โดนเหยียดเมื่อก่อนเลยอ่อนไหวง่ายมั้งครับ ก็เหมือนคนดำบางที่ไม่เรียกตรงๆต้องคนผิวสี
เมื่อก่อนคนอีสานมาขายแรงงานในเมืองเยอะก็เหมือนแรงงานต่างด้าวทุกวันนี้ ในละครก็จะเห็นคนอีสานเล่นบทคนใช้ หลายคนน่าจะทันนะพวกบทคนใช้พูดภาษาอีสานรัวๆคนก็ขำกัน แม้แต่ตลกก็เอาการพูดภาษาอีสานไปเล่น โดนกดมานานก็เลยอ่อนไหวมากกว่าภาคอื่นแหละ

ต้องย้อนไปสมัน 60-70 ปีก่อนโน้น ที่บ้านเราเริ่มเจริญ คนอีสานด้วยความที่พื้นที่ เเห้งเเล้ง ฝนไม่ค่อยตก เลยมีการย้ายถิ่นฐาน เข้ามาทำงานในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เเล้วสมัยก่อนความรู้ หรือการใช้ชิวิตต่างๆ คนอีสานความรู้ยังไม่เยอะ พอย้ายไปก็โดนล้อ กดขี้ หรือเข้าไปทำในอาชีพพื้นฐานของเเต่ละพื้นที่ กว่าจะได้ลืมตาอ้าปากก็อีก1-2 เจน

ส่วนตัว ผมมองว่าคนอีสานเป็นตัวเเทน ของความขยัน อดทน การปรับตัวเอาตัวรอด อันดับ 1 ของประเทศไทย

ปล.นี่ยังไม่ได้กล่าวถึงไปสมัยก่อนโน้นช่วง อยุธยา ธนบุรีนะ คนอีสานก็ประมาณชนเผ่า กลุ่มคนเป็นกระจุกๆ ไม่เจริญมาก ซึ่งส่วนมากโดนเกณมาใช้เเรงงาน โยกย้ายฐิ่นฐานไปมาหระหว่าง ไทย เขมร เวียดนาม ลาว

เหยียดตัวเองครับ

เหมือนพอเดาอายุเฉลี่ยของสมาชิกในบอร์ดได้เลยนะ คิดว่าถ้า 30 กลางๆ เป็นต้นไปน่าจะเข้าใจ

จริงๆ ภาคอีสานไม่ได้จำเป็นต้องว่าลำบากที่สุดด้วยซ้ำไปนะ แต่เพราะลำบากแล้วมีขนาดใหญ่และประชากรมาก ทำให้ภาพมันเห็นชัด กทม.เองตอนนี้ก็มีคนอีสานเข้ามาไม่ว่าจะในช่วงอายุนี้ หรือตั้งแต่รุ่นพ่อแม่เข้ามา ก็ไม่แน่ใจว่าเยอะแค่ไหนแล้ว แต่ผมแทบไม่เคยไปโซนไหนของกรุงเทพฯแล้วไม่เจอคนอีสานกับวัฒนธรรมอีสานนะ ภาคอื่นๆ ยังมีไม่เจอบ้าง ไม่ว่าใต้หรือเหนือ

อีสานเมื่อก่อนลำบากและแร้นแค้นมาก ทุ่งกุลาร้องไห้นี่คือดังมาก ประเทศไทยเพิ่งเปลี่ยนผ่านจากประเทศเกษตรกรรมมาเป็นภาคกึ่งอุตสาหกรรมและบริการได้ไม่เกิน 20 ปีเองมั้ง ไม่น่าเกินสิบปีก่อนยังมีคนพูดๆ เลยว่าบ้านเรามีรายได้หลักจากการขายข้าว ซึ่งมันไม่จริงแล้ว

ก็อย่างที่บอกครับ ในยุคที่บ้านเราพึ่งพาภาคการเกษตรมาก ก็ทำให้ที่ไหนรุ่งเรืองในด้านนั้นก็ดีไป ที่ไหนลำบากในด้านนั้นลำบากด้านนั้นก็จะชัด โดยเฉพาะยิ่งมีประชากรเยอะที่สุด

ถ้าใครเคยผ่านตากับแผนที่ทางภูมิศาสตร์ประเทศไทย มันตลกดีตรงที่แทบจะขีดกลางประเทศในแนวตั้ง จะมีเทือกเขากั้น ฝั่งภาคกลางจะชุ่มชื่นอุดมสมบูรณ์กว่า ในขณะที่ขยับไปทางขวาทางภาคอีสานจะแห้งแล้งมาก ประเทศไทยเราตามหลักสากลมีสภาพอาการแบบ tropical savanna คือนอกจากหน้าฝนแล้วจะร้อนและแห้ง มีบางส่วนในภาคใต้ที่พอเข้าเกณฑ์ป่าฝนร้อนชื้น ส่วนภาคเหนือจะ "mild" แห้ง

ถ้าดูเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำสาขาที่ไหลมารวมกันเป็นเจ้าพระยา จะเห็นเลยว่าลากมาจากข้างบน ออกไปที่อ่าวไทย ฝั่งภาคอีสานเหมือนถูกตัดออกไปเลย

ดังนั้นทั้งที่ขนาดพื้นที่ใหญ่กว่า แต่การเพาะปลูกเอาจริงๆ กลับแพ้ภาคกลางหากนับเป็นต่อไร่ คนภาคกลางก็รวยเอาๆ

ความแตกต่างพวกนี้สะสมมาหลายชั่วอายุคน ก็ทำให้เกิดภาพจำว่าภาคอีสานและคนอีสานคือคนจน ลำบาก ต้องทิ้งถิ่นฐานมาหางานในเมืองกรุงฯ อะไรพวกนี้ หนังละครมีทำเยอะแยะ

แล้วก็ลามมาต่ออีกว่า สมัยทักษิณไปชูเรื่อง "คนรากหญ้า" ทำให้ได้ใจคนอีสานมาก เพราะถูกดูถูก ถูกด้อยค่ามานานมาก พอจู่ๆ มีนายกฯไปแสดงความเห็นแบบนั้น พวกเค้าก็เลยชอบมาก

แล้วก็เลยยังเป็นความขัดแย้งในเรื่องวัฒนธรรมมาจนตอนนี้ ที่คนภาคกลางกับกทม. ก็จะรับวัฒนธรรมตะวันตกมามาก แต่วัฒนธรรมอีสานจะถูกมองว่าโลว์คลาส การแสดงต่างๆ หรือเพลงหรือกิจกรรมที่อาจจะสองแง่สองง่าม ก็จะถูกด่า แม้ว่าในวัฒนธรรมตะวันตกก็มีคล้ายๆ กัน

และทั้งหมดทั้งมวล เราก็เลยยังเห็นการกึ่งๆ "เลือกข้าง" ในแง่ของการแสดงออก อย่างหนัง "ไทบ้าน" ที่ถ้าลองไปจิ้มไมค์ถามเด็กมหาลัยในกทม.เดินเล่นที่พารากอนหรือไอคอนสยาม จะมีสักกี่คนที่ดู หรือมองว่าดี ชอบ หรือพนักงานอ็อฟฟิศใจกลางกทม.

พูดไปแล้ว ชาวอีสานอดทนมากนะครับ กว่าที่จะมามีวันนี้ และวัฒนธรรมอีสาน ก็เป็นหนึ่งเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมากๆ ในภาพรวมของประเทศไทย

เหยียดไม่เหยียด ให้ดูบริบท และจุดประสงค์ของคนพูด

ถ้าจะเซ้นแค่คำว่าคนอีสาน ก้เกินไปนะ

ง่ายๆเลย คือ อีสาน ยังไม่ได้พัฒนา หรือ คนในภาคนั้น หรือ คนที่พูด รู้ว่า อีสาน ยังไม่ได้พัฒนา เท่า ภาคอื่นๆ ลองคิดดู คนอื่นเรียกเรา คนกรุงเทพ เราก็จะไม่รู้สึกอะไรในใจ เพราะ เรามองว่ามันเป็นปกติ
แต่พอเรียก คนอีสาน ทั้งที่แบบ จงใจเหยียด หรือ พูดคุยปกติ บางคนก็รู้สึกไปเอง ด้อยกว่าต่ำกว่า ก็จะรู้สึกเป็นการเหยียดไป แค่นั้นและ

คนใต้ล่ะครับ ไม่เหยียดหรอ...

กินหลากหลายงี้ -..-

ผมว่าไม่น่าเหยียดนะ คนที่หัวร้อนกับคำนี้ ผมว่าก็เกินไปอะ

มันก็แค่คำบอกพื้นเพถิ่นที่อยู่อาศัยเฉย ๆ

ถ้าแค่พูดว่าคนอีสานเฉยๆก็ไม่ดิ้นหรอก

แต่ถ้ามาแบบ เหม็นคนอีสาน เหม็นปลาร้า พูดแต่ลาว ฟังไม่รู้เรื่อง
กรรมกรข่าวยังเจอเม้นแนวๆนี้อยู่เลยตอนสัมพาททีมงานสัปเหร่ออะ

เคยสนทนาพูดคุยเรื่อง Cgm48 กับคนรู้จัดคนนึง มีประโยคที่ผมพูดว่า

"คนิ้งนี่เบ้าหน้ามีความสาวเหนือชัดๆ" พี่คนนั้นก็เออ ออ ห่อหมก แต่พอผมบอกว่า

"นีนี่ก็เบ้าหน้ามีความอีสานแท้ๆ" พี่แกบอกว่าผมเหยียดเฉย

ยังไงวะก็น้องเป็นคนอีสานอะ โครงหน้าก็สไตล์คนอีสานขนานแท้ บางทีความเหยียดมันก็ไม่ด้าจากคนพูด แต่มันมาจากคนฟังที่เอาไปตีความเองนะ

Sensitive ครับคนภาคนี้

มุมมองผม ยุคนี้ ใครยังเหยียด

คนอีสาน หรือ อะไรทีมาจากอีสาน

โคตรล้าหลังเลย

ส่วนนึง ผมมองว่า ยุคเทคโนโลยี

ช่องทาง tiktok, youtube

มันเชื่อมคนหลากหลายเชื้อชาติ หลายภาษา เข้าด้วยกัน ได้ง่าย

คืออาจจะฟังไม่ออก แต่ได้ยินบ่อยๆ มันก็ชิน ไม่ได้แปลกอะไร


แล้วยิ่งบน youtube ไปเห็นยอดวิว เพลงภาษาอีสาน แต่ละเพลง ไม่ธรรมดา

ต้องบอกว่าคนบูรพาเฉียงอุดร

ด้วยความถูกกดขี่มานาน คนภาคอีสานส่วนมากมันก็จะอ่อนไหวกับคำพวกนี้เยอะหน่อยเข้าใจได้ แต่ใดๆไม่ควรเหยียดยกันเลยครับ

ขออนุญาตขำ
ก็นีนี่คนอีสานจริงๆ