https://m.facebook.com/story.php/?id=102628455198672&story_fbid=651277220333790

หลานคนเข้าใจผิดว่าชีคจัสซิมที่เป็นคนออกหน้าเข้าประมูลคือ ประมุขรัฐกาตาร์ (Emir of Qatar) หรือเป็นเจ้าชายรัชทายาทประมุขรัฐ ต้องบอกว่าไม่ใช่ทั้ง 2 อย่างนะครับ เป็นเครือญาติโดยไม่มีลำดับใกล้เคียงการได้ขึ้นเป็นรัชทายาทเลยถ้านับรุ่นก็คือรุ่นเจนใกล้เคียงกับ Emir คนปัจจุบันนี่แหละโปรไฟล์ของชีคจัสซิมผมเคยทำไว้ตั้งแต่ช่วงกุมภาพันธ์แล้วตามนี้



สรุปโปรไฟล์ของ 2 แคนดิเดตที่ประกาศสู่สาธารณะว่าได้ยื่นข้อเสนอซื้อทีม

คนแรกฝั่งกาตาร์ สรุปคือประมุขแห่งรัฐ (Qatar's Emir Sheikh Tamim bin Hamad al-Thani ) ไม่ได้ออกต้วเองแต่ส่ง ชีค จัสซิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี ประธาน QIB (Qatar Islamic Bank) เป็น 1 ในลูก 15 คนของอดีตนายกรัฐมนตรี ฮาหมัด บิน จัสซิม บิน จาเบอร์ อัล ธานี

สำหรับชีคคนที่ยื่นนี่ผมหาระดับความร่ำรวย( Net worth )ไม่เจอเลย เจอแต่พ่อเค้าที่เป็นอดีตนักการเมืองระดับความร่ำรวยจาก forbes ที่ 1,300 ล้านดอลลาร์ และ ปัจจุบันดูแลงานให้กับกองทุนของรัฐกาตาร์ (ดูแลคือรัฐมอบหมายหน้าที่ให้ไม่ใช่เจ้าของ)

ส่วนตัวชีคคนที่ยื่นปัจจุบันอายุ 40 ปี ทางความร่ำรวย off record ไม่มีบันทึกไว้ คาดว่าคงไม่ได้รวยติดอันดับอะไรคาดว่าน่าจะเป็นการตั้งเป็นตัวแทนเป็นคนเพื่อออกหน้า และ ทำงานให้กับกลุ่มทุนของกาตาร์เพราะเป็นคนในแวดวงระดับสูงของกาตาร์ที่เป็นแฟนบอลของยูไนเต็ดมาอย่างยาวนาน

ซึ่งเท่าที่ดูน่าจะไม่ใช่เจ้าของเงินทั้งหมดเอง (เหมือนอัลเคไลฟี่ที่ปารีส และ เสี่ยท็อดที่เชลซี) ส่วน QIB มีทรัพย์สิน 52,900 ล้านดอลลาร์ รายได้ปีล่าสุด 1,800 ล้านดอลลาร์ (เป็น Chairman ไม่ใช่เจ้าของเช่นกันเพราะ QIB คือธนาคารของรัฐ)

สำหรับฝั่งกาตาร์สิ่งที่สำคัญการออกตัวครั้งนี้ที่พยายามบอกว่าไม่เกี่ยวกับทุนของรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหากับทางยูฟ่าเรื่องทับซ้อนกับปารีส ดังนั้นถ้าโดนจับได้ว่ามีการทรงงานสั่งการจากโดฮา ซึ่งเรื่องนี้ทางกลุ่มกาตาร์เลือกเดินเกมแบบนี้โดยส่วนตัวผมแอบรู้สึกว่าน่าเป็นห่วงนิดนึงเหมือนกัน เพราะพยายามใช้วิธีแบบตั้งตัวแทนเพื่อหลีกเลี่ยงแต่เบื้องหลังผมว่าเราก็รู้ๆกันอยู่ว่ามันมาจากอำนาจแหล่งเดียวกัน (วิธีที่ผมอยากให้ใช้มากกว่าคือทำแบบตรงไปตรงมาเลยจะใช้ QSI นี่แหละวันหลังจะได้ไม่ต้องหลบซ่อน เพราะปีนี่ปารีสกับยูไนเต็ดอยู่คนละรายการอยู่แล้วพอเทคสำเร็จมีเวลาก่อนเดือนกรกฏาคมปีหน้ารีบไปขายปารีสออกไป และ โฟกัสที่ยูไนเต็ดไปเลย)

หรือถ้าเส้นทางการลงทุนเป็นชีคจัสซิมกับพ่อลงทุนส่วนตัวเองจริงๆก็ต้องบอกว่าความร่ำรวยไม่ใช่น้อยแต่ไม่เท่ากับของ Emir หรือ กองทุนของรัฐลงทุนแน่ๆ

สำหรับฝั่งเซอร์จิม เรดคลิฟ มีระดับความร่ำรวยจาก forbes ที่ 15,300 ล้านดอลลาร์ เป็นเจ้าของ ineos ที่มีรายได้ปีล่าสุด 65,000 ล้านดอลลาร์ เป็นเจ้าของทีมในลีกฝรั่งเศสเช่นกัน แต่โอกาสการเกิดปัญหาการทับซ้อนจะน้อยกว่าเพราะนีซเป็นทีมอีกระดับไม่ค่อยจะได้ไปเล่นใน UCL เท่าไร

ครับแอดจิมโจ้

ขอบคุณสำหรับข้าวสารครับ

ขอบคุณสำหรับปลากระป๋องครับ

ขอบคุณสำหรับ อาหารแห้งครับ

ยังไงก็แห้วแล้ว ท่านเอาข้อมูลมายิ่งเจ็บใจเข้าไปอีก

ถ้าชีคซื้อแมนยูได้สำเร็จ แมนยูก็จะกลายเป็น state owner football club อีกทีมแน่ๆ ซึ่งก็มีทั้งข้อดีแล้วความเสี่ยงเช่นกัน

ข้อดีก็คือ เงินมหาศาล, มีอำนาจและconnection เพิ่มอีกมากมาย
แต่ความเสี่ยงก็คือ ถ้าวันนึง มีเคสแบบนี้เยอะๆ premier league, uefa หรือ fifa อาจจะเข้ามาจำกัดสิทธิ์อะไรบางอย่างก็ได้

รวมถึงความเสี่ยงจากด้านการเมืองของประเทศแถบอาหรับที่ไม่เสถียรเท่าไหร่ โดยเฉพาะตอนนี้มีสงครามอยู่ ถ้าสงครามบานปลาย ทีมเหล่านี้อาจจะกลายเป็นกรณีอย่างที่เชลซีโดนจากกรณีสงครามรัสเซียก็เป็นได้

ถ้าพูดถึงความเสี่ยงพวกนี้ อาจจะยังน้อยอยู่ แต่ถ้าเจ้าของเป็น SJR ก็จะไม่มีความเสี่ยงด้านนี้เลย (แต่ก็เสี่ยงอย่างอื่นแทนเช่นกัน)

เหมือนจะได้เซอร์ จิม ก็ไม่แย่ใช่มั้ยครับ
ดูจากนีซ ฤดูกาลนี้ ถือว่าโอเคเลย

ชอบ PR ตัวเองว่าจะล้างหนี้นู่นนั่นนี่ แต่ไม่มีตังค์ซื้อนะฮับ

ถ้าเซอร์จิมกดจบๆไปเลยทั้ง69%นี่แม่งจะเป๋นอะไรที่โคตรดีเลย ผมไม่เคยดูแคลนเซอร์จิมเลยนะ แต่แน่นอนผมอยากได้ชีคมากกว่า แต่ถ้าจบที่เซอร์จิมผมก็ยินดีมากๆเพราะจากที่ไม่เคยทีความหวังว่าแม่งจะไปก็มีหวังขึ้นมา เอาวะ25%ก่อนก็ยังดี ละไปตอดจากพวกพี่น้องมันให้หมดจนเหลือสองหน่อ จบที่25%คงหวังเรื่องนอกสนามยากได้แต่หวังด้านฟุตบอลให้ดีขึ้นไปตามลำดับก่อน ไว้พี่จัด100%เมื่อไหร่ค่อยลุ้นเรื่องหนี้เรื่องเฟซิลิตี้ต่างๆ เราไม่เคยต้องหารเจ้าของรวยแค่ไม่สูบก็พอใจแล้ว เซอร์คนนึงสร้างไว้ตอนเริ่ม เซอร์อีกคนมาปลุกแล้วยาว จนตอนนี้หลับหวังว่าเซอร์คนนี้จะมาสะกิดอะไรให้ได้ซักหน่อยในฐานะ25%


เอาจริงในเฟสคนดูแคลนเซอร์จิมกันเยอะ เหตุผลเลยนะครับคือแค่อยากได้ชีคเลยพากันดูแคลน บลาๆๆๆ จะเป็นปลิงสองงั้นงี้ มาสูบกับเกลเซอร์ โธ่ เงินเป็นพันล้านปอนด์เอาไปทำอย่างอื่นดีกว่าถ้าจะหาเรื่องสูบที่แมนยู ได้ปันผลปีละหลักสิบเอาทำแมวอะไรได้ แค่คุณอยากได้ชีคไม่ได้หมายความว่าเซอร์จิมแย่ และเค้าไม่โง่พอที่จะเสียเงินหลักพันล้านไปโดยที่ไม่คำนึงอะไรหรอกอย่างแย่สุดก็ดูแลเรื่องฟุตบอล และได้เพิ่มอีกในอนาคต คนที่เคยรวยที่สุดในประเทศได้คงมีหัวคิดแหละมั้ง

เอาตรงๆนะ เซอร์จิมเงินน้อยกว่าก็จริง แต่เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว มีความยืดหยุ่นที่จะเอาชนะกลุ่มของชีค
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่าเซอร์จิมจะพาแมนยูกลับสู่ความรุ่งโรจน์น่ะครับ นั่นเป็นเรื่องของอนาคต

ใช่ครับเฉพาะดีลประมูลทีมคือรู้วิธีเอาชนะโจทย์ของคนขายมากกว่าว่าทำยังไงให้ชนะดีล ส่วนเรื่องทำทีมคงต้องรอดูว่าจะเอาทีมงานเข้ามาแล้วผลงานจะดีหรือแย่ที่ยูไนเต็ด

อันนี้ส่วนตัวนะครับไม่เกี่ยวกับคนอื่น รู้สึก ineos ดวงกุดอ่ะครับ สปอนเซอร์ amg ผลงานก็ไม่ค่อยดี ทีมจักรยาน ineos granediers ผลงานก็ไม่ค่อยดี

ทีมรถแข่งเหมือนจะเริ่มๆดิ่งตอน ineos มาด้วยไหมครัยคุ้นๆ แต่เอาจริงเกลเซอร์ทีมเมกันมันยังได้แชมป์เลย ผมเลยไม่ซีเรียสเรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะผมเชื่อเรื่องของเล่นชิ้นโปรดเราจะประคบประหงมมันเป็นพิเศษประคบจนฉิบหายกันไปเลย55555

ผมคิดเหมือนท่านเลยลงทุนมหาศาลขนาดนี้เพื่อมาสูบคิดมุมไหนมันก็ไม่สมเหตุสมผล เอาไปลงทุนในตลาดหุ้น ลงทุนทำธุรกิจใหม่ ขยายบริษัท บลาๆ ยังง่ายกว่าเลย หรือหวัง capital gains ในอนาคตก็น่าจะยาก กีฬาฟุตบอลความนิยมมันน่าจะโตได้อีกไม่เยอะ เด็กเจนใหม่ๆ มีทางเลือกให้สนใจเยอะกว่าเดิมมาก ถ้าจะหวังสูบแค่ปันผลยิ่งไม่มีทางคุ้ม

ประเด็นคือถึงเซอร์จิมจะรวยน้อยกว่าแต่ก็รวย ถ้าแกใจปล้ำเพื่อทีมเกินร้อยจริงก็ไม่มีปัญหา แต่กลัวว่าจะใช่ป่าว