จะโทษเจ้าของทีมต้องโทษแฟนบอลอย่างเราด้วย
ขนาดแฟนบอลเองยังเอะอะจะซื้อๆๆๆ คิดไรไม่ออกซื้อๆๆๆ
เดียวถ้าซื้อแล้วไม่ดีก็นึกขึ้นมาได้อีก ว่าควรซื้อแบบนั้นแบบนี้
ก็ไม่ต่างกับเจ้าของทีมหรอกแบบนั้น

ต้องเข้าใจก่อนว่ามันคือบริษัท คือที่ทำงาน การทำงาน
เอาให้คนข้างในรู้สึกเหมือนบ้าน ทำงานแล้วรู้สึกว่าต้องทำให้ดีเพราะต้องอยู่ไปอีกนานก่อน
ไม่ใช่สิ้นปีกุจะได้ย้ายไปไหน มีแต่เด็กฝึกงานเต็มบริษัท ใครจะไปสนใจบริษัทจริงๆ

เรื่องแผนก็ส่วนนึง แต่เอาจริงๆผมว่าเรื่องการจบสกอร์ในสนามค่อนข้างห่วยกันทุกคนการตัดสินใจจังหวะสุดท้ายคือแย่หมดเลย ถ้าแก้จุดนี้ได้จริงผมว่าอันดับเราคงดีกว่านี้เยอะ

ความคมในตอนนี้ ส่วนนึงมันเป็นปัญหาเรื่องความมั่นใจในตัวบุคคลเลย

จะให้กลับมามั่นใจนี่อาจต้องใช้เวลา

ง่ายสุดคือซื้อ กองหน้า เพิ่ม

แต่ไม่รู้ พอช จะอยู่ถึงตลาดมกรามั้ย

ผมแปลกใจกับโคลวิลล์มากที่สุดละ

ทำไมเหมือนมีสัญญาว่าต้องลงเป็นตัวจริงเลย

อีกเรื่องคือ ทำไมนักเตะอายุน้อยถึงกล้าเซ็นยาวด้วยค่าเหนื่อยที่ไม่สูงนัก ตัวเอเยนต์ไม่น่าจะชอบนะ พวกนี้มันอยากได้เงินกินเปล่าจากการเซ็นสัญญา ยิ่งเซ็นถี่ ยิ่งค่าเหนื่อยแพง เอเยนต์ก็ยิ่งส่วนแบ่งเยอะ เหมือนไรโอล่า


ไม่มีการจ่ายแบบขั้นบันไดเหมือนอเมริกันเกมแน่หรือ

ถ้าช่วงซัมเมอร์เสริมตัวรุกกับกองหน้าที่พร้อมใช้งานได้เลย
ผลลัพธ์มันอาจจะออกมาอีกแบบก็ได้
แต่นี้กลับตั้งเกณฑ์อายุห้ามเกิน 25 ปีนะ
เพื่อจะมีอายุใช้งานได้นาน และพัฒนาได้ในอนาคต
ดูๆ แล้วมันตลกนะ แทนที่จะค่อยๆ ปรับ
ผสมระหว่างดาวรุ่งกับผู้เล่นมีประสบการณ์
มันจะได้หวังผลระยะสั้นและระยะยาวไปด้วย
เหมือนที่ Newcastle ทำอยู่

คีย์เวิรด ของบทความยืดยาวอันนี้ มันอยู่ที่ประโยคเดียว

"ถ้าแฟนเชลซีอดทนได้"

แค่นั้นเอง

ช่วงนี้ก็รอแพ้ทุกเกมไปเลยครับ ปิดไฟนอนเร็ว

อีก 3 ปีค่อยกลับมาลุ้น เพราะมันสร้างที่เพื่อประสบความสำเร็จในอนาคต ไม่ใช่ประสบความสำเร็จ ณ ตอนนี้

เข้าใจตรงกันนะ

แล้วอีกอย่าง โปรเจ้กทีมพลังหนุ่มอะไรนี่เป็นไอเดียของ ผบห ไม่ใช่ของพอช ดังนั้น พอชคงไม่สำคัญเท่าไร ถ้าทำไม่ได้ เดี๋ยวมันก็ไล่พอชออกแล้ว แต่โค้ชคนใหม่ที่จะเข้ามา ก็ต้องมาสานต่อโปรเจ็คทีมพลังหนุ่มนี่ต่อไป ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะไปรอดป่าวอีกเช่นเคย

และก็คงจะไม่ใช่ท้อปโค้ชแน่นอน ถ้าจะเซ็นเข้ามาเพื่อทำโปรเจ็คของ ผบห ไม่ใช่ในแบบที่โค้ชต้องการ ดังนั้นหวยมันก็จะไปออกที่โค้ชเกรดระดับเดียวกับพ้อช ถ้าหาไม่ได้ ก็คงจะไปเอาโค้ชเกรดต่ำกว่ามา

น่าจะแย่ไปอีกนานอ่ะ เชลซี

- โคลวิล เหมือนเคยสัมภาษณ์ว่าไม่ได้ขอการันตีต้องลงตัวจริงนะ


ผมว่าถ้าดูจากวิธีการเล่นของ พอช เอาตั้งแต่ตอนพรีซีซั่น


แกจะใช้แบ๊คข้างนึงเป็นตัวกึ่งยืนเน้นรับเลย ตอนพรีซีซั่น ฝั่งขวาก็ กุสโต ส่วนซ้ายก็ โคลวิล หรือ คูคู


ตอนนี้อาจจะเพราะ บาเดียชิล ก็เจ็บ + คูคู ฟอร์มตก และ ป่วย ก็เลยเหลือแค่ โคลวิล ที่ยืน เซ็นเตอร์ซ้าย + แบ๊คซ้าย ได้ ก็เลยเข็นมันลงล่ะมั้ง


ต้องรอดูนัดหน้า กุสโต โดนแบน มีโอกาสจะได้เห็น

- ดิซาซี่ ยืนแบ๊คขวา แต่ยืนเน้นรับ ( เหมือน โคลวิล ตอนยืน แบ๊คซ้าย )

- แล้วให้ ชิลเวล ยืนแบ๊คซ้ายที่เติมรัวๆเอา ( เหมือนตอน กุสโต ลงสนามในลีค )

- แล้ว โคลวิล จะมาเป็น เซ็นเตอร์ คู่ ซิลวา แทน


แต่ถ้านัดหน้ายัง โคลวิล แบ๊คซ้าย ดิซาซี่ แบ๊คขวา อันนี้ผมว่าแปลกๆละ



- ส่วนค่าเหนื่อย เหมือนจะให้เงินต้นน้อย แต่ไปเพิ่มโบนัสจากผลงานเยอะๆแทน เพราะงั้นถ้าผลงานดีก็น่าจะได้เพิ่มกัน


มันมีข่าวบอกว่าส่วนนึงที่เลือกนักเตะอายุน้อย เพราะไม่ค่อยเรื่องมากเรื่องค่าเหนื่อย เลยเจรจาค่าเหนื่อยง่ายกว่า ( พวกอายุเยอะ จะคิดถึงความมั่นคงทางการเงินมากกว่า )

ข้อ1 ดูกันยาวๆ 2-3ปี ว่าจะคุ้มหรือ deadwood ตัวที่ซื้อมาแพงๆ และจะมีลูกงอแงมั้ยถ้าทีมไม่ได้เล่น ถ้วยยุโรป

ข้อ2 ปัญหาใหญ่เลย ตลาดนี้ พรีซีซั่นบ้าอะไร กลายเป็นพรีซีซั่นตัวปล่อยยืม 11คนตัวจริงไม่เคยได้เล่นพร้อมกัน ส่วนนึงคือซวย nkuku แต่ถ้าไม่นับ ก็คือ ไม่มีแผนสำรอง squad ยังมั่วจนถึงทุกวันนี้

ข้อ3 เรื่อง เจ็บ ความซวย ที่ทำได้แค่ป้องกัน และคัดมาให้ดีกว่านี้ แต่โค้ชที่เก่งต้องพาทีมให้รอด หรือ มีแต้มให้ได้ เหมือนเล่น fm หรือ พอตเตอร์ เจ็บระนาว ก็ต้องหาทางทำให้ทีมมีแต้ม สภาพทีมพอตเตอร์ ดิ่งกว่านี้ ปัญหาผู้บริหารภายในก็ไม่มีใครทราบ

เรื่อง กองหน้า ไม่ส่งสัย แจ็คสัน เพราะพรีซีซั่นเล่นได้ดีเลย แต่สงสัยทำไมถึงไปไว้ใจ โบรย่า ยิ่งเจ็บหนักด้วย และก่อนเจ็บก็ไม่ได้คม พอมาเล่นกับเชลซี ดูจากนัดล่าสุดยังรู้สึกหุ่นตันๆ ท้วมๆ ไม่ลีนเหมือนก่อนเจ็บ และยังไม่ได้เล่นชุดเล็กเลย


ปัญหาทั้งหมด พอช รับไปเลย 70% ไม่อินดี้ แต่เหมือนมีใบสั่งให้ต้องเอาคนนี้เล่น และเหมือนมีแผนในฝันแค่1-2แผน ก็ดันทุรังเล่นไปเรื่อย ๆ เพราะเชื่อนักเตะเดี๊ยวปรับตัวให้เล่นตามแผนได้ แต่ไม่เคยซ้อม และนักเตะแทบไม่เคยเล่นตำแหน่งนี้ ไม่ให้อิสระนักเตะในการรุก เหมือนตั้งแต่ยุค ทูเคิล ห้ามเสียบอล ถ้าทำอะไรไม่ได้ ส่งหาเพื่อนกลับหลัง ok นักเตะเลยเล่นกันค่อนข้างเซฟ

ผมว่าน่ะ เจ้าของทีมไม่รู้เรื่องฟุตบอลมากพอเนี้ยแหละปัญหาหลักเราตอนนี้ แล้วนโยบายเน้นเซ็นเด็กดาวรุ่ง ผมมองว่าอัตราส่วนมันเยอะไป ควรหา DOF ที่รู้เรื่องบอลและบริหารเก่งๆ เหมาะกับทีมใญ่มาสัก 1 คน (เช่น หลุยส์ คัมโปส , อันเดรีย เบอต้า ยกตัวอย่างเฉยๆ เอาแบบแนวๆ นี้) ส่วนไอ้พวก วินสแตนลีย์ , สจ๊วด เหมาะไปเป็นตำแหน่งแมวมอง , คัดสรร ไรก็ว่าไป เพราะทีมต้องการคนที่มาเคาะเลือกโค้ช แล้วนักเตะ ให้เหมาะสมเข้าชุดใหญ่ด้วย อาจจะเสริมตัวเก๋ามาช่วยบ้างประมาณนี้

ตอนนี้ทีมขาดนักเตะแมทช์วินเนอร์สุดๆเลย มองย้อนไป เมื่อก่อนเรามี อลอนโซ่ ดรอกบา อาซาร์ แลมพาร์ด ที่ชอบยิงในเกมส์ที่ฝืดๆ ซึ่งทีมลุ้นแชมป์มันต้องมีอะไรแบบนี้จริงๆ

ตำแหน่งที่ว่างอยู่ก็ ผอเทคนิค ที่ วีเวลล์ ลาออกไป

ถ้าจะปรับโครงสร้างจริงๆ หา ผอเทคนิค ที่เป็นสายบริหาร มาช่วยคนนึง คอยวางแผนทำทีม เสริมทัพ ดูภาพรวมทั้งหมด


วินสแตนลี่ย์ กับ สจ๊วต ก็เป็น ผอกีฬา ไป แต่เน้นเรื่องส่องนักเตะ หาดาวรุ่งไป ไม่ต้องวางแนวทางเสริมทัพ + ไปช่วยเรื่องสโมสรลูกด้วยก็ได้ ยังไงก็กะจะหาดาวรุ่งส่งสโมสรลูกอยู่ละ ก็ดูแลรวมๆไปเลย



ส่วนนักเตะในทีมตอนนี้ หากองหน้าเพิ่มก่อนเลย และต้องเป็นตัวพร้อมใช้งานที่ไม่เกี่ยงเรื่องอายุด้วย


ในอนาคตพวกที่เกิน 25 อีกก็อาจจะ โกลมือ 1 อีกซักคน


วางแกนหลักๆในทีมตัวจริงให้มันแน่นก่อน หลังจากนั้นค่อยไปฟาร์มดาวรุุ่งตามนโยบายเดิม

นโยบายมันย้อนแย้งอะ อยากปั้นนักเตะใช้เด็ก ทำทีมเพื่ออนาคต

แต่ทำด้วยการซื้อดาวรุ่งราคาแพงระดับโลกเนี่ยนะ มันจะเรียกว่าปั้นได้ไงอะ

ฟุตบอลมันไม่ใช่แบบอเมริกันเกมส์ที่ระบบลีค ระบบการแข่ง มีเพลย์ออฟ งงไปหมด

โบลี่ย์และคณะ เหมือนคนรวยแต่ไม่มีความรู้ ลองผิดลองถูกกับเชลซีจนเละไปหมด

ผมว่าเชลซีไม่น่ากลับมาได้เร็วๆนี้ และพอชเตรียมตัวชะตาขาดไม่เกินตลาดหน้าหนาวปลิวชัวร์

ที่ตอนพอตเตอร์ไม่กล้าไล่เพราะบ้าจี้เซ็นมา 5 ปี พอชสัญญา 2 ปี ผมว่าไม่มีทางอยุ่นานเท่าพอตเตอร์แน่

มีแต่ตัวเก่งๆ

ทีมที่ถมดาวรุ่งเยอะๆ มีโอกาสขาดทุนสูง ยิ่งซื้อทับตำแหน่งเยอะๆ

แบบเชลซี โอกาส Deadwood สูงมาก

ลาเวีย พาลเมอร์ อูโก ชุควูเมก้า มูดริด เมดูเอเก้ แกงค์นี้เสี่ยงขาดทุนสูงมาก

เพราะตำแหน่งตัวจริง มีจำกัด โอกาสขายได้ราคาดี ยากมาก กับต้นทุนที่ซื้อมา

อนาคตบ้านป้ามัน ซื้อราคาระดับโลกมาปั้น

เอาราคาที่ซื้อถมๆ ไปจัดตัว Tier S A ได้สอง สามตัว ตอบโจทย์กว่าเยอะ