'ดิอาซ' เบิ้ลเพื่อพ่อ! แซมบ้านำไว 'โคลอมเบีย' แซง 2-1
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
บราซิล บุกนำอย่างรวดเร็วโดย กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ปลดล็อคประตูแรกกับทีมชาติ แต่จากนั้น โคลอมเบีย บุกหนักเพื่อตีเสมอ จนกลางครึ่งหลัง หลุยส์ ดิอาซ ที่วันนี้คุณพ่อเข้ามาดูในสนามหลังเหตุระทึกขวัญ เป็นฮีโร่โขก 2 ประตูภายในเวลา 4 นาที แซงชนะ 2-1 ศึกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก โซนอเมริกาใต้
โคลอมเบีย
Starting Formation: 4-2-3-1
6.
เดวิเอร์ มาชาโด้

46'
5.
เควิน คาสตาโน่

83'
15.
มาเตอุส อูริเบ

46'
8.
ฆอร์เก้ คาร์รัสคาล

74'
19.
ราฟาเอล บอร์เร่

68'
ตัวสำรอง
14.
หลุยส์ ซินิสเตร์ร่า

46'
16.
เจฟเฟอร์สัน เลร์มา

74'
17.
ยาเซอร์ อัสปริญ่า

46'
18.
คริสเตียน บอร์ฆ่า

83'
20.
ริชาร์ด ริออส

68'
ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้
สนาม เมโตรโปลิตาโน่ โรแบร์โต้ เมเลนเดซ
17 พฤศจิกายน 2023
กรรมการ อันเดรส มาตอนเต้
โคลอมเบีย
2
1
บราซิล
1-1 ดิอาซ 75'
2-1 ดิอาซ 79'
บราซิล มาแผน 4-4-2 อลิสซอน หวนเฝ้าเสา มาเกลเญส คุมหลัง รอยัล ลงแบ็คขวาฝั่งซ้ายเป็น โรดรี้ แดนกลาง กีมาไรส์ คู่ อังเดร โดย มาร์ติเนลลี่ กับ ราฟินญ่า ทำเกมริมเส้นให้คู่หูแดนหน้า วินิซิอุส และ โรดรีโก้
ฝั่ง โคลอมเบีย จัด 4-2-3-1 ดาวินซอน คุมหลัง อูริเบ้ ตัดเกมตรงกลาง แนวรุกมีทีเด็ดคือ ฮาเมส กับ ดิอาซ
แซมบ้า มาดุ วินิซิอุส โขกข้ามคาน
บราซิล เริ่มเกมอย่างคึกคัก โลดี้ เติมมายิงถึงหน้าเขตโทษได้แค่เสียวจากนั้นทำชิ่งกันจน รอยัล เติมฝั่งขวาบ้าง เปิดให้ วินิซิอุส โขกในเขตโทษแต่ข้ามคาน
วินิซิอุส ทำชิ่ง มาร์ติเนลลี่ ยิงนำ
วินิซิอุส ลงมาล้วงบอลแล้วลากจี้เข้าเขตโทษ ทำชิ่งเท้าสู่เท้ากันจน มาร์ติเนลลี่ มีพื้นที่ทิ้งตัวแปไม่จับส่งบอลผ่าน วาร์กัส ตุงตาข่าย บราซิล นำไว 1-0
คาสตาโน่ ส่องนอกกรอบตรงตัว อลิสซอน
เจ้าบ้านเริ่มตั้งหลักได้ คาสตาโน่ รับบอลจาก มูนอซ มีพื้นที่แต่งยิงหน้าเขตโทษ บอลเข้ากรอบแต่ตรงตัว อลิสซอน มีเซฟแรกของเกม
คาร์รัสคาล ยัดเสาแรก อลิสซอน งานเริ่มชุก
โคลอมเบีย เริ่มได้ครองบอลกดดัน วางยาวให้ ดิอาซ เอาลงพื้นลากจี้ใส่ รอยัล เข้าเขตโทษแล้วไหลย้อนให้ คาร์รัสคาล ยิงยัดเสากแรก อลิสซอน ทิ้งตัวปัดเป็นแค่เตะมุม
ดิอาซ ยิงสองที ไม่ผ่าน อลิสซอน
ฮาเมส จ่ายทะลุช่อง ดิอาซ หลุดยิงด้วยซ้ายที่มุมแคบแต่ อลิสซอน พุ่งเซฟได้อีก จากนั้นไม่นาน ดิอาซ คนเดิม รับบอลในเขตโทษเล็งเสาไกลบ้าง คราวนี้หลุดเสาไปเอง
วินิซิอุส เจ็บต้องเปลี่ยน
วินิซิอุส มีอาการแถวต้นขา เล่นต่อไม่ไหวเดินกะเผลกออกแล้ว บราซิล ส่ง เปโดร ลงแทน
ดิอาซ ลากยิง อังเดร ยังเหนียว
ดิอาซ ตัวจี๊ดสุดของ โคลอมเบีย สลับมาอยู่ฝั่งขวาบ้างรับบอลกระชากหนีโลดี้ หลุดไปถึงเขตโทษแต่จังหวะยิง อังเดร ตามมาแหย่ขาขวางไว้ทัน จากนั้น บราซิล ตอบโต้มา โรดรีโก้ พลิกกดเต็มข้อเหินข้ามคาน
ฮาเมส ยิงขวาหลุดเสาได้เสียว
โคลอมเบีย พยายามต่อเนื่อง ฮาเมส เก็บบอลหน้าเขตโทษแล้วยิงเรียดด้วยขวา บอลหลุดเสาแบบได้ลุ้น
กีมาไรส์ ส่องไกลหลุดเสา
ต้นครึ่งหลัง เกมเปิดแลก บราซิล มีโอกาสก่อนโดย กีมาไรส์ ปั่นโค้งนอกกรอบหลุดเสาจากนั้น อัสปริญ่า เติมเกมเปิดให้ ซินิสเตรร่า เพิ่งลงมาได้จบสกอร์ในเขตโทษบ้าง แต่ไม่ตรงกรอบ
ราฟินญ่า กดเน้นๆ วาร์กัส บินปัด
ราฟินญ่า รับบอลจาก โรดรีโก้ แต่งหาช่องกดด้วยซ้ายแถวหัวกะโหลก บอลพุ่งเีสยบมุมแต่ วาร์กัส บินปัดออกหลังเป็นเตะมุม
เกมเปิดแลก ยังขาดคมทั้งคู่
โอกาสทำประตูเกิดขึ้นต่อเนื่อง ราฟินญ่า ลองอีกทีคราวนี้ข้ามคาน ส่วนฝั่ง โคลอมเบีย คาร์รัสคาล ยิงไกลก็ตรงตัว อลิสซอน
ราฟินญ่า หลุดยิงชนเสา
โรดรีโก้ จ่ายทะลุเข้าเขตโทษให้ ราฟินญ่า หลุดยิงด้วยขวาบอลผ่าน วาร์กัส แล้วแต่ชนเสาเข้าเต็มใบ โคลอมเบีย รอดหวุดหวิด
ดิอาซ เหน่งๆ ยังไม่ได้
อัสปริญ่า เปิดให้ ดิอาซ หลุดชาร์จที่เสาไกลเข้าหน้าต่าง จากนั้น ดิอาซ หลุดมาอีกครั้งที่มุมเดิม คราวนี้เวลาเพียบ แต่จังหวะจบ อลิสซอน ตะครุบได้
ต้องใช้หัว! ดิอาซ โขกตีเสมอ
อัสปริญ่า ตั้งป้อมครอสจากริมเส้นเข้าเขตโทษ บอลข้ามหัวแนวรับตกถึงหัว ดิอาซ เติมโขกเผาขนตุงตาข่าย โคลอมเบีย ตีเสมอจนได้ 1-1 แล้วกล้องจับภาพพ่อนักเตะเฮลั่น
ดิอาซ โขกอีก! โคลอมเบีย แซงนำ
โคลอมเบีย ตีเสมอได้กำลังใจมา ฮาเมส หยอดจากหน้าเขตโทษย้อยไปเสาไกลถึง ดิอาซ กระโดดโขกเต็มหัวส่งบอลเสียบมุม โคลอมเบีย แซง 2-1
โคลอมเบีย ปิดเกม แซมบ้า ไร้พิษสง
โคลอมเบีย ขึ้นนำแล้วเน้นแน่นอนปิดเกมจน บราซิล เจาะไปสร้างโอกาสไม่ได้ถึงแม้ส่ง เอ็นดริค ลงมา
จบเกม โคลอมเบีย ชนะ 2-1 ขยับสู่อันดับ 3 โอกาสเข้ารอบเปิดกว้าง ส่วน บราซิล เริ่มท่าไม่ดีแพ้ 2 นัดติดหล่นไปอยู่ที่ 5
บราซิล
Starting Formation: 4-4-2
4.
กาเบรียล มากัลเญส

82'
6.
เรนาน โลดี้

82'
11.
ราฟินญ่า

82'
7.
วินิซิอุส จูเนียร์

25'
10.
โรดรีโก้

68'
ตัวสำรอง
19.
เปาลินโญ่

68'
17.
เปเป้

82'
9.
เจา เปโดร

25'
16.
ดักลาส ลุยซ์

82'
21.
เอนดริค

82'
แก้ไขล่าสุดโดย 69_420 เมื่อ Fri Nov 17, 2023 10:38, ทั้งหมด 41 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ