อย่างผมอยู่บ้านก็เคยอยู่แค่ทาวเฮ้ากับตึกแถว
แต่ตอนสมัยเรียนกับทำงานตจว ก็อยู่หอพัก อย่างมากก็สูงแค่3ชั้น

ปัจจุบันพึ่งย้ายมาทำงานในกทมได้ไม่นาน เคยอยู่คอนโด low rise มี8ชั้นผมอยู่ชั้น7 ก็ไม่ได้คิดอะไร
จนตอนนี้ย้ายมาเช่าใกล้ที่ทำงาน เป็น high rise 20ชั้น
มานั่งๆนึกๆดู ก็เสียวๆเหมือนกัน คนร้อยพ่อพันแม่ อยู่รวมกันตึกเดียว เกิดพวกปลั๊กพ่วง
หรือใครสักคนสูบบุหรี่แล้วจัดการไม่ดีอาจจะไหม้ได้
อย่างตึกผม ชั้น1เป็นล้อบบี้ 2-3ที่จอดรถ ผมอยู่ชั้น5 ดีหน่อยตรงห้องติดบันไดหนีไฟ
ทุกวันนี้ก็แอบกลัวๆว่าพวกระบบ ดีเทคควัน ระบบสปริงเกอฉีดน้ำมันจะทำงานได้จริงไหม
เกิดไหม้จริงขึ้นมาจะทำไง
แต่ตัวผมเตรียมกระเป๋าไว้+ดูทางหนีที่ไล่เผื่อไว้ละ
เกิดไหม้ขึ้นมาหยิบของสำคัญหนีลงบันไดอย่างเดียว ที่เหลือค่อยว่ากัน

ตอนอยู่ก็ไม่ได้คิดถึงนะ แต่มีครั้งนึงข้างห้องน่าจะดูดกัญชา(แฟนเคยได้กลิ่นตอนไปที่ระเบียง) แล้วทีนี้สัญญาณเตือนไฟไหม้ดัง แล้วมันบอกด้วยสัญญานไฟที่หน้าห้องว่าเตือนมาจากห้องไหน ซึ่งเป็นห้องที่แฟนคิดว่ามันดูดกัญชานั่นแหละ แล้วมันก็ไม่ออกมาซักที แล้วต้องเดินลงบันได 23 ชั้นเพื่อลงไปข้างล่าง ร้อนก็ร้อน ดึกก็ดึกแล้วพอคลี่คลาย ต้องรอขึ้นลิฟกันเป็นร้อยคนแถมไอเจ้าของห้องก็อยู่ด้วยนะ ปวดหัวเลย

ไม่เท่าไหร่

ไม่นะครับ คอนโดมาตรฐานสูงอยู่ ระบบเตือนไฟไหม้ก็ตรวจสอบบ่อยครั้ง ระบบดับเพลิงก็มี ทางหนีไฟก็ชัดแถมได้มาตรฐาน ซ้อมหนีไฟก็จัดทุกปี มันคุ้นชินกว่า

กลับกัน บ้านที่คุณแม่จัดเหล็กดัดจนไม่เหลือความมินิมอลนี่น่ากลัวกว่าเยอะ ฉุกเฉินขึ้นมา เหล็กดัดนี่นอกจากกันคนเข้าแล้ว เราก็น่าจะออกไม่ได้ง่ายๆ แถมจัดเต็มซะด้วย กุญแจไม่รู้กี่ดอก

ไม่กลัวไฟไหม้ แต่กลัวไฟดับ จากคนเคยอยู่ชั้น 11

ไม่

คอนโดไฟไหม้ เซฟกว่าบ้านเยอะครับ กฏหมายเค้าดักไว้หมด ทางหนีไฟต้อง 2 อันขึ้นไป สปริงเกอร์ วัสดุคอนโดไม่ติดไฟอยู่แล้ว ยกเว้นตกแต่งในห้อง แล้วก็มีคนอยู่ตลอดเวลา มีนิติพร้อมช่วยดับไฟตลอดเวลา ระบบไฟระบบน้ำเค้ามีเช็คตลอด ถังดับเพลิงพร้อม แล้วก็แทบทุกคอนโดมันมีประกันไฟไหม้ให้ อย่างน้อยไฟไหม้ห้องขึ้นมาจริงๆก็มีประกันช่วยให้

กลับกัน บ้านคน เอาแค่ถังดับเพลิงน่ะ ถามว่าจะมีซักกี่บ้าน นับจำนวนได้เลย

อยู่ใกล้บันไดหนีไฟก็อย่าไว้วางใจครับ

ควรหมั่นเดินไปตรวจดูบ่อย ๆ ท่านก็รู้ว่าที่นี่เมืองไทย เกิดเจอเหตุไม่คาดฝันอย่างเช่น

ไฟดับแล้วต้องเดินขึ้น น่ากลัวกว่า

กลัวลิฟเสียมากกว่า