BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: Play Forward
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Sep 2009
ตอบ: 11378
ที่อยู่: Fromis_9
โพสเมื่อ: Tue Oct 17, 2023 13:54
มาทำความรู้จักกับประเทศเอสโตเนีย
มาทำความรู้จักประเทศเอสโตเนียที่ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยจะไปเยือนกันครับ



สาธารณรัฐเอสโตเนีย เป็นประเทศที่มีประชากรน้อยที่สุดในประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป หรือเพียง 1.3 ล้านคน มีพื้นที่ 45,227 ตารางกิโลเมตร (17,462 ตารางไมล์) ที่อยู่ในภูมิภาคบอลติก ในยุโรปเหนือ มีอาณาเขตทางทิศเหนือติดกับอ่าวฟินแลนด์ และทางทิศตะวันออกติดกับประเทศรัสเซีย เอสโตเนีย เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียด ภายหลังที่โซเวียดล่มสลาย จึงได้แยกตัวออกมาเป็นประเทศใหม่เมื่อ ค.ศ. 1994 โดยมีเมืองหลวงชื่อ “ทาลลินน์” (Tallinn)

สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ เอสโตเนีย

Liivanõmme õpperada เขต Nõva

มีป้ายบอกทางสำหรับเดินป่าที่นี่ และเส้นทางเดินไม่เหมือนทางที่ต้องเดินในเมืองไทยเส้นทางแรกเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ และต้นสนหลายชนิด ถ้ามองดีๆ ข้างทางก็จะเห็นกล้วยไม้ดินกระจัดกระจายไปตลอดทาง เข้าไปอีกหน่อยจะเจอต้นสตรอเบอรี่ป่าที่มีลูกเล็กๆ เพียงปลายนิ้วก้อย หวานและอร่อย แต่พอเราไปก็รู้สึกเหมือนหมดฤดูสตรอว์เบอร์รี่ป่า ดังนั้นจึงไม่มีอะไรให้ดูมากนัก นอกจากสตรอเบอร์รี่และกล้วยไม้แล้ว ทิวทัศน์ก็สวยงามเช่นกัน ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน พระอาทิตย์กำลังตกดินทำให้ป่าสนรอบๆ สว่างไสวไปด้วยแสงสีทอง กลิ่นใบสนพลิ้วไสวตามสายลม รักป่าที่นี่ให้มากๆ
เบอร์รี่อีกชนิดหนึ่ง สิ่งเดียวที่คุณจะเจอเมื่อเดินเข้าไปในป่านี้คือ bilberry ซึ่งเป็นญาติของบลูเบอร์รี่ แต่ lingonberries จะมีขนาดเล็ก พุ่มไม้นั้นต่ำกว่าบลูเบอร์รี่มาก ต้น Huckleberry เป็นไม้พุ่มสูงระดับเข่า จากที่เราสังเกตพบมักจะเป็นป่าสนที่มีตะไคร่น้ำปกคลุมพื้นดิน


Haapsalu Linnuse Muuseum

นี่คือพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับการตกแต่งใหม่ ปัจจุบันมีการสร้างพิพิธภัณฑ์เพิ่มเติมในบริเวณเดิมของโบสถ์ อดีตนักบวช แต่ว่าที่ยังคงมีคริสตจักรยังและอีกหนึ่งเรื่องราวที่มากับปราสาทแห่งนี้ ถ้าไป Haapsalu ต้องฟัง เรื่องราวของ White Lady ในตำนาน สาวผีที่โด่งดังของเมือง ออกมาในคืนพระจันทร์เต็มดวงเพื่อดูผู้คนผ่านหน้าต่างประสาทบานใดบานหนึ่ง กล่าวกันว่าผู้หญิงคนนั้นได้พบรักกับผู้อาศัยภายในปราสาท แต่ว่าที่นี่ผู้หญิงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปโดยเด็ดขาด ฝ่ายหญิงปลอมตัวเป็นชาย แต่เกิดโดนจับได้ หญิงคนนั้นจึงถูกฝังอยู่ในกำแพง และจบเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้า แต่ว่าที่นี่ก็ยังมีความน่าสนใจของประวัติศาสตร์และความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่อยากให้ทุกคนมาสัมผัสด้วยตัวเอง


เมืองชายหาด พาร์นู (Parnu)

เมืองชายหาดที่มีชื่อเสียง เป็นเมืองตากอากาศที่โด่งดังในเอสโตเนีย เอสโตเนียมีชายหาด รีสอร์ท โรงแรม ร้านอาหารในฤดูร้อน ตั้งแต่มิถุนายนถึงสิงหาคม Parnu เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย ที่มาชมบรรยากาศชิลๆ สบายๆ ริมทะเล Parnu ถูกครอบครองโดยโปแลนด์ในปี ค.ศ. 1561 สวีเดนในปี ค.ศ. 1629 และรัสเซียระหว่างปี ค.ศ. 1710-1918 ใน Parnu ผู้เยี่ยมชมสามารถชื่นชมบ้านไม้ในสไตล์อาร์ตนูโว ได้ออกไปเที่ยวในบ้านหลังเก่าในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ สีสันสดใส มีความสวยงาม


เมืองทาลลินน์ (Tallinn)

ทาลลินน์เป็นเมืองหลวงของเอสโตเนีย และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเอสโตเนีย ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลบอลติกทางตอนเหนือของประเทศ ทาลลินน์เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยอาคารที่สวยงาม และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ บรรยากาศสบายๆ สถานที่ท่องเที่ยวหลักของทาลลินน์คือย่านเมืองเก่า ใจกลางย่านนี้คือจัตุรัสเมืองเก่าของทาลลินน์หรือย่าน Raekoja Plats ใจกลางเมือง สมัยก่อนเป็นสถานที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า เป็นสถานที่เฉลิมฉลองเทศกาลในเมือง นี่คือที่ที่อาชญากรถูกประหารชีวิตเช่นกัน เมืองทาลลินน์ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 1997 เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เมื่อมาเอสโตเนียไม่ควรพลาด


พระราชวังแคทเดอริค (Kadriorg Palace)

พระราชวังนี้แห่งนี้สร้างขึ้นโดยพระเจ้าปีเตอร์มหาราชแห่งรัสเซีย และเป็นที่ประทับของพระราชินีแคทเธอรีน วังแห่งนี้สร้างขึ้นในสไตล์บาโรกโดยสถาปนิกชาวอิตาลี และตอนนี้พระราชวัง ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงภาพวาดศิลปะ ประติมากรรมเช่นเดียวกับงานศิลปะของประเทศ วังเปิดให้ผู้เข้าชมสามารถเยี่ยมชมความสวยงาม อลังการของที่นี่ได้

สนามฟุตบอลประเทศเอสโตเนีย
Lilleküla Stadium (A. Le Coq Arena) ตั้งอยู่เมืองหลวง กรุงทาลลินน์ จุคนได้ประมาณ 14,336 คน


20 ปี 'เอสโตเนีย' ทำอย่างไร ให้เป็น ‘ประเทศพัฒนา’


จากที่เคยอยู่ภายใต้การปกครองของระบอบคอมมิวนิสต์ และแทบจะไม่มีใครบอกได้ว่าประเทศ “เอสโตเนีย” อยู่ที่ไหนบนแผนที่โลก… 20 ปีผ่านไป ประเทศไซส์มินิที่มีขนาดเล็กกว่าเราถึง 10 เท่านี้ กลับผงาดขึ้นเป็น ‘ประเทศพัฒนา’ และได้ชื่อว่าประเทศที่มีสังคมดิจิทัลล้ำสมัยที่สุดในโลก


นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก หลัง “เอสโตเนีย” แยกตัวเป็นอิสระจากสหภาพโซเวียตในปี 1991 ประชาชนส่วนใหญ่มีฐานะยากจน รายได้เฉลี่ยไม่ถึง 7,000 บาท/เดือน เด็กส่วนใหญ่ขาดโอกาสเข้าถึงการศึกษา หลายบ้านไม่มีโทรศัพท์ใช้ติดต่อหากัน เรียกว่าแทบไม่มีต้นทุนหรือความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลกอย่างสิ้นเชิง


จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญมาถึงเมื่อ Matt Laar คนรุ่นใหม่หัวก้าวหน้าในวัย 32 ที่ชนะการเลือกตั้งและก้าวขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีคนแรกของเอสโตเนีย พร้อมคณะรัฐมนตรีที่เด็กที่สุดในประวัติศาสตร์ (อายุเฉลี่ยเพียง 35 ปี) เข้ามาวางแนวทางปฏิรูประบบประเทศอย่างรวดเร็ว โดยเน้นการวางรากฐานให้กับระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ในการขับเคลื่อนส่วนงานต่างๆ ของประเทศ


เริ่มจากการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่เห็นว่าจำเป็นที่สุด นั่นคือ ‘อินเตอร์เน็ตใยแก้วนำแสงแบบไร้สาย’ (Fiber Optic) ที่รวดเร็วยิ่งกว่า ‘อินเตอร์เน็ตระบบโทรศัพท์บ้าน’ ซึ่งกำลังนิยมในเวลานั้น โดยเริ่มจากพื้นที่เมืองหลวง สถานที่ราชการ โรงเรียนและมหาวิทยาลัย ก่อนจะขยับขยายออกไปทั่วประเทศภายในปี 2000 ไม่ว่าจะเดินทางไปในเขตชนบท นั่งคาเฟ่ร้านอาหาร รอรถที่สถานีขนส่ง หรือแม้แต่ไปอาบแดดริมชายหาด ก็สามารถใช้งานได้แบบไม่มีสะดุด


ที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน คือ ‘การพัฒนาเด็กและเยาวชน’ ผ่านการศึกษาที่เท่าเทียม โดยกำหนดให้ทุกสถานศึกษาต้องมีคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียน และเชื่อมฐานข้อมูลความรู้ สื่อการเรียนการสอนต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้คุณครูในโรงเรียนห่างไกลสามารถนำไปสอนเด็กๆ ได้ไม่ต่างจากโรงเรียนในเมือง ทั้งยังมีการปูความสนใจด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และการเขียนโค้ดดิ้ง ให้กับเด็กตั้งแต่ระดับประถมขึ้นไป ก่อนที่ต่อมาจะมีการพัฒนาระบบ e-Learning เป็นประเทศแรกๆ รวมถึงสนับสนุนทุนการศึกษาสำหรับทุกคนจนจบมหาวิทยาลัยอีกด้วย


ขณะเดียวกัน รัฐบาลคนรุ่นใหม่ยังล้างระบบเอกสารภาครัฐ เปลี่ยนมาอยู่บนระบบออนไลน์แทบทั้งหมด และทางประชาชนเองก็ให้ความร่วมมือในการปรับเปลี่ยนนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งการประหยัดเวลาในเรื่องหยุมหยิมเช่นนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐมีเวลาไปคิดและพัฒนาเรื่องอื่นๆ ได้เพิ่มอย่างไม่น่าเชื่อ เช่น การพัฒนาฐานข้อมูลบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ (e-ID Card) ที่แรกในโลก และนำ Blockchain มาใช้เพื่อรักษาความปลอดภัย และเพิ่มความโปร่งใสของข้อมูลบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการติดต่องานราชการ จ่ายภาษี เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เช็กตารางเวลารถสาธารณะ โอนเงินซื้อบ้านซื้อรถ แจ้งจัดตั้งบริษัท หรือแม้กระทั่งเรื่องยากๆ อย่างการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง


นอกจากนี้ เอสโตเนียยังวางนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจที่น่าสนใจ เช่น สิทธิประโยชน์ด้านภาษีนิติบุคคล ที่จะคิดภาษีก็ต่อเมื่อมีเงินปันผล (Dividend Tax) เท่านั้น ไม่คิดภาษีจากกำไร (Profit Tax) อย่างในประเทศไทย และระบบ e-Residency ที่เปิดให้ทุกคนทั่วโลกสามารถ “เปิดบริษัทและทำธุรกิจเสมือนอยู่ในเอสโตเนีย” แม้จะอยู่นอกประเทศ ซึ่งให้สิทธิ์ในการเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ เซ็นเอกสารผ่านระบบดิจิทัล และยื่นภาษีนิติบุคคลออนไลน์ (ไม่ถือสัญชาติและไม่สามารถใช้เข้าออกยุโรปแทนวีซ่าได้) เพื่อจูงใจให้คนในประเทศลุกขึ้นมาประกอบธุรกิจของตัวเอง รวมถึงดึงดูดต่างชาติให้เข้ามาลงทุน


ปัจจัยหลายๆ อย่างที่ถูกพูดถึง เป็นส่วนผสมที่รัฐบาลเอสโตเนียใช้สร้างจุดเด่นในการแข่งขันที่ชัดเจน โดยเฉพาะการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี โดยประชากรกว่า 30% ของประเทศ อยู่ในสายงานด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม และเป็นต้นกำเนิดบริษัทและสตาร์ทอัพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Skype โปรแกรมติดต่อสื่อสารผ่านวิดีโอคอลชั้นนำของโลก (ก่อนจะขายให้กับ eBay และ Microsoft) Bolt แอปฯ เรียกรถคล้าย Uber ที่กำลังมาแรงในยุโรป หรือ TransferWise สตาร์ทอัพยูนิคอร์นที่ให้บริการโอนเงินข้ามประเทศแบบไม่ผ่านระบบธนาคารกลาง


ไม่เพียงแค่ฉายา ‘ประเทศที่มีสังคมดิจิทัลล้ำสมัยที่สุด’ ที่ได้รับไป แต่ความพยายามอย่างหนักกว่า 20 ปีที่ผ่านมานี้ ส่งผลให้ประชากรเอสโตเนียมีรายได้เฉลี่ยสูงถึง 53,000 บาท/เดือน ทุกคนเข้าถึงสิทธิทางการศึกษา การแพทย์ และโอกาสในการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างเท่าเทียม แถมยังติดอันดับประเทศที่มีความปลอดภัยและเสรีภาพบนโลกออนไลน์อันดับต้นๆ และกลายเป็นโรลโมเดลให้หลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยเรา ใช้เป็นแนวทางในการวางรากฐานประเทศที่ยั่งยืนไปตามๆ กัน

อ้างอิง
https://www.nia.or.th/20thEstonia
https://travelerr.co/travel-estonia/
https://www.posttoday.com/lifestyle/692785
https://www.mfa.go.th/th/index
https://www.facebook.com/stadiums.football

แก้ไขล่าสุดโดย EL Tigires เมื่อ Tue Oct 17, 2023 13:55, ทั้งหมด 1 ครั้ง
6
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ

Tottenham Hotspur-Roma-New England Patriots-SC30-J.Lin7-TB12


ออฟไลน์
ตำนาน Hall OF Frame
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Aug 2009
ตอบ: 6456
ที่อยู่: หิมาลัย
โพสเมื่อ: Tue Oct 17, 2023 13:58
[RE: มาทำความรู้จักกับประเทศเอสโตเนีย]
เชียร์ใครดีน้อ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Mar 2023
ตอบ: 9663
ที่อยู่: ร่องนม
โพสเมื่อ: Tue Oct 17, 2023 14:07
ถูกแบนแล้ว
[RE: มาทำความรู้จักกับประเทศเอสโตเนีย]
ย้ายไปอยู่ยังไง เค้ารับคนขี้เมาบ้ากามป่าว
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
oNo
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 17 Jun 2010
ตอบ: 937
ที่อยู่: หนองจอก
โพสเมื่อ: Tue Oct 17, 2023 14:09
[RE: มาทำความรู้จักกับประเทศเอสโตเนีย]
โรงงานกระดาษอันดับ1 โลก จีนยังแพ้ยังต้องสั่งเข้า ดับเบิ้ลเองยังเศษเสี้ยว

ต้นไม้ตัดส่งโรงงานกระดาษทั่วโลกยังตัดไม่ทันปลูก โคตรเก่ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Nov 2006
ตอบ: 23844
ที่อยู่: ตามสำเนาทะเบียนบ้าน
โพสเมื่อ: Tue Oct 17, 2023 14:10
[RE: มาทำความรู้จักกับประเทศเอสโตเนีย]
มาร์ท พูม ยังเล่นอยู่มั้ย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status: พรี่ๆจะเอาอะไรมากค่า board variety ก็ต้องมีสีสันหน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2630
ที่อยู่: Silom
โพสเมื่อ: Tue Oct 17, 2023 14:15
[RE: มาทำความรู้จักกับประเทศเอสโตเนีย]
สาวแจ่มไหม ประเทศนี้
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวเตะลา ลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 Mar 2010
ตอบ: 19125
ที่อยู่: Address
โพสเมื่อ: Tue Oct 17, 2023 15:04
[RE: มาทำความรู้จักกับประเทศเอสโตเนีย]
รู้จักเมืองทาลลินน์ เพราะทีมบอลชั้นนำของประเทศอยู่เมืองนี้



1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 1 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 35992
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 17, 2023 15:17
ถูกแบนแล้ว
[RE: มาทำความรู้จักกับประเทศเอสโตเนีย]
ถ้าผู้นำดี บ้านเมืองก็ดีย์
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Jan 2006
ตอบ: 2599
ที่อยู่: Somewhere in neverland
โพสเมื่อ: Tue Oct 17, 2023 15:36
[RE: มาทำความรู้จักกับประเทศเอสโตเนีย]
สส. เท้ง reference ประเทศนี้บ่อยมากเรื่องเศรฐกิจดิจิตอลเค้าไปไกลจริงๆ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Just go where destiny takes you.
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 09 Dec 2007
ตอบ: 8748
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 17, 2023 16:23
[RE: มาทำความรู้จักกับประเทศเอสโตเนีย]
ต้องเก่งเบอร์ไหนที่ 20 ปี พัฒนาได้ขนาดนี้ เชิดชู เลยจริงๆ 20 ปี คนคนเดียวทำไม่ได้แน่ๆ เค้าร่วมใจกันยังไง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel