Maslow Hierarchy of Needs
วันนี้จะมาพูดถึงเรื่องหลักของมาสโลว์ Hierarchy of Needs กันครับ
บางคนอาจจะได้เห็นกระทู้ที่มีคนพูดถึงผมไปละ อันนั้นก็ขอบคุณที่ตั้งกระทู้ถึงด้วยนะครับ 555 อย่างไรก็ดี ผมเองก็จะขอพื้นที่เพื่อบอกว่าจริงๆแล้วผมไม่ได้รวยอะไรครับ แต่เรียกว่าอยู่ในสถานะที่ไม่ลำบากแล้วดีกว่า (ผมมั่นใจว่าคนใน SS ที่รายได้มากกว่าผมมีเยอะแยะและเงินเก็บก็มากกว่าผมเช่นกัน) แต่สิ่งที่ผมทำ มันคือการเติมเต็มตัวเองตามพิรามิดของมาสโลว์ด้านล่างมากกว่า
คนส่วนใหญ่ ยิ่งโดยเฉพาะใน SS ที่กลุ่มอายุคือประมาณ 30+/- หรืออาจจะมากกว่านิดหน่อย คนที่อายุประมาณนี้ในสังคมไทย ส่วนใหญ่จะติดอยู่ขั้นที่ 1-3 ซึ่งคือปัจจัย 4 ที่เป็นพื้นฐานและความมั่นคงในชีวิตต่างๆมากกว่า (เพราะสังคมเรามันไม่เอื้อหรือโอกาสในการถีบตัวให้สูงกว่าจุดนี้มันยากด้วย) และรวมไปถึงกระทั่งความรัก ซึ่งที่ในที่นี้ไม่ได้พูดถึงแค่คู่รัก แต่หมายถึงครอบครัวด้วยเช่นกัน ซึ่งอันนี้มันคือความยากระดับนึง เนื่องจากว่ามันมีปัจจัยภายนอกมาเกี่ยวข้องต่อความพอใจตรงนี้เหมือนกัน
ซึ่งถ้าเรามองถึงตรงนี้ เราจะรู้ว่าทำไมบางทีสังคมฝรั่งมันถึงพัฒนาได้เร็วกว่าหรือดีกว่าไทยเรา เพราะรัฐนั้นรับผิดชอบขั้นที่ 1-2 ให้เราไปแล้ว ผ่านการเสียภาษีของเรา จึงทำให้คนเราไม่ต้องไปโฟกัสพวกนั้นและมาเติมเต็มอย่างอื่นในชีวิตแทน หรือกระทั่งมีเวลาคิดอะไรเพื่อโลกมากกว่าที่เราๆทำกันอยู่ เพราะพื้นฐานเหล่านั้นมันไม่ต้องไปวอร์รี่แล้วด้วยเช่นกัน ฉะนั้น การเมืองเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเราทุกคน
=============================
กลับมาที่ตัวผมบ้าง ผมเองโชคดีที่ตัวเองมีขั้น 1-3 จนเรียกได้ว่ามั่นคงหมดละ ขั้นที่สี่ก็มีจนคิดว่าพอแล้ว (อิสรภาพ ความเคารพจากผู้อื่น รวมถึงจากตัวเอง การประสบความสำเร็จในชีวิต ฯลฯ) ต้องเรียกได้ว่ามันก็เติมของมันไปเรื่อยๆนั่นแหล่ะ ขณะที่ขาข้างนึงก็เหยียบเข้าขั้นที่ 5 หรือพยายามตามหาเป้าหมายในการชีวิตและการเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ตัวเองเป็นได้แล้วเช่นกัน
ฉะนั้น สิ่งที่ผมทำลงไป ถ้าต้องอธิบายด้วยเหตุผล มันก็คือการเติมความหมายของการมีชีวิตอยู่ของผมนั่นแหล่ะ ผมไม่ได้คิดว่าผมจะต้องมีเงินเหลือเท่าไหร่ (เพราะ fulfilment ที่เป็นพื้นฐานผมมันเต็มแล้วด้วย) ไม่ใช่เพราะว่าผมรวยหรืออะไรแบบนั้นเลยนะ แต่ผมอยู่ในจุดที่มองแล้วว่าตัวเองมีแค่ไหน”พอ” แล้วที่เหลือก็เริ่มให้คนอื่นที่ผมพอให้ได้แล้ว ผมดูแลตัวเองได้ ผมดูแลแฟนผมได้ ผมดูแลที่บ้านได้ (แม่ ป้า และครอบครัวของแฟน) ผมก็เลยมาถึงจุดที่ว่า เออ แล้วเรา contribute คืนให้กลับสังคมได้ด้วยวิธีไหนบ้าง ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ผมใช้เวลาส่วนนึงของผมมานั่งตอบคำตอบคนใน SS เรื่อยๆ เพราะมันทำให้ผมภูมิใจในตัวเองด้วยนั่นแหล่ะ และการส่งต่อสิ่งที่ผมชอบอย่างบอร์ดเกมรวมถึงสิ่งที่ดูแล้วจะสร้างอนาคตที่ดีให้กับเด็กรุ่นหลังได้ ผมมองว่ามันก็น่าสนใจดี ผมเองไม่ได้ไล่บริจาคหรือแจกเงินไปทั่ว แต่ผมก็ดูเช่นกันว่าสิ่งที่สังคมต้องการนั้นผมสามารถให้ได้มั้ย และตรงกับความต้องการในใจหรือเปล่า
สุดท้ายนี้ การให้ของผมครั้งนี้จะบอกไม่หวังผลมั้ยก็คงไม่ใช่ แต่ผลลัพธ์ที่ผมหวังคือการเติมเต็มสิ่งที่ตัวเองอยากทำในใจมากกว่า
ยินดีที่ได้เป็นส่วนนึงของการสร้างสังคมที่ดีและอนาคตที่ดีให้กับเด็กๆต่อไปครับ