียนเหล่านั้นก็ยังได้

แต่กลับกลายเป็น เอาลงสื่อเพื่อรวบรวมซาวด์เสียงคนนอกที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลย ไปกดดันกิจกรรมภายในของเขา แล้วกลายเป็นวิวาทะผ่านสื่อจากศิษย์เก่าทั้งหลาย ซึ่งก็ไม่เกี่ยวข้องอีกเช่นกัน...ผมถึงบอกแปลกครับ

1. คิดว่าเหมือนที่ผมตอบไปแล้วครับ เรื่องคะแนน เพราะถ้าเรียกร้องแล้วมีโอกาสโดนเพ่งเล็ง ไม่มีใครทำหรอกครับ

2. รับทราบครับ

3. เรื่องนี้ผมขออนุญาติเห็นต่างนิดนึง คือ ผมคิดว่า คนนอกเนี่ย สามารถเกี่ยวข้องได้โดยมีเหตุผลรองรับที่เพียงพอด้วยครับ เพราะว่า อะไรก็แล้วแต่ที่ไม่ได้เป็นกฏระเบียบของกระทรวงหรือโรงเรียน ไม่ควรจะถูกบังคับได้ คล้ายๆระบบโซตัส ซึ่งเรื่องแบบนี้จะเป็นการปลูกฝังเรื่องสิทธิมนุษยชนแบบผิดๆ ครับ

แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่า เรื่องนี้มาจากคนที่ถูกบังคับแน่นอน เพียงแต่ว่าออกหน้าไม่ได้มากกว่าครับ