เคนเห็นแต่คนรยซื้อเยอะกว่าคนจน แฟนทำงาน รพ.เอกชนบอกพวกประกันจะบอกว่า ลูกค้า VIP เขามารพ. ตัวแทนรับรองอย่างกับเทพ แฟนบอกว่าพวกนี้ซืื้อเยอะคลอบคลุมหมด ยิ่งจ่ายเบี้ยสูง ยังได้ ตรวจสุขภาพฟรีอีกด้วย

คนรวยจริงๆเขาสร้างโรงพยาบาลไว้รักษาตัวเองครับ

คนรวยๆ อายุเยอะหลายคน ทำประกันไม่ได้ เพราะสุขภาพไม่แข็งแรง ประกันไม่ทำให้(ตรวจไม่ผ่าน)

กับอีกกลุ่มนึง ที่ ไม่อยากเสียเงินค่าประกัน เพราะคิดว่าไม่อยากจ่ายเสียฟรีๆทุกปี(ความคิดคนสมัยก่อน)

ทั้งๆที่ คนเรายิ่งอายุเยอะ สุขภาพยิ่งแย่ลง ประกันสุขภาพนี่โคตรจำเป็น

ถ้าคนรวยอายุไม่เยอะมาก เห็ยทำกันทุกคน

ถ้าคนรวยอายุมากหน่อย ต้องบอกว่า Product ประกันเมื่อก่อนยังไม่มีเหมาจ่ายแบบนี้ ประกอบกับค่านิยมสมัยก่อนคือทำประกันเพื่อได้เงินคืน พอจะมาทำทีหลังก็มีโรคประจำตัวเเล้ว

คนรวยที่ผมรู้จักทุกคน ทำทุกคนครับ ไม่เจอใครไม่ทำนะ

ส่วนใหญ่ที่เจอไม่ทำจริงๆ คือรายได้ยังน้อย ก็ใช้ประกันสังคมกันไป

อย่างน้อยๆ คนที่รายได้เกิน 1 ล้านต่อปี ทำเต็มวงเงินลดหย่อนภาษีอะ

อันนี้ผมพูดในแง่ความคุ้มค่าของประกัน เพราะแค่คิดง่ายๆ ไม่งั้นประกันจะเอากำไรมาจากไหน

ส่วนบางคนอาจจะซื้อเพราะมันสะดวกกว่า มีอะไรก็เบิก หรืออย่างประกันรถ เค้าไปไล่เบี้ยฟ้องให้เรา เราไม่ต้องฟ้องเอง หรือบางคนอาจจะกระแสเงินสดไม่ได้เยอะ รวยจริงแต่เป็นทรัพย์สินเยอะ จะเปลี่ยนเป็นกระแสเงินสดค่อนข้างใช้เวลาและมี cost หรือบางคนก็เอาง่าย มีอะไรรูดประกันจบ ก็แล้วแต่เค้า

หรือแม้แต่บางคนมีซุปเปอร์คาร์เพราะใจรัก super car เงินผ่อนก็เยอะแยะไป

อันนี้พูดในฐานะคนเคยทำงาน บ.ประกัน คุณซื้อประกัน (ประกันสุขภาพหรือประกันชีวิตนะ) คุณจะเอา Expected return เป็นบวกมันไม่ได้หรอก

อยู่ ตจว. ใช่มั้ยครับ

คนรวย ตจว. ที่รู้จักหลายคน ไม่ทำประกัน ซื้อรถ ซื้อบ้าน ด้วยเงินสด ฝากเงินด้วยบัญชีออมทรัพย์ คือ เค้าไม่ได้มีความรู้เรื่องการเงินการลงทุน ครับ และไม่เปิดรับด้วย เพราะเค้ารวยอยู่ด้วย เค้าคิดว่า ไม่จำเป็น เค้ายอมเสียได้ แต่จะไม่ไปทำอะไรที่เค้าไม่มั่นใจหรือไม่มีความรู้ครับ

เป็นเล่นไป พวกนี้ไม่ซื้อประกันกันเยอะนะครับ ไม่ใช่ไร เพราะเขาไม่ได้ขับทุกวัน บางคนขับพวกนี้เดือนละครั้งเอง
บางทีเอาไปขับก็ไม่ได้ขับตั้งแต่ออกจากบ้าน เรียกรถมาไสลด์ไป แล้วไปขับชิว
แต่ทั้งนี้มันก็แล้วแต่ความเสี่ยงแต่ละคนครับ

ซื้อดิครับ แต่ที่ท่านได้ยินอาจเกินวงเงินมั้งครับ อดีตนายทุนที่ดินที่ผมดิวงานด้วยก็ซื้อนะครับ แต่รักษาทียาบางตัวสั่งจากญี่ปุ่นตัวยาก็ต้องออกเงินเองครับ นอนห้องพิเศษมีสองห้องนอนสองห้องน้ำ หนึ่งห้องรับแขก หนึ่งห้องครัวอย่างงี้ครับประกันจะเอาอะไรมาเหลือครับ ต้องจ่ายส่วนเกินเองครับและเค้าก็ยินดีจ่ายครับ

ใช่ครับ ในต่างจังหวัด

ผมว่าซื้อยังไงก็คุ้มกว่านะ เอาแบบมีเงินเป็นสิบล้าน จ่ายค่าประกันเฉพาะสุขภาพแค่ปีละแสน แสนนึงนี่วงเงินรักษาก็โหดมากแล้วนะท่าน

มันต้องเทียบเป็น probability น่ะครับ เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้ใช้ถึงวงเงิน 10 ล้านหรอก แถมพอแก่มากๆ เค้าก็ตัดท่านออกจากประกันสุขภาพล่ะ

ก็แบบที่ผมบอก คิดง่ายๆเลยนะ ถ้าท่านคุ้ม แล้วทำไมบ.ประกันมันรวยได้

มันมีทั้งคนที่ซื้อและไม่ซื้อครับ

เอาว่าคนขายประกันตัวท๊อปหัวสาย บริษัทประกันยักษ์ใหญ่ของไทย ก็มีที่ไม่ได้ซื้อประกัน ทั้งๆที่ขายเอง เข้าใจสินค้าดี แล้วรวยมานานแล้ว


ประกันสุขภาพ มันเป็นเรื่องที่ ตลก แบบนี้หละ ถ้าขายเองก็จะเห็นว่า ซื้อ 100 เครม 2-3 คน แล้วก็คิดว่าโอกาสเกิดโคตรน้อย

แต่เรื่องตลกมักจะเกิดกับตัวเองคือ วันดีคืนดี ตรวจเจอโรคแล้วก็ซื้อไม่ได้แล้วซะงั้น

คนรวย คนจน หรือคนฐานะปานกลาง เหมือนกันหมดอยู่อย่างคือ
ทุกคนต่างมีความคิดหลากหลายครับ
ดังนั้นมันมีทั้งคนรวยที่คิดทำประกัน เพราะเขาบริหารการเงิน คุ้มครองความเสี่ยงด้วยเงินที่เล็กกว่า
และมีคนรวยที่ไม่สนใจทำประกัน เพราะคิดว่าเงินที่มีเยอะพอจะจ่ายเองได้ ไม่อยากจ่ายทิ้งเปล่าๆ
คนทุกกลุ่มมีความคิดหลากหลาย

อีกอย่าง คนที่จขกท.เจอ อาจจะเป็นคนรวยที่อายุเยอะแล้ว
ด้วยว่าสมัยก่อน เอาสัก 10-20 ปีก่อน
ทัศนคติคนเรื่องการทำประกันยังแคบ ยังมองไม่เห็นความสำคัญ
มองว่าประกันคือค่าใช้จ่าย ไม่สร้างรายได้
และอีกอย่างตัวเองก็แข็งแรงดี เลยไม่สนใจทำ
ก็อาจจะมีเจอป่วยหนักๆ ตอนอายุเยอะแล้ว ทำตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว

คนรวย หมายถึงเก่งจนรวยนะ
เข้าซื้อประกันครับ เขาไม่โง่มีความเสี่ยงเรื่องพวกนี้หรอกครับ

เว้นแต่ ตกเกณฑ์ ทำประกันไม่ผ่าน เนื่องจาก บลาๆ