ต้องยอมรับเลยครับว่าหมดยุคป๋าไปแล้วแมนยูแทบจะไม่เข้าใกล้ความสำเร็จในการคว้าแชมป์ได้เลย ถึงแม้จะมีถ้วยเล็กๆติดมือมาบ้าง

สิ่งที่ยังขาดหายไปที่เเตกต่างจากยุคป๋าก็คือจิตวิญญาณความกระหายอยากเอาชนะครับ คือที่เห็นความกระหายมากๆต้องย้อนไปที่ยุคโซลชามาคุมชั่วคราวก่อนได้สัญญาจริง ตอนนั้นคือเล่นแบบใจมาเต็มๆสุดๆครับ

กลับมาที่ยุคปัจจุบันแม้ว่าเทน ฮาก จะมีความเด็ดขาดเรื่องเคร่งเรื่องวินัยมากๆ แต่กลับไม่ได้ทำให้เห็นว่านักเตะมีความกระหายขึ้นจากฤดูกาลที่เเล้วเลย ปีที่เเล้วสิ่งที่เราเห็นบ่อยๆคือเวลาสกัดบอลได้ หรือช่วยกันป้องกันการเสียประตูได้ จะเห็นนักเตะเข้ามาแท็กมือเเบบเเพลสชั่นมาเต็มๆ

พอมาฤดูกาลใหม่เริ่มตั้งแต่นัดเเรกมานัดที่สอง เราเห็นได้ชัดว่าเล่นแบบส่งๆไม่มีความกระหายอะไรเลย แบบหมดอาลัยตายอยากก็ว่าได้ครับ

สุดท้ายนี้ผมแฟนผีคนนึงยังไม่หวังจะไปแชมป์ลีคอะไรเลยครับ ลุ้นท้อป 4 อาจจะยังยากเลยปีนี้ และดูจากสภาพทีมที่มีนักเตะตอนนี้ขนาดทีมแทบจะเล็กลงจากปีที่แล้วอีกครับ โดยเฉพาะเเดนหน้าและกองกลาง

ทีมมีแต่นักเตะอีโก้ที่ไม่ดีมากเกินไป คือไม่ใช่อีโก้นักสู้ แต่เป็นอีโก้เอาแต่ใจ

น่าจะเพราะขาดผู้นำที่ดี ตั้งแต่บริหารลงมาถึงผู้จัดการทีมแต่นักเตะ

ได้คาราบาวคัพละหมดแพสชั่นละชุดนี้ 5555

ต่อสัญญาไอ้แรชให้มันสามแสนคือส่งที่พลาดที่สุด กลับมาแอ๊คอาร์ทเหมือน ปล่อยไปจบแล้วทีมสปรีรตไม่เสียด้วย

ใช้เงินระดับเดียวกับแมนซิ แต่ผลลัพธ์​ทำได้แค่นี้

ผมว่าสิ่งที่ขาดคือ "สมอง" ครับ

ต้องกล้าล้างแบบที่เชลซีทำตอนนี้อ่าผมว่านะ ยอมปล่อยขาดทุน เพื่อกู้หรือรีเซ็ท ทุกอย่างใหม่หมด

สร้างใหม่น่าจะง่ายกว่าซ่อมแซมแหละ

เอาบรูโน่ออกไปก่อนเลย พอหลุดทีไร พังทั้งทีม แล้ว 50 นัด แม่งหลุดไปซะ 10-20 นัด

ใช้เงินระดับเดียวกับแมนซิ แต่ก็ไม่คิดจะเอาเปรียบคนอื่นเดือดร้อนช่วงโควิด มีแต่ทีมขยะๆเท่านั้นที่คิดจะทำอะ ขยะจัดๆ

ยุคป๋าใครฟอร์มตกแกดรอป แล้วนักเตะบางคนมันสู้ก็จะกระหายอยากกลับมาเก่ง

อย่างบรูโน่ แรช นี่ไม่โดนดรอป ดรอปก็ไม่ได้ ไม่มีใครเล่นแทน

คือมันก็ยังไงเข็นๆไปได้ประมาณนึง

ใช่ ใช้เงินโง่ๆพอโดนแบนก็มาสมัครใหม่ สิ่งที่ขาดคือ สมอง จริงๆว่ะ

อย่าพูดมาก ครูกายแก้วยูไนเต็ด

ขาดจุดเปลี่ยน การเปลี่ยนผ่านจากอีกยุคหนึ่งไปอีกยุคหนึ่ง

มันก็เหมือนกับการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง เหมือนแถวๆนี้ล่ะครับ มันมีสิ่งที่มาใหม่ แล้วดูดีกว่า แต่เปลี่ยนไม่ได้ เพราะยังอนุรักษ์นิยม การที่จะออกจากจุดเดิมยังทำไม่ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันคือรากเหง้าที่วางรากฐานมาตลอด 30 ปีที่ชายคนหนึ่งที่ชื่อ
อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ทำไว้
วัฒนธรรมความเป็นชาตินิยม การสืบทอดภายใน โครงสร้างแบบเก่าที่ยังใหญ่เทอะทะ แต่ขาดประสิทธิภาพ

จุดเปลี่ยนในฤดูกาลนี้ที่อยากให้เกิดขึ้นคือการเปลี่ยนเจ้าของใหม่ ที่จะนำแมนยูไปสู่ ยุคใหม่อย่างแท้จริงแต่ตอนนี้ก็เงียบหายไปแล้ว

เรายังต้องทนกับพวก British Style ที่เป็น ระบบ อนุรักษ์นิยม
ตำแหน่ง Director of Football ควรจะเป็น รังก์นิค หรือคนที่มี ประสบการณ์ ทั้งด้านนี้เฉพาะ คนดูแมนยูทำสิ เอา จอน มือทับ มาทำ
แล้วตำแหน่งที่สำคัญอีกตำแหน่ง ให้ ดาเรน เฟล็ตเชอร์ มาทำ
ในห่วงเวลาหนึ่งมันเคยดี แต่ Move On ไม่ได้

อ้างโควิท สมแล้วที่เป็นทีมกระจอก

ใช้เงินเยอะ แต่ได้แค่ถ้วยลีคคัพ

​

ร้อนตัวเฉย
อยู่บนกองขยะ กลิ่นเป็นไงบ้างครับ

รวยแต่โง่ ยูไนเต็ด