[RE: ทา retinol [vitamin A] แล้วต้องปิดไฟนอนเลยไหมครับ]
Clovre พิมพ์ว่า:
• WICTOR พิมพ์ว่า:
ไม่เกี่ยว เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลงบ้างแต่ก็ไม่มีนัยสำคัญมาก
แต่การแสดงผลของเรติน่อล ซึ่งได้นรับผลจากแสงจากหลอดไฟบ้านมันมีผลน้อยมากๆ ไม่เท่าแสงจากดวงอาทิตย์
แต่นัยสำคัญคือ การทาย่อมแตกต่างกับคนไม่ทา เห็นผลในระยะยาวเรื่อง Aging แต่ปัจจัยอื่นๆก็สำคัญเช่นกัน ออกกำลังกาย การกินหลากหลายครบถ้วน การพักผ่อน และปฏิเสธยาเสพติด
แล้วการทาต่อเนื่องทุกวันเกิน 6 เดือนติดต่อกันย่อมเห็นผลต่างจากคนไม่ทาอย่างสม่ำเสมอ
และคนที่ทาในปริมาณ 0.05% ย่อมเห็นผลได้ดีกว่า 0.025% บ้าง
และคนที่ทาครีมกันแดด/Moi ร่วมกันกับเรนติน่อล ย่อมช่วยให้ผิวหน้าได้รับการเยี่ยวยาจากผลกระทบจากเรติน่อล
ผมขอถามเพิ่มเติมหน่อยครับ เราสามารถทาติดต่อกันได้เป็นปีๆเลยมั้ย หรือจำเป็นที่จะต้องพักหน้ามั้ยครับ
Retinol : ที่มีประสิทธิภาพ มีชื่อว่า Tretinoin เป็นยาประเภทเรตินอยด์ (retinoids) "เป็นยา" ราคาไม่แพง มีข้อดีครอบจักรวาล ริ้วรอย-ผลัดเซลล์ผิวทำให้ดูเด็กกว่าวัย รูขุมขน กระฝ้า ผิวใสเนียบ ด้วยความเป็น ยา จึงทำต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง มีความเข้มข้นตั้งแต่ 0.1/0.05/0.025 แต่ผมใช้แค่ 0.05% ในส่วนที่เป็นยาเท่านั้น
และเป็นยาที่มีผลต่ออนาคต คือกันไว้ย่อมดีกว่าแก้ดังนั้น คนที่มีอายุ 18/30/40ปี+ หากทาไว้ตั้วงแต่เนินก็จะช่วยประคองเรื่องความแก่ ริ้วรอยส่งผลต่อนาคต เป็นเหมือนการออมหน้าหรือเก็บออมความแก่ได้อย่างมีการวิจัยทางการแพทย์รองรับ
ต้องทาต่อเนื่องกันไม่ต่ำ 6 เดือนขึ้นไปต่อเนื่อง แม้นจะเห็นผลช้า แต่ชัวส์ เพราะเมื่อใช้ได้ 6 เดือนร่างกายจะกระคุ้นการ
สร้างคอลลาเจนได้และยับยั้งเอ็นไซม์ที่ทำลายคอลลาเจนที่หน้าได้ ทำให้ผิวเด้ง ดูเด็ก ไม่เหี่ยว ริ้วรอยดูเรียบเนียนขึ้น
ข้อเสีย คือ มันเป็นยา ต้องระมัดระวังและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ผิวแห้ง หน้าลอก บางคนสิวออกมามากในหน้าบางคนอย่างแรงในช่วงแรกระยะยาวไม่มีอะไร บางคนอาจแพ้หรือใช้ไม่ได้แล้วแต่บุญกรรมของหนังหน้า
- ข้อปฏิบัติ ต้องทาครีมกันแดด PA++ SPF ซึ่ง30 มันมีประสิทธิภาพต่ำกว่า 50 อยู่ดี แต่ทาย่อมดีกว่าไม่ทา เช่น 15/30 แต่หากเต็มประสิทธิภาพและดีสุด ควรเป็น SPF50 PA++ ไม่ได้ออกแดดก็ต้องทาทุกวัน ร่วมกับมอยเจอร์ไรเซอร์ชนิดบาริเอ่อร์หรือตามที่แพทย์แนะนำเห็นควรให้ใช้ร่วมกับ Tretinoin ซึ่งต้องแบบประมาณ ปิโตเลี่ยม ไขผสม อะไรก็ได้ทำให้หน้าชุ่มชื้นและเป็นประเภทป้องกันหน้า ต้องใช้มอยเจอรไรเซอร์ทุกวันเช้า-เย็น และเมื่อหน้าลอกและแห้งจึงต้องเลี่ยงการล้างหน้าบ่อย โดนฝน โดนน้ำบ่อย ล้างหน้าวันละไม่เกิน 2 ครั้งก็พอแล้ว และทา Tretinoin เฉพาะช่วง 1 ทุ่มเป็นต้นไปได้เลย ซึ่ง Tretinoin ทำให้หน้าแห้งลอก (แต่ลอกเพราะเกิดการผลัดเลล์โดยการเพิ่มจำนวนเซลล์ผิว ผิวหน้าจึงลอกๆๆ เพราะเอาเซลล์เก่าออก ซึ่งเป็นปกติต้องยอมรับให้ได้) ควรใช้ปริมาณน้อยถั่วเม็ดถั่วแต่ทำให้ทั่วหน้า
ส่วน Retinol ที่อยู่ใน เซรั่ม มอยเจอร์ไรเซอร์ ครีม ที่ไม่ใช่ยา พวกนี้มักมีชื่อตามผลิสาขาออกไป เช่น Retinyl Palmitate, Retinyl Acetate, Retinaldehyde เป็นต้น อันนี้ผมไม่ค่อยได้ใช้เพราะ มีฤทธิ์อ่อนกว่า แม้นจะมีผลกระทบน้อยกว่าแบบยา แต่เราก็อาจไม่สามารถรู้สัดส่วนที่ผู้ผลิตซึ่งไม่ได้ระบุไว้ ว่ามากน้อยเท่าไร (ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้ประสิทธิภาพเป็น Retinol Esters) ซึ่งอันนี้มักไม่เห็นผล ไม่ได้ผลอะไร แค่การโฆษณาและความรู้สึกคิดไปเอง เพราะมันเห็นผลน้อยมากๆ (เรพาะต้องแตกตัวหลายขั้น)
ขั้นต่อมาจากเอสเทอร์ต้องแตกตัวเป็น >>> Retinaldehyde อีกที ซึ่งเราก็ไม่ชั่วบางทีมันจะแตกตัวได้ประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
ส่วน Retinol ที่เป็นส่วนประกอบในเซรั่ม มอยเจอร์ไรเซอร์ ครีม ไม่ค่อยมีผล หรือเป็นผลน้อยมากๆ เทียบจะไม่เห็นผล ถ้าไม่ใช่ Retinol 0.025% ขึ้นไป แต่ก็ไม่เท่ากับตัวที่เป็นยาดีกว่าแน่นอน เพราะ Tretinoin หรือ Retinoic acid ใช้ได้เลยเร็วกว่าไม่ต้องแตกตัว