ร้านค้าผิด

ไม่รับโอนด้วยเหตุผลอะไร รู้ๆกันอยู่

แยกเป็นมุมๆไป ลูกค้าผิดที่ไปโวยวายพนักงาน เรื่องแค่นี้เดินไปกดมันจะเสียเวลามากน้อยแค่ไหนกัน


ส่วนร้านไม่รับโอนก็ควรจะติดป้ายหน่อย ถ้าติดเห็นชัดแล้วก็เรื่องของร้านเค้า แสดงว่าเค้ายอมที่จะเสียลูกค้าบางส่วนที่พกเงินสดน้อยเน้นสะดวก


อย่างผมเหมือนกันถ้าเจอร้านที่ต้องจ่าย 300up แล้วไม่รับโอน ผมมักจะไม่เข้า เพราะปกติพกไว้แค่ 500-1000 บางทีไม่พอ เอาตรงๆขนาดร้านลูกชิ้นหน้า 7 ยังรับโอนเลย ผมเลยไม่ค่อยเข้าใจร้านที่รับเงินสดล้วนๆเท่าไหร่


เคยช็อคสุดไปกินร้านชาบูหัวละ 680++ รับแต่เงินสด ถ้าบัตรเครดิตชาร์จเพิ่ม 3% แล้ว atm ก็อยู่ไกล ผมเลยจำใจโดนชาร์จเพิ่ม แต่ถ้ารอบหน้ายังไม่รับโอนอีก คงไม่ได้เงินผมตลอดชีวิตแหละ 55555

ลูกค้าผิดดิ ในเมื่อลูกค้าไม่มีความสามารถในการชำระเงินอ่ะ
เงินสดคือการชำระเงินขั้นพื้นฐานอยู่แล้ว ส่วนเงินโอนก็ใช่ว่าจะมีทุกคน (แต่ร้อยละ 90 คงมีแหละ)
.
.
ถ้าไม่มีเงินสดก็แค่ไปกด ถ้าขี้เกียจก็ไปซื้อร้านอื่น แค่นั้นเอง
แต่ปัญหานี้มันไม่ได้แก้ยากอะไร
.
.
ไม่รับก็แค่เขียนป้ายบอก หรือลูกค้าสะดวกแค่โอนก็อ้าปากถามก่อนใช้บริการแค่นั้นเอง

ลูกค้าผิด

เงินสดใช้ชำระสินค้าตามกฏหมาย งั้นลูกค้าต้องไปหาเงินสดมา


แต่ยังไม่มีกฏหมายบังคับให้ร้านค้าต้องมีระบบโอนเงิน เป็นแค่ทางเลือกไม่บังคับ

ลูกค้าผิด ร้านค้าน่าจะรับเฉพาะเงินสด และบัตรเดบิต/เครดิต แค่นี้หรือป่าว และเงินสดมันคือพื้นฐานอยู่แล้ว

ร้านค้าที่ไม่รับโอน ควรติดป้ายบอกให้ชัดเจน จะได้ไม่มีปัญหาเวลาเก็บเงิน
คงต้องไปดูที่ร้านว่า ติดป้ายไว้รึเปล่า

ส่วนคุณผู้หญิง ถ้าไม่จ่ายเงินก็มีความผิดครับ จะดื้อแพ่งยืนบ่นไปก็เท่านั้น
ชื่นชมผู้ชายที่วิ่งไปกดเงินมาให้

ผมเคยเจอเคสนั่งแท็กซี่ โคตรแย่คับ
ผมมีเงินสดนะ ผมจำได้ว่านั่งไปมันประมาณ 120 บาท ผมให้ไป 200 มันบอกไม่มีทอน
ผมเลยถามว่ารับโอนมั้ย มันบอกไม่รับ
ตอนแรกคนขับมันบอกน้องไปหาแลกมาให้หน่อย เซเว่นข้างหน้า
ผมเลยนั่งในรถเฉยๆ เปิดประตูไว้

สุดท้าย แม่งโมโห ลงไปแลกเอง

อันนี้คือเคสที่เกินไปมากสำหรับผม จะทำมาหากิน เสือกไม่เตรียมพร้อมอะไรซักอย่าง
ไม่รับโอน ไม่เตรียมเงินทอน แล้วยังจะให้ผู้โดยสารลงไปแลกเองอีก

พูดยากแฮะ แต่ในฐานะเป็นคนขายของก็รู้สึกไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ที่ลูกค้าบางคนไม่พกเงินสดเลย บางทีซื้อผัก 1 กำ 5฿ ก็ใช้สแกนจ่ายแล้ว แต่ก็มองข้ามๆไป เพราะเข้าใจว่ามันจะกลายเป็นลักษณะนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

ผมว่ายุคนี้ ร้านควรปรับตัวมีระบบสแกนจ่ายนะ ถ้าเป็นลูกชิ้นไม้ละ 5-10 ก็พอว่าไปอย่าง แต่ผมมองว่าจากสถานการณ์ที่ไม่ทำสแกนจ่ายคงเพราะกลัวโดนโกงแล้วตามไม่ทัน กับกลัวโดนเรื่องภาษีมากกว่า

ถ้าชีวิตผมจะตึงแบบไม่พกเงินสดเลย ร้านไม่ติดป้ายผมก็จะถามก่อนนะ ถ้าไปคนเดียว ยังไงก็เป็นหน้าที่เราที่ต้องชำระค่าสินค้า
เห็นมีบางความเห็นบอกไม่รับโอนต้องหอบเงินเหรอถ้าซื้อของแพง ก่อนมีโอนจ่ายทุกวันนี้ ถ้าไม่อยากหอบเงินไปจ่ายก็ใช้บัตรเครดิตหรือเดบิตได้นะ ร้านไหนรับยิ่งดูง่าย visa mastercard ล่าสุดขึ้น BTS MRT รับบัครดิตด้วยโคตรชอบ

ปกติ default ต้องคิดว่าทุกร้านไม่รับโอนนะครับ ที่ร้านสแกน QR Code ได้ต้องมองว่านั่นคือ "ทางเลือก" ในการรับชำระเงิน
มันไม่ใช้ว่าการชำระเงินด้วย QR Code เป็นพื้นฐานที่ทุกร้านต้องมี ใครไม่มีจะต้องไปขึ้นป้ายบอก
อย่างที่บอกมันเป็นทางเลือก เซเว่นก็ไม่รับ ซื้อตั๋วเครื่องบินก็ไม่รับ ซุปเปอร์บางที่ก็ไม่รับ

ยกเว้นต่อไปจะเป็นระเบียบราชการ กฎหมายว่าทุกร้านค้าต้องมี QR Code ไว้ให้ลูกค้าสแกนนะ อันนั้นไม่มีถึงจะผิด
ถามอันนี้ก็ต้องลูกค้าผิดสิครับ รัฐยังไม่ได้ประกาศสนับสนุนการไร้เงินสดเลย ยังไงก็ต้องพกเงินสดติดตัวไว้มั่งนะครับ

การชำระหนี้หรือใช้ซื้อของ เงินสดมันควรเป็นเบสิคไม่ใช่เหรอ ทำไมร้านถึงผิดอ่ะ

ส่วนที่ร้านไม่รับโอนเพื่อจะเลี่ยงโน่นนี่ อันนี้มันก็คือปัญหาของร้านนั้นนะ ไม่เกี่ยวกับที่ลูกค้าซื้อของแล้วไม่พกเงินสดติดตัว

ผมถามทุกครั้งก่อนใช้บริการอ่ะ รับโอนมั้ย

ถ้าไม่รับ ผมก็บอก ไม่มีเงินสด ไม่ใช้บริการนะ

จริงๆเงินสดมีแหละ แต่ขี้เกียจแตกแบงค์ เพราะปกติเดี๋ยวนี้พกแบงค์พันใบเดียวติดตัว เอาไว้เผื่อฉุกเฉิน แต่ก็เป็นเงินแบบ กะว่าจะไม่ใช้

ไม่รับโอน กลัวมี transaction เดี๋ยวโดนภาษี

ง่ายๆเลย ทำป้ายแจ้งไว้เลยว่ารับเฉพาะเงินสด จะติดหน้าร้านตั้งแต่ทางเข้า ติดในร้าน หรือติดในหน้าเมนู ลูกค้าเค้าจะได้รู้ก่อนสั่งอาหาร ยิ่งถ้ามีเพจร้านเวลาโปรโมทก็พิมพ์บอกไปด้วยเลย ลูกค้าที่จะไปใช้บริการจะได้เตรียมตัวไป

ร้านถูกครับ แต่การเป็นฝ่ายถูกไม่มีประโยชน์ในทางธุรกิจ

การทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่พอใจย่อมดีกว่า ร้านที่ไม่ปรับตัว มีอต่จะรอวันตายเท่านั้น