ซินญอร์ พิงค์ จากวันพีซ ในชีวิตจริง
#ลูกชายที่ปลอมตัวเป็นผู้หญิงเพื่อแม่…
จู เมิ่งซุน ชายวัย 60 ปีรูปร่างผอมสูงปลอมตัวเป็นผู้หญิงมากว่า 20 ปีแล้ว โดยเขามักจะสวมชุดกี่เพ้ารัดรูปตลอดเวลา ผู้คนในเมืองกุ้ยหลิน มณฑลกวางสีต่างพบเห็นกันจนชินตา อันที่จริงแล้วเขาไม่ใช่ผู้ชายที่มีใจเป็นหญิงและไม่ใช่นักแสดงโชว์แต่อย่างใด น้อยคนนักที่จะรู้เรื่องราวอันน่าเศร้าที่อยู่เบื้องหลังของชายคนนี้...
จู เมิ่งซุน เกิดที่เมืองผิงเกิล มณฑลกวางสี เป็นลูกคนกลางในพี่น้อง 3 คน พ่อเสียชีวิตไปตั้งแต่ที่เขายังเล็ก ต่อมาพี่ชายได้แต่งออกไปอยู่ที่บ้านของภรรยาในหูหนาน ทำให้หน้าที่ดูแลแม่และน้องสาวตกเป็นของเขานับจากนั้นเป็นต้นมา
ต่อมาในปี 1987 ขณะน้องสาวอายุ 18 ปีก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดฉับพลันทำให้จู เมิ่งซุน ทุ่มเงินเก็บที่มีอยู่เพื่อใช้ในการรักษาแม้ว่าจะต้องกู้หนี้ยืมสินมาแต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของน้องสาวเอาไว้ได้
การเสียชีวิตของลูกสาวทำให้ผู้เป็นแม่ถึงกับซ็อคหมดสติไป หลังจากรู้สึกตัวขึ้นมากลางดึกเธอก็เดินไปที่ห้องของลูกสาวและใช้เวลาอยู่ในนั้นจนกระทั่งเช้า ตั้งแต่นั้นเธอก็มักจะบอกกับทุกคนว่าลูกสาวไปทำงานที่ต่างเมือง
จู เมิ่งซุนแต่งงานตอนอายุ 31 หลังจากนั้นไม่นานภรรยาก็ตั้งท้องลูกคนแรกซึ่งมันทำให้แม่ของเขามีความสุขและมีชีวิตชีวาขึ้นมาก แต่ดูเหมือนว่าความสุขจะอยู่กับครอบครัวนี้ได้ไม่นานภรรยาของเขาเสียชีวิตพร้อมทารกในครรภ์ขณะคลอด
ในตอนนี้เขารู้สึกว่าหมดอาลัยตายอยากในชีวิตจนคิดที่จะฆ่าตัวตาย แต่เมื่อหันกลับมามองแม่ที่สมองเลอะเลือนไม่สามารถดูแลตัวเองได้ก็ทำให้ได้สติเลิกคิดที่จะทำร้ายตัวเอง แล้วอุทิศตัวเพื่อดูแลแม่ที่แก่ชราลงทุกวัน
เคยมีคนแนะนำจู เมิ่งซุนให้หาเด็กสาวซักคนมาแกล้งทำเป็นน้องสาวที่เสียชีวิตเพื่อปลอบประโลมความรู้สึกของแม่ แต่เขากลับคิดว่านี่ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ดีในระยะยาว หลังจากคิดหาหนทางที่จะทำให้แม่มีความสุขจู เมิ่งซุนก็ตัดสินใจที่จะสวมใส่เสื้อผ้าของน้องสาวผู้ล่วงลับเพื่อสวมรอยเป็นเธอ ซึ่งโชคดีที่เขาสวมมันได้พอดี
ตอนแรกจู เมิ่งซุนคิดว่าจะปลอมตัวเป็นน้องสาวเพียงครั้งคราวแต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของผู้เป็นแม่ก็ทำให้เขารู้สึกพลอยมีความสุขไปด้วย แต่จุดที่ทำให้เขาตัดสินใจจะแต่งกายเป็นหญิงตลอดเวลาก็เนื่องมาจากหลังจากที่เขาสลับไปสวมใส่เสื้อผ้าผู้ชายแม่ก็เอาก็เอาแต่ร้องไห้ด้วยความเสียใจเพราะคิดว่าลูกสาวได้จากไปแล้ว
โชคดีที่เพื่อนบ้านต่างก็เข้าใจแถมยังสนับสนุนด้วยส่งเสื้อผ้าผู้หญิงไปให้กับจู เมิ่งซุนเพื่อเอาไว้ใส่เนื่องจากทราบว่าเขามีฐานะไม่ค่อยดีนัก
8 ปีที่แล้วแม่ของเขาเกิดหกล้มทำให้ขาซ้ายไม่สามารถรับน้ำหนักได้ทำให้เดินเหินลำบาก จู เมิ่งซุนจึงตัดสินใจลาออกจากงานแล้วพาแม่ไปอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองกุ้ยหลินเพื่อความสะดวกในการพาแม่ไปหาหมอ
เขาพยายามฝึกเป่าขลุ่ยเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับแม่นอกจากนี้เขายังได้รับบริจาครถสามล้อไฟฟ้าจากผู้ใจบุญไว้พาแม่ไปไหนมาไหน ในบางครั้งเขาก็จะไปเปิดหมวกเป่าขลุ่ยในที่ชุมชนเพื่อรับบริจาค หลายคนพากันชี้ชวนกันมองมาที่เขาราวกับเห็นสิ่งแปลกประหลาด บางคนถึงกับมาดุด่าว่าทำตัวไม่เหมาะสม
จู เมิ่งซูในวัย 60 ปีครองตัวเป็นโสดนับตั้งแต่ภรรยาเสียชีวิตและอุทิศชีวิตส่วนตัวเพื่อความสุขของแม่ โดยไม่สนใจปฏิกิริยาในแง่ลบจากคนที่ไม่เข้าใจ เคยมีคนถามว่าจะแต่งตัวเป็นผู้หญิงอีกนานซักแค่ไหนเขาตอบว่า
...”ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน หากว่าแม่มีอายุถึงร้อยปีผมก็จะยังคงทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ”...
...”แต่หากวันใดที่แม่เสียชีวิตไปแล้ว ผมค่อยกลับมาแต่งตัวเป็นผู้ชายอีกครั้ง”...