BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Jun 2008
ตอบ: 3551
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 06, 2023 15:52
10 ข้อ หลังรับชมสารคดีชีวิต "BECKHAM"
หากกล่าวถึง "ฟุตบอล" แล้ว นอกจากการรับชมถ่ายทอดสดการแข่งขันในแต่ละแมตซ์ อีกสิ่งหนึ่งที่ผมไม่อยากพลาด นั่นก็คือ อัตชีวประวัติ สารคดี หรือไฮไลท์ที่เป็นรูปแบบ Inside Unseen ต่าง ๆ ที่เผยถึงเรื่องราวเชิงลึกที่เราอาจไม่ได้พบเจอง่าย ๆ ในหน้าสื่อ

ล่าสุดนี้ ต้องขอขอบคุณกระทู้จากเพื่อนในบอลนอกที่นำมาเล่าสู่กันฟัง ตลอดจนถึง "Netflix" ที่ได้รังสรรค์ผลงานน้ำดี ที่เจาะลึกถึงชีวิตของหนึ่งในชายที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ลูกหนัง และภายหลังจากที่ได้รับชมไปแล้วเรียบร้อยตั้งแต่ต้นจนจบ ต่อจากนี้คือ "10 ข้อ" ที่ผมอยากเล่าสู่เพื่อนสมาชิกถึงผลงานชิ้นนี้ครับ...




1. ซีรีส์ดังกล่าว ตีแผ่เรีื่องราวชีวิตของ "อดีตพ่อค้าแข้ง" ชื่อเต็มโดยกำเนิดคือ เดวิด โรเบิร์ต โจเซฟ เบ็คแฮม หรืออีกชื่อที่คุ้นหูกันดีอย่าง "เดวิด เบ็คแฮม" เป็นอีกหนึ่งผลงานจาก Netflix อันมีชื่อเรื่องถูกตั้งขึ้นอย่างเรียบง่าย ทว่า แฝงไปด้วยอิมแพ็คล้นเหลือต่อวงการลูกหนัง ชนิดที่หลายคนคาดไม่ถึง "BECKHAM"
.
2. "BECKHAM" สร้างขึ้นในรูปแบบของ Documentary หรืออัตชีวประวัติ ที่แบ่งออกเป็น 4 Part ภายใต้ชื่อตอนว่า The Kick/Seeing Red/Golden Balls/What Makes David Run เนื้อหาเฉลี่ยตอนละประมาณ 60-70 นาที โดยครอบคลุมไทม์ไลน์ทั้งหมดตลอดชีวิตของเบ็คแฮม ตั้งแต่เกิด จวบจนปัจจุบันบนวัย 48 ปี
.
3. อาจมีการตั้งข้อสงสัยถึงซีรีส์เรื่องนี้โดยอัตโนมัติว่า "แล้วใครเหมาะที่จะดูสารคดีนี้ ? ไม่ใช่คอบอลดูแล้วจะอินเหรอ ?" ส่วนตัวมองว่า นี่ไม่ได้เป็นเพียง "สารคดีกีฬาที่ดี" แต่เป็น "หนึ่งในสารคดีที่ดี ที่ควรค่าแก่การรับชมอย่างยิ่ง" เพราะเนื้อหาไม่ได้ถูกตีกรอบล้อมเอาไว้แค่เรื่องกีฬา ไม่ได้พ่นแต่คำศัพท์ลูกหนังจนเลี่ยนเกินไป หากแต่มองลึกลงไป นี่คือการตีแผ่เรื่องราวการต่อสู้ของชีวิต "มนุษย์" คนหนึ่ง ที่คละไปด้วยความรัก โลภ โกรธ หลง เรื่องราวบางฉาก บางตอน อาจทิ้งแง่คิดดี ๆ ไว้เป็นบทเรียนชีวิต และขณะเดียวกัน บางเหตุการณ์ก็ช่วยเติมเชื้อไฟแห่งแรงบันดาลใจให้กับเราได้เช่นกัน
.
4. และแน่นอนว่า หากรับชมผ่านมุมมองของ "คอบอล" นี่จะเป็นหนึ่งใน Documentary ฟุตบอลที่พร้อมจะกระโดดเข้าไปอยู่ในท็อปลิสต์ใครหลายคนอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะหากคุณคือเร้ด อาร์มี่ ที่ทันรับชมตั้งแต่วันที่เบ็คแฮมเดบิวท์ หัวใจคุณจะพองโตและอิ่มเอมไปกับการนั่งไทม์แมชชีนย้อนไประลึกถึงเรื่องราวการเดินทางที่ผ่านมาของชายคนนี้ และหากคุณคือคอบอลรุ่นหลังที่อาจได้ยินเพียงเสียงลือ เสียงเล่าอ้างจากรุ่นพ่อ รุ่นพี่มาเท่านั้น นี่จะเป็นโอกาสที่ดี ที่คุณจะได้พิสูจน์ด้วยตาตนเองว่าชายคนนี้เป็น "ปรากฎการณ์" ของวงการฟุตบอลขนาดไหน
.
5. ความดีงามของ "BECKHAM" ที่คุณจะได้พบเจอตลอด 4 EP คือการที่คุณจะได้รับฟังบทสัมภาษณ์จากปากของเหล่าตำนานในวงการฟุตบอล ในหลากหลายเรื่องราวที่คุณอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน เรียกได้ว่า เป็นระดับตัวเป้งทั้งนั้น ดูไปคือฟินน้ำตาแตกจริง ๆ
.
6. เดิมที ความตั้งใจของผมคือการหยิบยก Quote ที่ประทับใจจากซีรีส์มาแชร์ต่อ แต่ดูแล้ว น่าจะเป็นการสปอยเนื้อหาสำคัญจนเสียอรรถรสได้ ทว่า มีหนึ่ง Quote ที่ผมชื่นชอบเป็นการส่วนตัว ที่อดีตตำนานแข้งปีศาจแดงรายหนึ่งได้กล่าวเอาไว้อย่างคมคาย
"บางครั้งคนพูดกันถึงความฉลาด หาว่านักฟุตบอลไม่ฉลาดบ้างล่ะ แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ต้องมีความฉลาดในแบบของนักฟุตบอล และเล่นฟุตบอลให้น่าทึ่ง"
.
7. คารวะทีมผู้สร้างมาก กับการนำเสนอเนื้อหาได้ครอบคลุม ครบถ้วน และกระจ่างชัดอย่างที่สุด ทั้งที่ในความเป็นจริง นี่น่าจะเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่มีสตอรี่มากกว่าทุกคนในหน้าประวัติศาสตร์ ชนิดที่ลากยาว 2-3 ซีซั่นยังได้เลย แต่เหตุการณ์ทั้งหมดถูกคัดสรรและบรรจุลงไปอย่างพอดิบ พอดี ผ่านฟุตเทจที่ Unseen สุด ๆ และเชื่อว่าบางท่านอาจไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อน บางเหตุการณ์หลายคนอาจเคยทันเห็นด้วยตาตัวเองเมื่อนานมาแล้ว ก็ได้นำกลับมารีรันอีกครั้ง เสมือนเป็นเครื่องเตือนความทรงจำต่อช่วงเวลานั้น ๆ และที่อยากเอ่ยถึงเป็นพิเศษคือ ทีมงานตัดต่อ ที่ตัดได้สนุก และกวนทีนชิบหาย (ฮา) อย่างบางบทสัมภาษณ์ เบ็คแฮมพูดอย่างนึง แต่ตัดสลับไปที่อีกฝ่ายตอบตรงกันข้ามในคำถามเดียวกันซะอย่างงั้น
.

8. แม้ว่าคุณอาจจะไม่ใช่สาวกเร้ด อาร์มี่ และอาจเกลียดชังสโมสรที่ชื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าไส้ (ในบริบทของเกม กีฬา) แต่เชื่อเถอะว่า คุณไม่อาจปฏิเสธความเคารพ ยกย่องจากก้นบึ้งของหัวใจ ที่มีต่อ "วัฒนธรรมแห่งยูไนเต็ด" ภายใต้ยุคสมัยของบรมกุนซืออย่าง อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อย่างแน่นอน ในช่วงพาร์ทแรก ๆ เราจะได้ฟังสัมภาษณ์จากเหล่าตำนานปีศาจแดงในยุคที่ทันกันกับเบ็คแฮม คือแม้กระทั่งการนั่งสัมภาษณ์เพียงไม่กี่ประโยค น้ำเสียง ถ้อยคำ สีหน้า แววตา ภาษากายของทุกคน มันถูกสื่อออกมาในทิศทางเดียวกันหมด สื่อออกมาในสัญญาณของความเป็น "ยูไนเต็ด" วัฒนธรรมของเหล่าผู้ชนะที่ถูกปลูกฝังจนหยั่งรากลึกในตัวตนของปีศาจแดงยุคนั้นอย่างแท้จริง จนผลิออกผลเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ทั้งในแง่รูปธรรม และนามธรรม
.
9. อาจจะเป็นเส้นแบ่งบาง ๆ ที่ขวางกั้นเอาไว้ระหว่าง Production ที่บิ้วท์ให้เรื่องราวมันเป็น "เหมือนหนัง" หรือบางทีอาจเพราะชีวิตของเบ็คแฮมนั่นแหละมัน "เหมือนหนัง" เพราะ แม้เหตุการณ์บางฉาก แฟนบอลจะได้รับชมทั้งสถานการณ์สด และย้อนดูคลิปรีรันใน Social Media เป็นร้อย ๆ รอบ แต่เมื่อมารับชมอีกครั้งผ่านสารคดีนี้ เรากลับรู้สึกว่า โห ชีวิตคน ๆ นึง มันยังกับภาพยนตร์ขนาดนี้เลยเหรอ อะไรมันจะมีจังหวะพอเหมาะพอเจาะไปหมดได้ขนาดนั้น แถมยังมีซีนที่ชวนให้เราอึดอัด ขนลุก ตกตะลึง บางซีนก็เรียกน้ำตาเราโดยไม่ทันตั้งตัว เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ครบรสมาก ๆ ทั้งที่นำเสนอชีวิตนักฟุตบอลคนนึงในเชิง Documentary ด้วยซ้ำ
.
10. บทสรุปสุดท้าย ภายใต้ "เลข 10" อันสื่อความหมายถึงปฐมบทของชายผู้นี้ เด็กหนุ่มเลือดผู้ดี ย่านเมืองหลวง ผู้ที่โดดเด่นด้วยใบหน้าหล่อเหลา กับทรงผมสีทอง ยาวสลวย บนวัย 21 ปี ภายใต้ตราสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สกรีนด้านหลัง "หมายเลข 10" ผู้สร้างชื่อลือกระฉ่อนจากการซัลโวไกลในระยะครึ่งสนาม วินาทีนั้นเองที่ตัวเขาเริ่มสรรค์สร้างนิยายบทใหม่ให้กับวงการลูกหนัง ก่อนที่กาลเวลาจะค่อย ๆ แปรเปลี่ยนจาก "ความบังเอิญ" ในวันนั้น สู่ "ความยิ่งใหญ่" ในวันนี้ และคงไม่สลักสำคัญใด ๆ อีกแล้วว่าชายผู้นี้จะสวมเสื้อ หมายเลข 10 หมายเลข 7 หมายเลข 23 หรือหมายเลข 32 ลงสู่สนาม สิ่งสำคัญที่สุดคือโลกลูกหนังได้จารึกชื่อที่อยู่เหนือตัวเลขเหล่านั้นลงบนหอเกียรติยศเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าจะคงอยู่เช่นนั้นตลอดไป ...ชื่อดังกล่าวนั้นถูกสลักเอาไว้ว่า "BECKHAM"


แก้ไขล่าสุดโดย Blue Sh!t เมื่อ Fri Oct 06, 2023 16:27, ทั้งหมด 1 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ

ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Jun 2008
ตอบ: 3551
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 06, 2023 15:55
[RE: [Netflix] 10 ข้อ หลังรับชมสารคดีชีวิต "BECKHAM"]
ช่างเป็นเรื่องน่าบังเอิญดีครับ ที่ก่อนซีรีส์นี้ จะออนแอร์ไม่กี่วัน มีประเด็นที่น่าสนใจในบอลนอก ที่เปรียบเทียบกันถึงนิยามความเป็น "Superstar" ของเบ็คแฮม กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งอันที่จริงก็เป็นอีกหนึ่งคำถามที่เราถกกันมาทุกปีนั่นแหละครับ

ภายหลังจากชม BECKHAM มาแล้วนั้น ผมขอเสริมในมุมมองผมแบบนี้ครับ...



ด้วยแนวคิดของยุคสมัยนั้น คนทั่วไปมีมุมมองต่อนักฟุตบอลเป็นแค่ "สุภาพบุรุษคนนึงที่ประกอบอาชีพเตะฟุตบอลเพื่อแลกเงิน" ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น พวกวงการสื่อ ภาพยนตร์ โฆษณาต่าง ๆ ก็จะเป็นของคู่กันกับเหล่านักแสดง นักร้องซะเป็นส่วนใหญ่

กระทั่งการมาถึงของนักฟุตบอลที่ชื่อ "เดวิด เบ็คแฮม" ผู้สร้างชื่อกระฉ่อนในพาร์ทกีฬาก่อนแถมยังเกิดกับสังกัดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการฟุตบอลอย่างแมนฯ ยูไนเต็ด สปอตไลท์มันส่องถึงได้ไว ประกอบกับต้นทุนเดิมที่ฟ้าลิขิตมาให้แล้วอย่างรูปร่าง หน้าตาที่พรั่งพร้อม เมื่อมาผสมผสานกับทัศนคติความทะเยอ ทะยานที่จะก้าวเท้าออกจาก Comfort Zone สู่การเป็นนักฟุตบอลรายแรก ๆ ที่บุกเบิกให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลยว่า ฟุตบอลเป็นมากกว่ากีฬา และฟุตบอล Connect ได้กับทุกวงการ ซึ่งเบ็คแฮมมาตอกย้ำสิ่งนี้อีกครั้งในชีวิตรักกับอดีตนักร้องที่ฮอตที่สุดในยุคนั้น ที่ยังคงครองคู่กันมาจนปัจจุบัน

ซึ่งแฟนบอลจะเห็นได้ว่าหลังจากวันนั้นมา นักฟุตบอล ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หลายคนเริ่มหันมาโฟกัสว่าภาพลักษณ์ตัวเองที่ปรากฎต่อสื่อก็สำคัญไม่แพ้ผลงานในสนาม และเป็นหนึ่งหนทางในการมีรายได้เช่นกัน ผลพลอยได้ก็ตกมาถึงแฟนบอลด้วยซ้ำ จากที่เคยเห็นแค่คน ๆ นี้ในบทบาทนักฟุตบอล ก็ได้ยลโฉมนักเตะขวัญใจในภาพลักษณ์อื่น ๆ ซึ่งสิ่งนั้นมันคงอยู่มาเรื่อย ๆ กระทั่งโลกมีชายที่ชื่อ "คริสเตียโน่ โรนัลโด้" เจ้าของสถิติยอด Follower สูงที่สุดบนแพลตฟอร์ม Instagram ที่เป็นเสมือนผู้สานต่ออุดมการณ์ที่ครั้งนึงรุ่นพี่อย่าง เบ็คแฮม เคยได้กรุยทางเอาไว้ให้แล้ว

ถ้าให้วัดในเรื่อง "อิมแพ็คนอกสนาม" ส่วนตัวมองว่าทั้งสองได้รับส่งบทบาทตรงส่วนนี้ได้อย่างเหมาะสมที่สุดต่อวงการลูกหนังแล้วครับ การจะไปเฟ้นหาจุดสิ้นสุดของคำตอบว่า "ใครมีความเป็น Superstar มากกว่ากัน ?" ดูจะเป็นการถกเถียงที่ไม่แฟร์ต่อฝ่ายใดเท่าไรนัก ไม่ว่าข้อสรุปจะจบที่ตรงไหนก็ตาม

ไม่แน่ครับว่า หากโรนัลโด้เอง ไปแจ้งเกิดในยุคนั้น ก็อาจจะสร้างกระแสฟีเวอร์ให้หน้าสื่อได้ไม่แพ้ที่เบ็คแฮมเคยทำเอาไว้ ...ขณะเดียวกัน ถ้าเบ็คแฮมสลับมาอยู่ในยุคโรนัลโด้ ผมเชื่อเหลือเกินว่า Attitude ความเป็นเบ็คแฮม จะสานต่อสิ่งที่โรนัลโด้ได้ลงมือทำเอาไว้อย่างแน่นอน ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า การที่ยุคสมัยนึง โลกฟุตบอลมีมนุษย์อย่าง เบ็คแฮม หรือโรนัลโด้ มันคือผลลัพธ์ในเชิงบวกต่อสิ่งที่เรียกว่า "ฟุตบอล" มหาศาลจริง ๆ

และในวันข้างหน้า ผมก็ยังอยากจะเห็นอีกนะครับ อยากเห็น "Footballer" ที่ทะยานตัวเองสู่การเป็น "Superstar" เพื่อให้กีฬาฟุตบอลมันได้กระแสตอบรับจากคนในวงการอื่น ๆ ไปเรื่อย ๆ แบบนี้นั่นแหละครับ
9
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Jun 2023
ตอบ: 1110
ที่อยู่: madrid/juve
โพสเมื่อ: Fri Oct 06, 2023 16:13
[RE][Netflix] 10 ข้อ หลังรับชมสารคดีชีวิต "BECKHAM"
ตั้งใจดู และช่วงตอนมาดริด
ตอนคารอส ซัลกาโด คาเปลโลไปบอกให้บอร์ดอนุญาตให้เอาแบคกลับมาเล่น คาเปลโลบอกต่อให้ไล่ออกก็จะเอาแบคลง

มาดริดคือแฟมมิลีจริงๆ ตอนที่แบคมาพูดสเปนไม่ได้ ครอบครัวก็ไม่อยู่ด้วย เพื่อนทุกคน(โดนเฉพาะR9สายเที่ยว) ชวนออกไปกินข่าวด้วยบ่อยๆทั้งที่คุยกันไม่รู้เรื่องแต่ใช้ภาษามือคุยกัน2ชั่วโมง


HALA MADRID!
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
แก้ไขล่าสุดโดย sabulux เมื่อ Fri Oct 06, 2023 16:14, ทั้งหมด 1 ครั้ง
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: heyy
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Aug 2023
ตอบ: 215
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 06, 2023 17:04
[RE: 10 ข้อ หลังรับชมสารคดีชีวิต "BECKHAM"]
ผมที่ดูไม่ทัน Beckham พอได้ดูแล้วฟูลฟีลมากจริงๆ เหมือนเราได้อยู่ ณ เหตุการ์ณตอนนั้นไปด้วยเลย ชีวิตของ Beckham เหมือนตัวละครในหนังจริงๆ มีทั้งเรื่องที่ยากจะรับมือไหว สุดท้ายก็ผ่านมันมาได้ลองคิดถ้าเป็นเรา ผมคงยอมแพ้ไปแล้ว Respect จริงๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
MANCHESTER UNITED
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status: เง่น
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 3835
ที่อยู่: London
โพสเมื่อ: Fri Oct 06, 2023 17:45
[RE: 10 ข้อ หลังรับชมสารคดีชีวิต "BECKHAM"]
ขนาดไม่ใช่แฟนแมนยูผมยังโคตรอิน ยอมรับเลยว่าโตมาพร้อมชื่อเสียงของพี่เบ็ค
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Blue is the colour

ออฟไลน์
Nb5
แข้งบุนเดสลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Dec 2006
ตอบ: 5457
ที่อยู่: In My Mind O_o'
โพสเมื่อ: Fri Oct 06, 2023 22:38
[RE: 10 ข้อ หลังรับชมสารคดีชีวิต "BECKHAM"]
ก่อนดูเกลียดวิคตอเรียไงไม่รู้ แต่ดูไปสักพักสงสาร ยิ่งช่วงเบ็คแฮมโดนแดงบอลโลก
เมียตั้งท้องก่อนแข่งนึงวันแล้วตัวเองโดนใบแดง โดนคนทั้งประเทศสาปแช่งทั้งถ่มน้ำลายใส่ขู่ฆ่าขู่ลักพาตัวลูก
โดนเอาหุ่นจำลองแขวนขอ เมียโดนร้องเพลงล้อทั้งฤดูกาล ยังผ่านรับมือได้จนพีคติดท็อปสองยอดเยี่ยมฟีฟ่า
แต่ดูไป เบ็คแม่งหลงเมียอย่างหนักช่วงคบแรกๆ บินสี่ชมเพือไปอยู่กันแค่30นาที ขับรถ4ชมเพือเจอ30นาทีงี้ ยอมใจ ฮ่าๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 4213
ที่อยู่: กลางสนาม
โพสเมื่อ: Sat Oct 07, 2023 11:11
[RE]10 ข้อ หลังรับชมสารคดีชีวิต "BECKHAM"
Nb5 พิมพ์ว่า:
ก่อนดูเกลียดวิคตอเรียไงไม่รู้ แต่ดูไปสักพักสงสาร ยิ่งช่วงเบ็คแฮมโดนแดงบอลโลก
เมียตั้งท้องก่อนแข่งนึงวันแล้วตัวเองโดนใบแดง โดนคนทั้งประเทศสาปแช่งทั้งถ่มน้ำลายใส่ขู่ฆ่าขู่ลักพาตัวลูก
โดนเอาหุ่นจำลองแขวนขอ เมียโดนร้องเพลงล้อทั้งฤดูกาล ยังผ่านรับมือได้จนพีคติดท็อปสองยอดเยี่ยมฟีฟ่า
แต่ดูไป เบ็คแม่งหลงเมียอย่างหนักช่วงคบแรกๆ บินสี่ชมเพือไปอยู่กันแค่30นาที ขับรถ4ชมเพือเจอ30นาทีงี้ ยอมใจ ฮ่าๆ  


น่าจะเป็น 30 นาที ที่มีความสุขที่สุดยอดครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน




ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel