ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Oct 2014
ตอบ: 37654
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Aug 15, 2023 16:30
( CFC ) บทความ เชลซี และ FFP
บทความจาก ไซม่อน จอนสัน กับ เลียม ทรูมี่






ทำไม เชลซี ถึงเชื่อว่าการใช้จ่าย 900 ล้านปอนด์ของพวกเขานั้นอยู่ภายใต้กฎ FFP




- สำหรับตลาดซื้อขายนักเตะรอบที่สาม การใช้จ่ายของ เชลซี ถูกพูดถึงในวงการฟุตบอล


- ดีลมูลค่า 115 ลป สำหรับ ไคเซโด้ ทำให้ เอ็นโซ่ ครองสถิติค่าตัวของอังกฤษเป็นเวลาเพียงหกเดือน


- หลังจากที่เขาย้ายไป เชลซี ด้วยเงิน 106 ลป


- ลิเวอร์พูล ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะขาดเป้าหมายรองในแดนกลาง


- หลังจากที่ ลาเวีย ของ เซาแธมป์ตัน ยังเลือก เชลซี ในการย้ายที่มีมูลค่า 50 ลปบวกแอดออน


- นั่นหมายถึง Boehly และ Clearlake ได้ทุ่มเงิน 300 ล้านปอนด์ในค่าตัวกองกลางเพียงอย่างเดียวในปี 2023


- เมื่อมีข้อตกลงสำหรับ อูโกชุควู และ ซานโตส รวมอยู่ด้วย


- ผู้รักษาประตูคนใหม่ควรเข้ามาแทนที่การปล่อยยืม เกปา ไป มาดริด


- และสโมสรต้องการเพิ่มตัวรุกอีกสองคน


- และทั้งหมดนี้โดยที่ยังไม่มีรายได้จากสปอนเซอร์เสื้อ หรือการเข้าร่วม UCL ในปี 2023-24


- ไม่มีสโมสรอื่นใดในโลกดำเนินการในลักษณะนี้


- และมันก็ยุติธรรมที่จะบอกว่าแนวทางของ เชลซี นั้นดูน่าอึดอัดใจ


- มีเสียงกระหึ่มขึ้นเรื่อยๆ ของสโมสรคู่แข่งที่บ่นกับพรีเมียร์ลีกเกี่ยวกับการใช้จ่ายของพวกเขา


- การแสดงถึงความไม่เชื่อว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะเป็นไปตามกฎข้อบังคับ FFP ของยูฟ่า


- ซึ่งให้สโมสรขาดทุนได้ประมาณ 77 ล้านปอนด์ ในช่วงระยะเวลาสามปี


- ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วพวกเขาถูกจัดให้อยู่ในรายการเฝ้าดู FFP โดยยูฟ่า


- เนื่องจากขนาดของการขาดทุน


- แต่ เชลซี เชื่อว่าพวกเขามีกลยุทธ์ที่จะทำให้พวกเขาอยู่ฝั่งที่ถูกต้องของการควบคุมทางการเงิน


- The Athletic จะพยายามอธิบายคุณ






1.ค่าตัวที่เกินจริง





- อุปสรรคใหญ่ในการทำความเข้าใจว่า เชลซี กำลังทำอะไรอยู่คือวิธีที่คนส่วนใหญ่คิดเกี่ยวกับธุรกรรมฟุตบอล


- กล่าวคือ สนใจไปที่ ค่าตัว เกือบทั้งหมด


- ซึ่งไม่ใช่วิธีที่สโมสรฟุตบอลส่วนใหญ่คิด และไม่ใช่ เชลซี แน่นอน




นี่คือตัวอย่าง



- สโมสร A เซ็นสัญญากับผู้เล่นด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ และให้สัญญา 5 ปีมูลค่า 100,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์แก่เขา


- สโมสร B เซ็นสัญญากับผู้เล่นฟรีและตกลงที่จะจ่ายเงินให้เขาประมาณ 400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์


- นักเตะคนไหนที่คุณคิดว่าแพงกว่ากันเมื่อเทียบรายปี?


- หากคำตอบของคุณคือการเซ็นสัญญากับ สโมสร B แสดงว่าคุณมาถูกทางแล้ว


- ค่าจ้างรายสัปดาห์ 400,000 ปอนด์เท่ากับเงินเดือนต่อปีที่มากกว่า 20 ล้านปอนด์เล็กน้อย


- ในขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมของค่าตัว 50 ล้านปอนด์ ตัดจำหน่ายสำหรับสัญญา 5 ปีกับเงินเดือน 100,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ในบัญชีอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านปอนด์




* อันนี้ผมขออธิบายเพิ่มเองนะ เผื่อคนไม่เข้าใจ *


- สโมสร B เซ็นฟรี แต่ค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 400K = 20.8 ลป ต่อปี


- สโมสร A ซื้อ ตัว 50 ลป เซ็น 5 ปี เวลาลงบัญชีรายจ่ายจะหารตามอายุสัญญา


- 50 หาร 5 = ลงบัญชีปีละ 10 ลป ไปอีก 5 ปี


- ค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 100K = 5.2 ลป ต่อปี มารวมการลงบัญชีค่าตัวต่อปีอีก 10 ลป


- เท่ากับว่าสโมสร A มีรายจ่ายในตัวนักเตะคนนี้ที่ลงบัญชีเป็น ปีละ 10 + 5.2 = 15.2 ลป ต่อปี ครับ


- เพราะงั้นในบทความถึงบอกว่า สโมสร B เซ็นนักเตะมาแพงกว่า เพราะคิดจากค่าใช้จ่ายรายปีครับ



* ถัดจากนี้คือไปต่อกับบทความนะ *





- เมื่อพิจารณาจากบริบทนี้ เป็นไปได้มากว่าการซื้อนักเตะที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ จริงๆ แล้วอาจเป็นการย้ายของ ฮาลันด์ ไป แมนซิตี้ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2022


- เมื่อมีการเพิ่มเงินเดือนจำนวนมาก โบนัสการเซ็นสัญญา และ ค่าธรรมเนียมเอเย่นต์


- ถึงค่าตัวจะราคาถูกแค่ 51 ล้านปอนด์จาก ดอร์ทมุนด์




- มีการพูดถึงอย่างกว้างขวางว่า เชลซี ใช้ประโยชน์จากขีดจำกัดทางกฎหมายของการตัดจำหน่าย ( เซ็นสัญญายาว เพื่อหารหลายๆปี นั่นแหละ )


- เพื่อให้เงินใช้จ่ายของพวกเขาดำเนินต่อไปได้ การเซ็นสัญญาในเดือนมกราคมทั้งหมดของพวกเขาเซ็น 7-8 ปี ทำให้ต้นทุนบัญชีรายปีของพวกเขาลดลง


- ยูฟ่า ตัดสินว่าตั้งแต่ฤดูร้อนนี้เป็นต้นไป ค่าตัวจะตัดจำหน่ายได้ไม่เกิน 5 ปีเท่านั้นโดยไม่คำนึงถึงอายุสัญญา


- และพรีเมียร์ลีกมีแนวโน้มที่จะดำเนินการตามความเหมาะสมไม่ช้าก็เร็ว


- แต่ถึงแม้จะปิด “ช่องโหว่ของ FFP” เหล่านี้แล้ว ค่าตัดจำหน่ายยังคงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยเพิ่มกำลังการใช้จ่ายของ เชลซี


- และพวกเขาใช้กฎนี้แล้วได้ผลดีก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงกฎ




- ยิ่งไปกว่านั้น เชลซี จะไม่ได้เล่นในรายการยุโรปในฤดูกาลนี้ ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะอยู่ในกฎของ ยูฟ่า ในตอนนี้


- แน่นอนว่าพวกเขาหวังว่าพวกเขาจะกลับมาถ้วยยุโรปในฤดูกาลหน้า


- แต่พรีเมียร์ลีกให้เวลามากขึ้น ดังนั้น เชลซี จึงมีเวลามากขึ้นในการแก้ปัญหา ( อธิบายง่ายๆก็ พรีเมียร์ลีก ยังไม่แก้กฎเป็น 5 ปี เชลซี เลยมีโอกาสเซ็นยาวหารเยอะเพิ่มอีก 1 ปี เพื่อแก้ปัญหาของทีม )


- ดังนั้นพวกเขาจึงเชื่อว่าพวกเขาไม่เป็นไร ส่วนคนอื่นไม่แน่ใจ







2. เชลซี ขายออกด้วย ไม่ใช่แค่ซื้อ แต่มันเพียงพอหรือไม่ ?




- Boehly และ Clearlake สร้างรายได้มากกว่า 250 ล้านปอนด์จากการขายผู้เล่นในช่วง 3 ตลาดซื้อขายที่ผ่านมา


- มีการทำเงินประมาณ 200 ล้านปอนด์ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยหลักๆ ได้จากการขาย ฮาแวทย์ , เมาท์ , โควาซิส และ คูลิบาลี่ กับ เมนดี้ ไปสโมสรในซาอุดีอาระเบียโปรลีก


- ตัวเลขดังกล่าวไม่ได้ใกล้เคียงกับความสมดุลของค่าตัวที่ซื้อนักเตะของ เชลซี


- แต่สำหรับจุดประสงค์ทางบัญชี ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น


- ค่าตัวจากการขายผู้เล่นจะลงบัญชีเต็มจำนวนในบัญชีทันที ลบด้วยค่าตัดจำหน่ายที่เหลืออยู่ของผู้เล่น




* อันนี้ผมขออธิบายเพิ่มเองนะ เผื่อคนไม่เข้าใจ *



- สมมุติ เชลซี ซื้อ นาย A 50 ลป เซ็น 5 ปี = ลงบัญชีรายปี 10 ลป ไปอีก 5 ปี


- ใช้ไป 3 ปี เหลือสัญญา 2 ปี อาร์เซนอล มาซื้อไป 50 ลป


- ตอนลงบัญชีจะเอาค่าตัว 50 ลป มาลบ การลงบัญชีรายปีที่เหลืออยู่ ในที่นี้คือ เหลือสัญญา 2 ปี = 10 ลป 2 ปี = 20 ลป


- เท่ากับว่า เชลซี ได้กำไรจากการขายนี้ 50 - 20 = 30 ลป ครับ


- ส่วนตัวเด็กปั้น ไม่มีค่าตัวตอนซื้อมา เพราะปั้นเอง เงินค่าตัวที่ขายได้ จะลงบัญชีเต็มๆเลย


- ตลาดนี้ เชลซี เลยเน้นขายเด็กปั้นเยอะเลย เพื่อเอาเงินเข้าบัญชีเต็มๆนี่แหละครับ



* ถัดจากนี้คือไปต่อกับบทความนะ *




- ข่าวดีสำหรับ โบลี่ย์ และ เคลียร์เลค คือผู้เล่นส่วนใหญ่ที่พวกเขาขายในตลาดนี้


- อยู่ที่สโมสรนานพอที่จะมีมูลค่าทางบัญชีที่เหลืออยู่ค่อนข้างน้อย ( สัญญาเหลือน้อย การลงบัญชีรายปีที่เหลืออยู่เลยน้อย พอเอามาลบจากค่าตัวเลยได้กำไรเยอะ )


- หรือเป็นผู้ที่มาจากอคาเดมี่ของสโมสร ซึ่งจะได้กำไรเต็มๆเมื่อขาย




- ฮาแวทย์ , เมาท์ , โควาซิช แค่ 3 คนนี้ก็ทำกำไรในทางบัญชีให้กับ เชลซี ได้เกือบ 100 ล้านปอนด์


- ในทางทฤษฎีนั้นทำให้ เชลซี สามารถใช้เงินได้มากถึง 500 ล้านปอนด์ในค่าตัวนักเตะที่เซ็นสัญญา 5 ปี โดยไม่ต้องให้สโมสรติดลบจากการซื้อขายผู้เล่นในทางบัญชีเลย


- แน่นอนว่ารายได้จะต้องเข้ามาอย่างสม่ำเสมอในช่วงห้าปีเพื่อให้ ชำระ ค่าตัวเท่าเข้ามาได้ตลอดสัญญา 5 ปี



* ขอแวะอธิบายเพิ่ม เผื่อคนไม่เข้าใจ *



- อธิบายง่ายๆ ขาย โควา ไค เมาท์ ในทางบัญชี เชลซี บวกไป 100 ล้านปอนด์


- เลยทำให้สามารถซื้อนักเตะ 500 ล้านปอนด์ ที่เซ็นสัญญา 5 ปี ( ก็ 500 หาร 5 เท่ากับลงบัญชี ปีละ 100 ล้าน ไปอีก 5 ปี รายจ่ายรายปีเลยพอดีเท่ากับที่ได้กำไรจากการขาย 3 คนนั้นมา ) ได้โดยไม่ติดดัวแดง


- อันนี้เขาเปรียบเปรยเฉยๆนะ ทำจริงไม่ได้หรอก ปีนี้ลงบัญชีได้ 100 ล้านจริง แต่อีก 4 ปีข้างหน้าก็ต้องหากำไรมาลงบัญชีอีกปีละ 100 ล้านไปเรื่อยๆ ซึ่งลำบากตายห่าเลย



* ถัดจากนี้คือไปต่อกับบทความนะ *





- เห็นได้ชัดว่าสโมสรใหญ่ๆ มีพื้นที่มากกว่าในการสู้รบในตลาดซื้อขายนักเตะโดยไม่ทำผิดกฏของ FFP


- และข้อจำกัดเองก็คลายลง ตั้งแต่ฤดูกาล 2023-24 เป็นต้นไป


- สโมสรที่ได้รับการตัดสินว่ามีสุขภาพทางการเงินที่ดีอาจได้รับอนุญาตให้ขาดทุนได้มากถึง 77 ลป ( 90 ล้านยูโร ) ในช่วงระยะเวลาตรวจสอบสามปี


- ซึ่งเพิ่มเป็นสามเท่าของวงเงินเดิมที่ 25 ลป ( 30 ล้านยูโร )


- เนื่องจากบัญชีของสโมสรจะได้รับการเผยแพร่เกือบหนึ่งปีหลังจากดีลที่เกี่ยวข้องเกิดขึ้น


- ปัจจุบันยังเร็วเกินไปที่จะรู้ว่าการใช้จ่ายในปัจจุบันของ เชลซี จะทำให้พวกเขาขาดทุนหรือกำไร


- แต่ในแง่ของการแตะตัวเลขขาดทุนเกิน 77 ล้านปอนด์ในรอบ 3 ปี


- เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงว่าบัญชีของปีที่แล้วชี้ให้เห็นว่า เชลซี ขาดทุน 121 ล้านปอนด์


- ฤดูกาลก่อนหน้านั้นขาดทุน 156 ล้านปอนด์ ซึ่งมากเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก


- ดังนั้นสโมสรจะต้องเริ่มสร้างกำไรในเร็วๆ นี้ ไม่ว่าจะเป็นการขายนักเตะที่เพิ่มขึ้น ข้อตกลงการค้าที่ดีขึ้น หรือผลตอบแทน สู่แชมเปียนส์ลีก ( ซึ่งคาดว่าจะทำเงินได้ประมาณ 3-4 ล้านปอนด์ต่อ 1 เกมเหย้า )







4. บิลค่าเหนื่อยที่ลดลง




- ในระหว่างการตรวจสอบสถานะทางการเงินก่อนการเทคโอเวอร์เมื่อปีที่แล้ว Boehly และ Clearlake ระบุว่า Roman Abramovich จ่ายเงินอย่างมีความสุขในสิ่งที่พวกเขามองว่าเป็น " เบี้ยประกันภัยของ Chelsea " ในแง่ของเงินเดือนผู้เล่น


- ค่าจ้างพื้นฐานนั้นสูงกว่าอัตราตลาด โดยแทบไม่มีสิ่งใดเชื่อมโยงกับสิ่งจูงใจตามผลงาน เช่น การเข้าร่วม UCL


- การเปลี่ยนแปลงของทีมจำนวนมหาศาลที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในปีที่ผ่านมานั้นมีความสำคัญพอๆ กับการลดมูลค่าสัญญาของนักเตะ


- Boehly และ Clearlake มุ่งมั่นที่จะลดภาระผูกพันด้านเงินเดือนค่าเหนื่อยของสโมสรให้อยู่ในระดับตลาด


- และพวกเขาตระหนักดีว่าความคาดหวังด้านรายได้ของนักฟุตบอลมักจะเพิ่มขึ้นเมื่อพวกเขาอายุมากขึ้น


- นับตั้งแต่การปรับโครงสร้างการดำเนินงานฟุตบอลโดยมี ลอเรนซ์ สจ๊วร์ต และ พอล วินสแตนลีย์ ผู้อำนวยการกีฬาร่วมกันเมื่อต้นปี 2023


- เชลซี ได้ให้ความสำคัญกับผู้เล่นอายุ 23 ปีหรือต่ำกว่านั้น โดย เอ็นคุนคู , ดิซาซี่ และ ซานเชส เท่านั้นที่เป็นข้อยกเว้น


- ผู้เล่นอายุน้อยมีแนวโน้มที่จะคล้อยตามฐานเงินเดือนที่ต่ำลงด้วยสิ่งจูงใจด้านผลงาน ซึ่งเปิดโอกาสให้ เชลซี เริ่มต้นด้วยค่าเหนื่อยในระดับที่เหมาะสมกว่า


- และให้รางวัลแก่ผู้เล่นที่ทำผลงานได้ดีที่สุดด้วยการจ่ายเงินโบนัสที่เพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป


- เกือบจะแน่ใจว่า ลาเวีย จะได้รับค่าจ้างจาก เชลซี ต่ำกว่า วอร์ด-พราวส์ อดีตเพื่อนร่วมทีม เซาแธมป์ตัน ที่ย้ายไป เวสต์แฮม


- เชลซี ยังคงมุ่งมั่นต่อสัญญาที่ยาวขึ้นแม้ว่าผลประโยชน์จากค่าตัดจำหน่ายจะลดลงก็ตาม


- Boehly และ Clearlake เชื่อว่าพวกเขาให้ความปลอดภัยที่มากขึ้นแก่ผู้เล่นและสโมสรได้รับการคุ้มครองมากขึ้นตามมูลค่าทรัพย์สินของพวกเขา


- หวังว่าเงินเดือนที่ต่ำลงทั่วกระดานจะหมายถึงผู้เล่นที่ผิดหวังที่ เชลซี จะถูกปล่อยออกไปได้ไม่ยาก


- โดย ลูกากู และ ซีเยค สองคนสุดท้ายที่ได้รับค่าจ้างอย่างฟุ่มเฟือยในยุค อับราโมวิช


- พวกเขายังคงมีคนที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงอยู่บ้าง เช่น สเตอริ่ง และ เอ็นคุนคู


- แต่โดยรวมแล้ว Boehly และ Clearlake เชื่อว่าพวกเขาช่วยประหยัดเงินค่าเหนื่อยรายปีสำหรับทีมชุดใหญ่ได้หลายสิบล้านปอนด์


- ซึ่งเป็นเงินที่พวกเขานำมาใช้ใหม่เพื่อใช้จ่ายในค่าซื้อตัวได้





5. กลยุทธ์ของ เชลซี ไม่ได้ปราศจากความเสี่ยง





- Boehly และ Clearlake ได้สร้างทีมของ Chelsea ขึ้นมาใหม่โดยพื้นฐานแล้วเป็นพอร์ตการลงทุน


- คอลเลกชั่นของนักฟุตบอลอายุน้อยที่มีพรสวรรค์ที่มุ่งมั่นใน Stamford Bridge ในช่วงปีที่ดีที่สุดของพวกเขา


- แต่มูลค่าการซื้อขายของนักเตะ อาจลดลงและเพิ่มขึ้นโดยขึ้นอยู่กับตัวแปรต่างๆ ตามพัฒนาการของแต่ละคน


- ไม่ใช่การเซ็นสัญญาทั้งหมดที่จะประสบความสำเร็จ


- แต่การระบุนักเตะที่มีความสามารถและทักษะการพัฒนาของ ทีมงานที่นำโดย สจ๊วต และ วินสแตนลี่ย์ ได้รับการสนับสนุนเพื่อให้แน่ใจว่าความสำเร็จจะมีมากกว่าความล้มเหลว


- หากไม่เป็นเช่นนั้น เชลซี น่าจะทำผลงานในสนามได้ต่ำกว่าปกติ และค่าตัวที่ตัดจำหน่ายเหล่านี้จะเพิ่มขึ้น ซึ่งจะจำกัดทางเลือกในการแก้ไขเส้นทางในอนาคต


- หนึ่งในทีมที่เก่าแก่ที่สุดในพรีเมียร์ลีกถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นทีมที่อายุน้อยที่สุดโดยเจ้าของทีมที่พยายามทำบางอย่างที่คล้ายกับรูปแบบการสรรหานักเตะของ โมนาโก , RB ไลป์ซิก และ ไบรท์ตัน


- เชลซี ต้องสร้างความสมดุลให้กับความต้องการทางเศรษฐกิจเพื่อพัฒนานักเตะพรสวรรค์รุ่นเยาว์ที่พวกเขารวบรวมไว้เพื่อตัวเองและเพื่อผู้อื่น


- ความเสี่ยงนี้ไม่เคยมีใครเดินหรือพยายามแม้แต่จะลอง


- คุณสามารถชนะพรีเมียร์ลีกหรือแชมเปียนส์ลีกด้วยผู้เล่นอายุน้อยได้หรือไม่ ?


- การรวมตัวกันของผู้เล่นส่วนใหญ่ในกลุ่มอายุเดียวกันจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนารูปแบบห้องแต่งตัวที่สร้างสรรค์ขึ้นจากการผสมผสานระหว่างเยาวชนและนักเตะมากประสบการณ์ที่ดีที่สุดหรือไม่ ?


- Boehly และ Clearlake กำลังเดิมพันกับคำตอบของคำถามเหล่านี้


- และแนวทางของพวกเขาในการซื้อขายนักเตะและการสร้างทีมทำให้ Chelsea อยู่บนเส้นทางสู่ความสำเร็จด้านกีฬาที่ยั่งยืนรวมถึงการเติบโตทางการเงินหรือไม่


- ทุกคนในวงการฟุตบอลจะเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดเพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป







สรุปสั้นๆโดยผมเอง




- ไอ้การเซ็นยาว หารหลายๆปี ( เขาเรียก ค่าตัดจำหน่าย ) ทำให้ เงินรายจ่าย กระจายไปหลายปี และ รายจ่ายรายปีน้อยลง เลยมีเพดานให้ใช้เงินได้มากขึ้น


- อันนี้เป็นจุดสำคัญที่ช่วย เชลซี ซึ่ง พรีเมียร์ลีค มันยังไม่แก้ตาม ยูฟ่า ที่ลิมิต 5 ปี


- ทำให้ เชลซี ยังใช้เงินเยอะๆได้เหมือนเดิม เพราะปีนี้ไม่ได้ไป ยูฟ่า


- แต่มันก็มีความเสี่ยงเพราะ มันจะเป็นดินพอกหางหมู รายจ่ายก้อนใหญ่ในบัญชีรออยู่อีก 7 - 8 ปี


- เพราะงั้น ตัวที่ซื้อเข้ามา ต้องทำผลงานได้ดีตามที่คาดหวัง เชลซี ถึงจะรอด


- แปลง่ายๆก็ ตัวที่ทุ่มซื้อมาในช่วงนี้จะต้องโหดพอที่จะแบกทีมได้ ปีถัดๆไปจากนี้จะได้ไม่ต้องลงทุนเยอะแล้ว


- ถ้าในอนาคตไม่ต้องลงทุนเยอะแล้ว ก็จะโอเคขึ้น ไอ้ท็อดด์ ก็จะไปลงทุนดูดเด็กมาปั้นขายทำเงินอย่างเดียว


- อีกข้อก็ เชลซี ลดเพดานเงินเดือนลง โดยการเซ็นค่าเหนื่อยต้นน้อยๆ เพ่มในส่วนของโบนัสตามผลงานในสนามแทน


- เป็นอีกเหตุผลที่เลือกดาวรุ่ง เพราะไม่ค่อยเรียกร้องเงินเดือนสูง เหมือนตัวอายุเยอะที่มองความมั่นคงเป็นหลัก


- การปล่อยตัวค่าเหนื่อยแพงออกไปทำให้ เชลซี ลดเพดานค่าเหนื่อยได้เยอะ


- แต่ยังมีความเสี่ยงที่จะผิด FFP ยูฟ่า อยู่ ถ้าปีหน้าได้ไป UCL เขาจะมีตรวจย้อนหลัง 3 ปีล่าสุดเหมือนกัน


- ห้ามขาดทุนรวมเกิน 77 ล้านปอนด์ ( 90 ล้านยุโร )


- เพราะงั้นปีนี้ เชลซี ก็ต้องเร่งหาเงินเหมือนกัน ไม่ว่าจะทางไหน


- จบ อันไหนแปลผิดแก้ให้ด้วยนะ เยอะเกิน ผมมึนๆงงๆละ











แก้ไขล่าสุดโดย Nakkii เมื่อ Tue Aug 15, 2023 17:07, ทั้งหมด 6 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออนไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status: อย่าโลกสวยขอร้อง !!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 12219
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Aug 15, 2023 16:42
Top Comment [RE: ( CFC ) บทความ เชลซี และ FFP]
อธิบายละเอียด พรุ่งนี้เหมือนเดิม เชลซีไม่ติด FFP หรอ

ซื้อเยอะขนาดนี้ ไม่ติดได้ไง บราๆๆ พวกไม่อ่านจ้องแต่จะแซะมันเยอะกว่า
Chelsea FC เข้าใจตรงกันนะ
ออนไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: YOU MAD???
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Jul 2009
ตอบ: 14604
ที่อยู่: ปลายดอยพร้อมรอยยิ้ม
โพสเมื่อ: Tue Aug 15, 2023 16:37
[RE: ( CFC ) เชลซี และ FFP]
ก็ถือว่าเสี่ยงอยู่นะครับ ถ้าไม่ปังนี่ ขายยาก เพราะซื้อแพง แถมเซ็นนานอีก

ตัวอย่างก็นักเตะอย่างพี่ตู้นี่กำจัดยากเหลือเกิน

แต่นั่นแหละ ก็ดีกว่า FSG อ่ะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Sep 2013
ตอบ: 12386
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Aug 15, 2023 16:37
[RE: ( CFC ) เชลซี และ FFP]
เสี่ยท๊อด way
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะอบต.
Status: Trance Family
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Sep 2021
ตอบ: 5705
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Aug 15, 2023 16:38
[RE: ( CFC ) เชลซี และ FFP]
ยาวจัดๆ คอนเทนส์คุณภาพเสมอ ขอบคุณครับท่าน Nakkii
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออนไลน์
แขวนสตั๊ด
Status: CFC,ACM,RMCF
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Dec 2007
ตอบ: 53044
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Aug 15, 2023 16:41
( CFC ) เชลซี และ FFP
ท้อดด์นักหาบั๊ค แต่ผมว่ายังไงจะยืนยาวได้ ผลงานต้องมีด้วย
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
There is no good in anything until it is finished and Do not regret what you have done.
ออนไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status: อย่าโลกสวยขอร้อง !!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 12219
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Aug 15, 2023 16:42
[RE: ( CFC ) บทความ เชลซี และ FFP]
อธิบายละเอียด พรุ่งนี้เหมือนเดิม เชลซีไม่ติด FFP หรอ

ซื้อเยอะขนาดนี้ ไม่ติดได้ไง บราๆๆ พวกไม่อ่านจ้องแต่จะแซะมันเยอะกว่า
Chelsea FC เข้าใจตรงกันนะ
ออนไลน์
นักเตะอบต.
Status: Trance Family
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Sep 2021
ตอบ: 5705
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Aug 15, 2023 16:42
[RE: ( CFC ) บทความ เชลซี และ FFP]
GludMunZ พิมพ์ว่า:
ก็ถือว่าเสี่ยงอยู่นะครับ ถ้าไม่ปังนี่ ขายยาก เพราะซื้อแพง แถมเซ็นนานอีก

ตัวอย่างก็นักเตะอย่างพี่ตู้นี่กำจัดยากเหลือเกิน

แต่นั่นแหละ ก็ดีกว่า FSG อ่ะ  


มาเวย์นี้ผมพอใจกว่า FSG นะ ดีกว่าทางนู้นเยอะที่งกจนแฟนบอลสาปแช่งกันอยู่ทุกวัน

เราซื้อเยอะ แต่เราก็ขายเก่งขายออกได้ราคาอีกต่างหาก ลองเทียบกับทีมอื่นก็ได้ว่ายอดขายนักเตะเค้าเท่าไหร่กัน กว่าจะจายพวกเด็ดวูดนี่ยากแสนยาก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออนไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Oct 2014
ตอบ: 37654
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Aug 15, 2023 16:43
[RE: ( CFC ) บทความ เชลซี และ FFP]
GludMunZ พิมพ์ว่า:
ก็ถือว่าเสี่ยงอยู่นะครับ ถ้าไม่ปังนี่ ขายยาก เพราะซื้อแพง แถมเซ็นนานอีก

ตัวอย่างก็นักเตะอย่างพี่ตู้นี่กำจัดยากเหลือเกิน

แต่นั่นแหละ ก็ดีกว่า FSG อ่ะ  


ใช่ครับ นักเตะที่ซื้อมาต้องปัง อย่างน้อยๆก็ต้องเกินครึ่ง ไม่งั้น ในอนาคตจะเป็นดินพอกหางหมู เสริมตัวใหม่เพิ่มไม่ได้เพราะบัญชีขาดทุนอยู่ เลยต้องใช้ เดดวู๊ด ไปยาวๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
แขวนสตั๊ด
Status: CFC,ACM,RMCF
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Dec 2007
ตอบ: 53044
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Aug 15, 2023 16:46
( CFC ) บทความ เชลซี และ FFP
อัลไซเมอร์ พิมพ์ว่า:
อธิบายละเอียด พรุ่งนี้เหมือนเดิม เชลซีไม่ติด FFP หรอ

ซื้อเยอะขนาดนี้ ไม่ติดได้ไง บราๆๆ พวกไม่อ่านจ้องแต่จะแซะมันเยอะกว่า  

ยากครับ ขนาดอินฟลูบางคนยังไม่รู้เลยว่าเชลซีขายนักเตะเยอะ ถามซ้ำๆว่ารอดได้ไง
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
There is no good in anything until it is finished and Do not regret what you have done.
ออนไลน์
นักเตะอบต.
Status: Trance Family
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Sep 2021
ตอบ: 5705
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Aug 15, 2023 16:47
[RE: ( CFC ) บทความ เชลซี และ FFP]
RazeJP พิมพ์ว่า:
อัลไซเมอร์ พิมพ์ว่า:
อธิบายละเอียด พรุ่งนี้เหมือนเดิม เชลซีไม่ติด FFP หรอ

ซื้อเยอะขนาดนี้ ไม่ติดได้ไง บราๆๆ พวกไม่อ่านจ้องแต่จะแซะมันเยอะกว่า  

ยากครับ ขนาดอินฟลูบางคนยังไม่รู้เลยว่าเชลซีขายนักเตะเยอะ ถามซ้ำๆว่ารอดได้ไง  


ปล่อยให้มันงงต่อไปครับ 55555
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status: ลูกพี่เฉิน ติ่ง พี่ตู้..
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 May 2007
ตอบ: 16198
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Aug 15, 2023 16:48
[RE: ( CFC ) บทความ เชลซี และ FFP]
คือ ตอนนี้ ไม่เป็นไรหลอก แต่อีก 2 - 3 ปีนั้นละรู้เรื่อง ในมุมมองของผมมันถึงไม่มีเวลาให้สร้างไง

จะมาบอกว่าปีนี้จบที่ 6 - 7 ก็ได้อะไรทำนองนี้ เอาจริง ๆ มันไม่ได้แล้วไง ทีมชุดนี้ต้องปังเพราะถ้าไม่ปังนี่คือตายห่าเลย กลับตัวก็ลำบากจะขายใครก็ยาก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Milet..
ออนไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: YOU MAD???
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Jul 2009
ตอบ: 14604
ที่อยู่: ปลายดอยพร้อมรอยยิ้ม
โพสเมื่อ: Tue Aug 15, 2023 16:48
[RE: ( CFC ) บทความ เชลซี และ FFP]
GD-KwonJiYong พิมพ์ว่า:
GludMunZ พิมพ์ว่า:
ก็ถือว่าเสี่ยงอยู่นะครับ ถ้าไม่ปังนี่ ขายยาก เพราะซื้อแพง แถมเซ็นนานอีก

ตัวอย่างก็นักเตะอย่างพี่ตู้นี่กำจัดยากเหลือเกิน

แต่นั่นแหละ ก็ดีกว่า FSG อ่ะ  


มาเวย์นี้ผมพอใจกว่า FSG นะ ดีกว่าทางนู้นเยอะที่งกจนแฟนบอลสาปแช่งกันอยู่ทุกวัน

เราซื้อเยอะ แต่เราก็ขายเก่งขายออกได้ราคาอีกต่างหาก ลองเทียบกับทีมอื่นก็ได้ว่ายอดขายนักเตะเค้าเท่าไหร่กัน กว่าจะจายพวกเด็ดวูดนี่ยากแสนยาก  


ผมว่าน่าห่วงน้อยกว่าลิเวอร์พลูผมเยอะเลย คือพอมันไม่ต่อยอดนักเตะที่มีก็อายุเยอะขึ้นเรื่อยๆ

แต่เชลซีถ้าไม่เวิร์คอย่าง เมาท์ หรือ ไค ก็ขายเลย แถมได้ราคาเพราะอายุยังน้อย

ที่ซื้อเข้ามาก็อายุน้อยๆทั้งนั้น

ส่วนของลิเวอร์พลูนี่ปล่อยฟรีเพียบ ไม่ก็ไม่ค่อยได้ราคาเพราะแก่แล้ว
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: YOU MAD???
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Jul 2009
ตอบ: 14604
ที่อยู่: ปลายดอยพร้อมรอยยิ้ม
โพสเมื่อ: Tue Aug 15, 2023 16:50
[RE: ( CFC ) บทความ เชลซี และ FFP]
Nakkii พิมพ์ว่า:
GludMunZ พิมพ์ว่า:
ก็ถือว่าเสี่ยงอยู่นะครับ ถ้าไม่ปังนี่ ขายยาก เพราะซื้อแพง แถมเซ็นนานอีก

ตัวอย่างก็นักเตะอย่างพี่ตู้นี่กำจัดยากเหลือเกิน

แต่นั่นแหละ ก็ดีกว่า FSG อ่ะ  


ใช่ครับ นักเตะที่ซื้อมาต้องปัง อย่างน้อยๆก็ต้องเกินครึ่ง ไม่งั้น ในอนาคตจะเป็นดินพอกหางหมู เสริมตัวใหม่เพิ่มไม่ได้เพราะบัญชีขาดทุนอยู่ เลยต้องใช้ เดดวู๊ด ไปยาวๆ  


แต่ของเชลซีผมว่าน่าห่วงน้อยนะ เพราะซื้อมาแต่ตัวเด็กๆ ฟอร์มดีๆ ถ้าต้องโล๊ะจริงๆก็ได้ราคาแบบ เมาท์ กับ ไค

หันมาดูลิเวอร์พลู นี่ปล่อยฟรีเพียบ แถมตัวที่ขายก็ราคานิดเดียวเพราะแก่หมดแล้ว

เสริมก็ไม่เสริม ตัวเดิมก็ไม่ขาย ปล่อยให้มูลค่าเสื่อมไปทุกปีๆ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: INNER CIRCLE || BLIИK || THE BLUES
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 17508
ที่อยู่: YG EИTERTAIИMEИT || STAMFORD BRIDGE
โพสเมื่อ: Tue Aug 15, 2023 16:51
[RE: ( CFC ) บทความ เชลซี และ FFP]
GludMunZ พิมพ์ว่า:
ก็ถือว่าเสี่ยงอยู่นะครับ ถ้าไม่ปังนี่ ขายยาก เพราะซื้อแพง แถมเซ็นนานอีก

ตัวอย่างก็นักเตะอย่างพี่ตู้นี่กำจัดยากเหลือเกิน

แต่นั่นแหละ ก็ดีกว่า FSG อ่ะ  


คนละโมเดลธุรกิจกับ FSG เลย

FSG เน้นหาเงินทุนจากการขายก่อนแล้วค่อย เอาเงินมาใช้ในการซื้อนักเตะ แล้วเงินกำไรอย่างอื่นเข้าสโมสรไม่รู้เอาไปทำอะไร ผมไม่ใช่แฟนลิเวอร์เลยไม่รู้

FSG ไม่ได้คิดเรื่องการใช้จ่ายในงบที่ไม่เกิน FFP ด้วยซ้ำ เพราะไม่ใช้เงินอยู่แล้ว

ส่วนพี่ท้อดนี่ลงทุนยังกับพอร์ตหุ้น ทุ่มเงินในหุ้นที่มีโอกาสโตและสร้างมูลค่าได้จำนวนมาก แต่ก็มาด้วยความเสี่ยงเช่นกัน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
________________________WINNER || BLACKPIИK || CHELSEA________________________
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2770
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Aug 15, 2023 16:52
[RE]( CFC ) บทความ เชลซี และ FFP
GludMunZ พิมพ์ว่า:
ก็ถือว่าเสี่ยงอยู่นะครับ ถ้าไม่ปังนี่ ขายยาก เพราะซื้อแพง แถมเซ็นนานอีก

ตัวอย่างก็นักเตะอย่างพี่ตู้นี่กำจัดยากเหลือเกิน

แต่นั่นแหละ ก็ดีกว่า FSG อ่ะ  


Chelsea มองว่าจะขายพวกสัญญายาวไม่ยาก เพราะค่าเหนื่อยพื้นฐานต่ำครับ ในกรณีที่ผู้เล่นอยากย้ายหรือทีมต้องการขาย
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel