สมมุติท่านมีที่ดิน ของท่านติดตัว ราคา 4-6-7-8ล้าน
แต่ขายมาเกือ10ปีขายไมไ่ด้ แบบนี้ ชีวิต สภาพทางการเงิน ท่านจะ อุ่นใจมั้ยครับ
เป็นที่ดินไม่ใช่บ้าน อาคาร

ถ้าประกาศขายเป็น 10 ปีแล้วยังขายไม่ออก เป็นผมคงไม่อุ่นใจแล้วล่ะ

ถ้าเป็นที่ทำเลดี

หรือต่อให้รอบๆเป็นป่า แต่ติดถนนใหญ่ ใกล้สะพาน ถ้าลดราคา ยังไงก็มีคนเอาครับ
ทำเล คือทุกอย่าง ราคาถ้าลดเยอะๆ ก็ยิ่งขายได้เร็วขึ้น

ไม่อุ่นแล้วละมอส ขายไม่ออกนิ

อุ่นใจแน่นอนคับ ถ้าวันไหนอยากขายวันไหน ก็ผ่านนายหน้าได้คับ

ทำเล เป็นปัจจัยสำคัญมากเรื่องที่ดิน ร้อยไร่กลางป่าไม่มีชุมชน ไม่มีถนน น้ำไฟ คงสู้ 100 ตารางวา แต่มีถนน น้ำไฟ ไม่ได้

ที่ดินจะเกิดมูลค่าต้องมีคน ไป อยู่ หรือไปผลิตครับ

ที่บ้านมีที่ดินราคาตอนนี้ขึ้นมา 5ล้าน จาก 2ล้านมั้ง แต่ขายมา3ปียังไม่ออก ต้องขาย 4ล้านถึงจะพอขายได้

สบายๆ พวกที่ประกาศขายที่เป็น 10 ปี ไม่ออก ลองไปถามราคาได้เลย 95% ขายราคา 20 ปีข้างหน้า ที่แถวนั้นขาย 5 ล้าน พวกล่อไป 10 ล้าน บอกอีก 4-5 ปีราคาที่มีแต่ขึ้น ผมเจออย่างบ่อยคงจะขายออกหรอก

อุ่นไม่อุ่นขึ้นอยู่กับเจ้าของร้อนแค่ไหน ถ้าไม่ร้อนเงินก็ปล่อยครับ อสังหาริมทรัพย์มีแต่ขึ้นอาจจะช้าแต่ขึ้นแน่ๆ

เงินสด หรือสินทรัพย์ประเภทอื่น อุ่นใจกว่า

ถ้าไม่ได้เป็นที่อยู่อาศัยนี่ไม่อุ่นใจอ่ะ ต้องไปเสียภาษีที่ดินเรื่อยๆ

ผมมีเคสนึง จะกลับมาเล่า พืมพ์จองไว้ก่อน
edit
มันมี 2 เคส เคสนึงผมทำเพจขายที่ดิน รถยนต์
เจอว่า มีคนขายที่ดินริมถนนใหญ่ ทางไปนครปฐม 4 ไร่ 20 ล้านบาท
ขายสำเร็จ ก็จบกันไป Happy พอใจ

อีกเคสนึง
มีคนได้ที่ดินจาก รุ่นพ่อแม่ ที่ติดถนนใหญ่ คราวนี้จำนวนมากกว่ามาก ราคาแกประเมินสัก 50 ล้านบาท
แต่มีคนมาเสนอซื้อ ประมาณ30 - 40 ล้านบาท แกไม่ขาย
คนรอบๆก็ถาม ว่า มีคนมาเอาแล้วก็ไม่ปล่อย ทำไมไม่กำเงินไว้ แกบอก คิดว่าราคามันมากกว่านั้น
จากนั้นไป 10 - 20 ปี ไม่ได้ขายเลย

แกบอก ถ้าย้อนเวลาไป คงขายๆไป เอาไปลงอย่างอื่น ซื้อที่แถวอื่นๆ ได้

อีกเคสหนึ่ง ผมกำเงินไว้ รอเวลา รอคนร้อนเงิน อยากขายที่
ผมไปเจอ ที่ 3 ไร่ ราคาตกไร่ละ 70,000 บาทต่างจังหวัด ผมเอาทันที คือผมไม่ขายแน่

อันนี้แหละ ไม้ตายสุดท้ายในชีวิตผม จนตรอกเมื่อไหร่ ผมทำนำ เลี้ยงปลาตรงนี้แหละ ผมอยู่ได้(ปล.ทำไปแล้วเกี่ยวข้าวรอบแรกแล้ว)

สภาพคล่องต่ำทำอะไรก็ไม่ได้อะครับ
ลูกพี่ลูกน้องผมได้ที่มรดกมาเป็นที่ส่วนนึงในแปลงใหญ่ที่ราคาประเมินรวมแล้วหลักร้อยล้าน ถ้าหารเอาส่วนของตัวเองก็ซักยี่สิบสามสิบล้านน่าจะได้
แต่ปัญหาคือมันขายไม่ออก พวกญาติที่เป็นเจ้าของที่ด้วยกันเค้าก็ไม่ได้เดือดร้อนเงินอะไรก็เลยเฉยๆ
แต่น้องผมเนี่ย เป็นพนักงานออฟฟิศธรรมดาเงินเดือนสามสี่หมื่น ช่วงโควิดโดนบริษัทลดเงินเดือน คราวนี้หมุนเงินไม่ทัน ตัวเองนั่งทับที่มรดกยี่สิบสามสิบล้านแต่เอาไปทำอะไรไม่ได้ ต้องไปไล่ขอยืมเงินชาวบ้านมาจ่ายค่างวดบ้าน งวดรถ
เท่านั้นไม่พอ ยังต้องหาเงินมาจ่ายค่าภาษีที่แปลงนี้อีก

ขายไม่ได้ แสดงว่าที่ดินไม่มีศักยภาพ
แสดงว่าทรัพย์นี้ แปรเป็นเงินไม่ได้ในเร็ววันนี้

ผมต้องถามกลับว่า การเปรียบเทียบต้องการแบบไหน

เคส 1 มีที่ดินกับไม่มีที่ดินเลย มีอุ่นใจกว่า แหงล่ะของฟรี 555+ การขายที่ถ้าคุณตั้งราคาที่เหมาะสมหรือแม้แต่ถูกจนคนทุกคนอยากได้ มันก็ยังต้องมี 2 อย่างมาเจอกันคือ 1 ราคาเหมาะสมจนมีคนอยากได้และ 2 คนที่อยากได้มันต้องมีเงินหรือสินเชื่อมาจ่ายคุณ ดังนั้นต่อให้เป็นราคาที่คนอยากได้เป็นร้อยคนแต่คนที่จะมีเงินหลักล้านมาจ่ายมันไม่ได้หาได้ง่ายๆ ถ้าคุณเล่นที่เป็นสิ่งที่คุณทำได้เมื่อร้อนเงิน คือ 1 แบ่งขายไม่ต้องขายยกแปลง วิธีนี้จะเปลี่ยนกลุ่มจากเดิมแปลงใหญ่ซึ่งลูกค้าเป็นพวกเอกชนที่ทำการค้าทำโรงงาน พวกนี้เขี้ยวตัดสินใจซื้อยาก กลายเป็นคนทำงานทั่วไปที่กำลังซื้อต่ำกว่า ตัดสินใจง่ายกว่า คุณก็สามารถเอาเงินตรงนี้ไปใช้จ่ายได้ โดยที่ยังเหลือที่ดินติดตัวไว้ใช้เองหรือเก็งกำไรได้ หรือถ้าแปลงมันใหญ่ ก็แบ่งขายทั้งหมด บางทีได้เงินมากกว่าขายแปลงเดียวอีก

หรือ2 วิธียอดฮิตในการได้เงินจากที่ดินไวสุดคือจำนองกับธนาคาร (หรือจะเอาไปขายฝากที่อื่นก็ได้นะ) ได้เงินน้อยหน่อยแต่ก็ได้ ถ้าที่ดินคุณถือมานานๆ บางทีจำนองแล้วอาจจะกำไรด้วยซ้ำถ้าเทียบกับการเอามูลค่าตอนที่ซื้อมาเพิ่มด้วยค่าเงินเฟ้อที่สูงขึ้น เว้นแต่ที่มันจะแย่จนธนาคารไม่รับ

เคส 2 มีที่ดิน เทียบกับการมีทรัพย์สินอื่น ถ้าสินทรัพยอื่นเป็นของที่มีสภาพคล่องมากกว่าผมก็เชียร์สินทรัพย์อื่นนะ ข้อดีของที่ดินเหนือกว่าสินทรัพย์อื่น คือโดนโกงหรือหายยากกว่าอย่างอื่น หรือเสื่อมค่ายากกว่า มีแค่นี่จริงๆ ถ้าจะคุ้มคือต้องถือยาว