ของผม เริ่มต้นจากความเป็นหนี้ เหนื่อยมากครับ ทะเลาะกันบ่อยด้วย เรื่องเงินไม่พอใช้
กว่าจะดีขึ้น ผมว่าคุยกันให้ดีเถอะครับ

ยอมรับไปตามตรงครับ เรื่องสินสอดผมก็ไม่ได้ชอบ แต่วัฒนธรรมของแต่ละบ้าน มีบททดสอบลูกเขยอยู่แล้ว

ไม่ด้วยเงิน ก็ด้วยการกระทำ ความสามารถ สักอย่างหนึ่ง แต่อย่างเดียวที่เราทำได้คือ จริงจัง จริงใจ จบ

บอกแฟนตรงๆ ไม่มี
ให้แฟนไปคุยให้

ขอเตือนสิ่งแรกที่ไม่ควรทำคือ ไปกู้เงินมาแต่นะครับ
เพราะมันจะทำให้ต้นทุนชีวิตครอบครัวติดลบไปอีกหลายปีแน่นอน
ไม่พอคือไม่พอ ยังไม่มีคือไม่มี ลองคุยกันตรงๆครับ

เอาตรงๆนะ เห็นแค่นี้ก็เหนื่อยแทนล่ะ ทั้งกายและใจ เดี๋ยวจะเจออะไรอีกเยอะ

ถ้าคิดจะแต่งเอาพ่อแม่ฝ่ายเรา ไปคุยกับพ่อแม่ฝ่ายหญิงให้ชัดเจน แล้วให้เขาพูดกันตรงๆว่าเรียกสินสอดเท่าไหร่ พ่อแม่เรารับได้หรือมีเท่าไหร่ เช่ามาวางได้ไหม จบงานแล้วทำอย่างไร

ส่วนตัวไม่ชอบประเพณีแบบนี้เลย ถ้าต้องเอามาวางครบตามประเพณีแล้วคืนอันนี้ไม่ว่า เคยทะเลาะกับครอบครัวตอนพ่อแต่งงานใหม่เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ฝั่ง ญ เรียก 2 แสน ทอง 8 บาท ตอนนั้นทั้งบ้านคุยกันว่าจะเอาเงินจากไหนเพราะถ้าเอาเงินสดไป คือ บ้านจะไม่มีเงินสดเหลือเลย พ่อบอกจะกู้ เลยด่าไปว่าจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการเป็นหนี้นี่นะ เพราะฝ่ายนั้นเขาไม่คืนสินสอดด้วย สุดท้ายก็ไปกู้จริงๆ เอาบ้านไปเข้าธนาคาร ผมเลยด่าสาปเลย ผลสุดท้ายแต่งได้ 6 เดือน แม่ยายตาย

ฝ่ายหญิงควรช่วย defend ตามความเป็นจริงครับ ถ้าท่านสองคนรักกันจริง ต้องมองตามความเป็นจริงทั้งคู่ครับ ปจบ. ผมก็ แบกแฟนเยอะมากๆ รวมถึงพ่อแม่แฟนในบางโอกาส พ่อแม่แฟน เกริ่นเรื่องนี้มา ผมบอกว่า ขายของที่ลงทุนให้นั่นแหละ สินสอด คือถ้าช่วงที่เราต้องสร้างตัว การแต่งงานเป็นเรื่องรองเลยครับ ไม่พร้อมก็คือไม่พร้อม อย่าไปฝืน

บอกได้อย่างเดียว อย่าไปกู้มาน่ะครับ

ไม่ไหวก็ปล่อย

ต้องไปคุยกับทางบ้านแฟนดีๆน่ะครับ

ว่าสินสอดนั้น จะแค่ให้ไปวางเฉยๆ หรือ เอาไปเลย

ถ้าวางเฉยๆ หยิบยืม กู้ เอาครับ

แต่ถ้าเอาไปเลย แล้วท่านไม่มี

ก็อาจจะต้องถอยน่ะครับ ก็คบกับแฟนต่อไปเรื่อยๆไม่ต้องแต่ง

4 แสนเอาไปซื้อรถมือสองดีกว่าซื้อผญอีกครับ

ผมถามแฟน อยากแต่งมั้ย ไม่จัดนะงานอ่ะ จบ แม่ผมก็คะยั้นคะยอให้เก็บตังแต่งงานจัด เอาเงินมาผ่อนบ้านดีกว่า

ผมก็เคยโดนสถานการณ์แบบนี้นะ ผมเคยได้ยินเสียงพ่อแม่แฟนถามถึงผม เห็นคบกันมานาน อยากให้จัดแต่งงานสักที ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆ

แต่แฟนผมออกตัวแทนเลยว่า ผมเพิ่งซื้อบ้าน ยังสร้างตัวอยู่ เดี๋ยวเรื่องงานแต่งแฟนผมจะคุยเอง

หลังจากนั้นที่บ้านเขาก็ไม่ถามเรื่องแต่งแล้วครับ มีแต่ผมนี่แหละที่พูดกับเขาว่ายังไงก็อยากจัด แต่ปีสองปีนี้ผมคงต้องเคลียร์ภาระหนี้สินให้เรียบร้อยก่อน

ถ้าท่านรวมทองด้วยมัน 6แสนกว่าเลยนะครับ
คือได้รถซีดานดีๆใช้ทำมาหาแดกได้เลย
หรือถ้าชีวิตติดสนุก ได้มอไซค์ตัวพันหลายรุ่นเลย

ต้องคุยให้เคลียครับ

เริ่มจากตัวแฟนท่านก่อนว่าเอาไง คุยกับทางบ้านได้มั๊ยว่า ลดลง หรือ ช่วยกันเก็บ

แต่ไม่ให้นะ ต้องคืน บลาๆๆ

ของผมโชคดี คุยกันว่า จะเก็บช่วยกัน ตั้งไว้ที่ 400,000 + ทอง 5 บาท

วันแต่ง พี่ชายแฟนบอกว่า อ่ะให้ยืมอีกแสนนึง จะได้เป็น 5 แสน ทอง 5 บาท

สุดท้ายพ่อแม่แฟนคืนหมด แต่ผมให้ทองแกไว้ แกบอกว่า แกเก็บไว้ให้นั่นแหละ

ถ้าแกไม่อยู่ ก็ของผมกับแฟนนั่นแหละ แกยกที่ให้อีกผืนนึง 4-5 ไร่ สรุปจบสวย

สินสอดผม ยืมแม่เมียด้วยครับ 555 ตอนนี้ยังใช้ไม่หมดเลย แต่ท่านสุดยอด เข้าใจทุกอย่าง ผมกับแฟนก็เข้าใจกัน คุยกันรุ็เรื่อง สบายใจ ลองเปิดใจคุยกันดูครับ หมดทุกฝ่ายเลย เป็นกำลังใจให้ครับ