ลืมเรื่อง Reels ระบบ Error ได้เลย ไทยมีวง Blackbeans ทำเพลงป็อปแบบไร้สังกัด ทำกันเองไม่กี่คน มีรายได้จากสตรีมมิงเฉลี่ย 2 ล้านบาท ทุก 3 เดือน มาดูโมเดลธุรกิจและการทำงานของพวกเขากัน
.
วัยรุ่นสร้างตัวยุคดิจิทัลสนใจแหล่งรายได้จากแพลตฟอร์มต่าง ๆ ในโลกออนไลน์เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำรายได้แบบ Passive ให้เข้ามาเป็นกอบเป็นกำได้ด้วยกรรมวิธีต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์อย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ ‘ดนตรี’ บทเพลงจากการสร้างสรรค์ของวัยรุ่นสร้างตัวที่แม้จะทำงานจากในห้องนอนก็สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ และอาจพัฒนาต่อยอดไปสู่รายได้ช่องทางอื่นได้
.
การหารายได้จากแพลตฟอร์มเกิดขึ้นมานับทศวรรษแล้ว มีศิลปินหน้าใหม่ที่กลายเป็นคนดัง แล้วคนรุ่นใหม่ก็เจริญรอยตาม สลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาหลายรุ่น สำหรับยุคนี้ อาจเป็นช่วงเฟื่องฟูอีกห้วงหนึ่งก็ว่าได้ วงรุ่นใหม่ในไทยก็มีให้ติดตามหลายก๊วน สำหรับชาวไทยที่ท่องโลกไซเบอร์อาจคุ้นเคยกับผลงานของวง Blackbeans กันอยู่บ้าง
.
วงอินดี้ วัยรุ่นสร้างตัว โมเดลสตรีมมิง - ออนไลน์
.
ในสเกลของวงดนตรีที่ทำกันเอง ไม่ได้มีค่ายรองรับ วงมีเพลงที่ทำให้ยกระดับอาชีพได้คือเพลง ‘Wish’ ปล่อยเมื่อกลางปี 2019 ยอดผู้ชมคลิป Audio Video อยู่ที่ 101 ล้านวิวแล้ว (ข้อมูล ณ 6 สิงหาคม 2566)
.
เพลง Wish ไม่ใช่ผลงานลำดับแรกของวงอินดี้รายนี้ พวกเขายังไม่สามารถระบุลำดับเพลงอย่างเจาะจงด้วยซ้ำว่าเป็นเพลงลำดับที่ 4 หรือ 5 ของตัวเองแบบแน่ชัด สิ่งที่ชัดเจนคือ เพลงนี้ทำให้ Blackbeans อยู่บนเส้นทางดนตรีแบบแข็งแรงมากขึ้น
.
วง Blackbeans ไม่ต่างจากคนหนุ่มสาวทั่วไปในสมัยวัยเรียนที่สนใจดนตรีแล้วรวมตัวกันตั้งวงดนตรีขึ้นมาตั้งแต่เรียนชั้นม.3 สมาชิกหมุนเวียนเปลี่ยนหน้ากันไปตามกาลเวลา แกนนำยุคดั้งเดิมที่คงอยู่เสมอคือ พีท - นลธวัช บัวเผื่อน มือกลอง และ ทาม - นฤเบศร์ พัวพันบุญ มือกีตาร์ ขณะที่สมาชิกปัจจุบันมี บูม - พีรวิทย์ จิตการุณ นักร้องนำ และ เกม - นันทกร พันธ์วุ้น มือเบส
.
นับจากวันเริ่มต้น สมาชิกดั้งเดิมของวงเล่าว่า Blackbeans มีอายุ 12 ปีแล้ว ความเปลี่ยนแปลงตลอดเส้นทางมีตั้งแต่นักร้องนำเป็นผู้หญิง มีนักร้องผู้ชายอีกคน ก่อนจะมาเป็นบูม - พีรวิทย์ จิตการุณ นักร้องนำคนปัจจุบัน โดยยุคแรกวงเป็นสายประกวด ก่อนจะมาทำเพลงเป็นอาชีพหลัก และทำประจำจนถึงวันนี้
.
คำถามสำคัญคือ วงที่มีอายุ 12 ปี ไม่มีสังกัดสนับสนุน สามารถตั้งตัว ยึดอาชีพในเส้นทางนี้ได้อย่างไร
.
“เราแค่ทำเพลงอยู่ในห้อง แล้วก็เหมือนกับมีแฟนเพลงเข้ามาฟังเพลงของเรา แล้วเราก็ออกไปเล่น เล่นดนตรีแค่เพลงของเราเท่านั้น” ทาม สมาชิกหลักของวงเล่า
.
เกม เสริมว่า “ก็ถือว่าเป็นความโชคดีของเราด้วย ที่เราทำเพลงมาไม่กี่เพลง คนก็สามารถเห็นเรา เห็นเพลงเราและก็ชอบเพลงเรา เป็นเรื่องที่โชคดี แต่ว่าในช่วงแรก ๆ มันก็ยังถือว่ายังไม่ได้ใหญ่มาก ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ใหญ่หรอกครับ”
.
วงปล่อยอัลบั้มแรกชื่อ You (Are) Mean a Lot to Me แถมเริ่มทัวร์จริงจังได้ด้วยในทันที ทำให้สมาชิกที่เพิ่งเรียนจบ เลือกหันมาทำอาชีพสายดนตรีกับวงได้ทันที
.
รายได้หลักของวงมาจากสตรีมมิงออนไลน์ สารพัดแพลตฟอร์ม ตั้งแต่ YouTube จนถึง Music Streaming โดยเฉพาะ ซึ่งวงมีเพลงอยู่ในระบบผู้ให้บริการรายใหญ่แทบทุกเจ้า
.
“ตอนนี้ Blackbeans ถ้าให้ถัวเฉลี่ยจริง ๆ 3 เดือนเราจะได้ประมาณ 2 ล้านครับ โดยประมาณครับ ก็มันมันโชคดีตรงที่เราไม่ได้ต้องไปแบ่งเงินให้ให้กับค่าย ก็เหมือนเรารับมา 100% เต็มครับ ซึ่งจริง ๆ เราก็เลยตัดสินใจที่จะเปิดบริษัทในนามค่ายเพลง แต่ว่าในบริษัทนั้นมีแค่ Blackbeans วงเดียวก็เหมือนเปิดบริษัท...มาดูแลธุรกิจกันเอง” ทาม ตอบคำถามเรื่องโมเดลธุรกิจของวง
.
แนวคิดการทำงาน
.
ปรากฏการณ์นี้สำหรับบางคนดูจะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่เท่าไหร่นัก ศิลปินต่างประเทศรวมถึงในไทยผ่านจุดนี้มานักต่อนัก แต่น่าสนใจว่า สำหรับวง Blackbeans ที่ทำเพลงป็อปหวาน ๆ เพลงช้าไพเราะฟังง่าย เข้าถึงผู้ฟังที่มีตัวเลือกมากมายในโลกออนไลน์ได้อย่างไร
.
“คิดว่าอย่างแรก เป็นเพลงที่สามารถฟังได้ง่ายแล้วก็เข้าถึงคนส่วนมากได้ครับ อันนี้คือปัจจัยหลักเลยที่เรามองครับ จะพยายามทำเพลงให้มีทั้งหมด 3 รูปแบบคือ หนึ่ง เป็นรูปแบบที่สามารถที่จะทำให้คนเข้าใจได้ง่าย ย่อยง่าย แล้วคนสามารถฟังได้ สอง คือเพลงที่เป็นคัลเลอร์ของวงครับ ที่เราต้องการ Represent (นำเสนอ) ออกไปว่าเราเป็นคนแบบไหน สาม คือเพลงที่ตามใจพวกเราเอง
.
เราพยายามทำสามอย่างนี้ให้อยู่ในในค่าเฉลี่ยเท่า ๆ กันครับ อันนี้คือปัจจัยหลักที่ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ Blackbeans มี” ทาม อธิบายให้เราฟังอีกครั้ง
.
สมาชิกดั้งเดิมของวงเชื่อว่าปัจจัยอีกส่วนคือ พวกเขามีกลุ่มศิลปินรุ่นก่อนหน้านี้ที่ถางทางเอาไว้ให้แล้วด้วย อย่างเช่น Anatomy Rabbit หรือ Sefeplanet สำหรับ Blackbeans พวกเขามองว่า วงมีส่วนโชคดีที่ทำเพลงได้ 5 เพลงก็มีแฟนเพลงชัดเจน ทำให้เข้าใจได้ทั้งอัตลักษณ์ที่เป็นจุดเด่นของวง ควบคู่กับการเจาะตลาด
.
เพลง Wish ตัวจุดระเบิดให้วง
.
ผลงานชิ้นสำคัญที่ทำให้วงก้าวมาถึงจุดนี้ได้ พวกเขาให้เครดิตกับเพลง Wish
.
“...เพลง Wish จริง ๆ เราทำก็เหมือนเดิมเลยครับ คือตอนนั้นเราทำเพลง ก็ทำแบบไม่ได้คาดหวังอะไร เพราะตอนนั้นกลุ่มแฟนเพลงเราก็เป็นกลุ่มเล็ก ๆ เล็กมากครับ เรามีปล่อยเพลง Moon เพลง Dance With Me ไปแล้วซึ่งมีกลุ่มคนฟัง แต่ก็เล็ก ๆ
.
แต่พอเรามาทำเพลง Wish แล้วปล่อยไปเนี่ย มันเป็นอะไรที่เหมือนเดิมครับ ใช้คำเดิมครับ ใช้คำว่าโชคดี โชคดีที่คนมารับฟัง เข้าถึงมัน และชอบมัน เพราะ Wish นี่เป็นเพลงที่เราไม่ได้คาดหวังอะไรกันเลย เราทั้ง 4 คนบางทีเรายังมองว่า เพลงมันยังไม่สุดด้วยในบางที เรายังรู้สึกเซ็ง ๆ ด้วย
.
แต่สุดท้ายมันกลายเป็นเพลงที่เป็นเหมือนเปิดโลกให้เราได้ ก็เป็นจุดเริ่มต้น แล้วมันก็ทำให้ลากไปถึงเพลงเก่า ๆเราอย่างเพลง Moon เพลง Dance With Me มันก็ทำให้เปิดมากขึ้น รวมไปถึงเพลงใหม่ ๆ ที่เราปล่อยไปปุ๊บ พอเรามีเพลง Wish เป็นตัวเปิดปุ๊บ คนรู้จักกันในนามวง เพลงอื่นก็ง่ายยิ่งขึ้น ขอบคุณ Wish ครับ” เกม กล่าวถึงเพลง Wish เพลงฮิตทะลุล้านวิวของวงไร้สังกัดกลุ่มนี้
.
สำหรับแฟนเพลงที่ชื่นชอบเพลง Wish กล่าวได้ว่า เพลงนี้เป็นเพลงป็อปที่ดนตรีสวยหวาน ไพเราะ เมโลดี้ เนื้อร้องค่อนข้างติดหูง่าย สมาชิกวงเล่าว่า เพลงนี้กระจายตัวแบบปากต่อปาก มากกว่าจะมาจากการโปรโมต ทำให้วงพยายามสกัดโมเดลการผลิตมาใช้กับผลงานอื่น แต่สมาชิกวงยอมรับว่า ยังไม่สามารถทำได้อย่างสมบูรณ์
.
ทาม อธิบายแนวคิดการทำเพลง Wish ว่า “ตอนแรกเราตั้งใจว่า เราจะทำให้มันเป็น Shoegaze (แนวดนตรีชนิดหนึ่งที่ออกแบบเสียงให้ความรู้สึกล่องลอย) หรือมีความเป็นล่องลอย จริง ๆ เราไม่ได้คิด แล้วเราไม่มีสไตล์อะไรเลยในหัวครับ ซึ่งมันก็มันปรับไปปรับมาแล้วมันรู้สึกว่าเนี่ย นี่แหละคือ Blackbeans ถ้าเราออกให้มันร้องแบบไม่อยู่ในภวังค์มาก มันก็จะรู้สึกว่ามันขาดอะไรไป เราก็เลยคิดว่าเราจะยึดแบบนี้แหละ มาเป็นแนวทางการทำวงสมัยแรก ๆ ครับ”
.
เนื้อหาของเพลง Wish มาจากปลายปากกาของทาม เขาเล่าว่าเนื้อหาเพลงส่วนใหญ่ของ Blackbeans ไม่ได้มาจากเรื่องจริง อาจแค่ดูหนังเรื่องหนึ่งหรืออ่านหนังสือเรื่องหนึ่ง แล้วรู้สึกว่าอยากจะถ่ายทอดอารมณ์แบบนี้ เราอยากถ่ายทอดวลีแบบนี้ให้คนฟังที่มีประสบการณ์สอดคล้องกับบทเพลงนั้น ให้คนฟังสามารถจินตนาการถึงเรื่องที่ไปเจอมาได้ ให้สอดคล้องกันกับในชีวิตจริงของเขา นี่คือแนวคิดของ Blackbeans ในการแต่งเพลง
.
เพลง Wish คือเพลงเศร้า หรือเพลงรัก?
.
ความนิยมของเพลงนี้ทำให้ผู้ใช้งานในออนไลน์มักหยิบเพลงไปประกอบกับภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ และมักถูกนำไปประกอบกับภาพที่สื่อความรู้สึกสวยงาม จนมีข้อถกเถียงว่า เพลงนี้สื่อถึงอารมณ์เศร้าหรือสวยงามกันแน่ ซึ่งเป็นเสน่ห์อีกอย่างของการตีความศิลปะ สำหรับทาม เขาตอบเลยว่า สำหรับเขาเอง Wish เป็นเพลงเศร้า!
.
“จริง ๆ ก็สอดคล้องกับประสบการณ์ที่เขาไปเจอมา ก็แล้วแต่คนจะตีความว่าเพลงนั้นเป็นแบบไหน ซึ่งเราก็ไม่ได้ไปปิดกั้น ถ้ารู้สึกดี ฟังแล้วมันรู้สึกดี ผมคิดว่าอันนั้นคือสิ่งที่ถูกต้อง แต่เกิดว่า ฟังแล้วรู้สึกว่า โอเค ตัวเองคิดว่ามันเป็นเพลงเพลงรัก หรือว่าคิดว่าเป็นเพลงเศร้า ผมคิดว่าให้เขาตัดสินใจได้เลยครับ”
.
มุมมองจากปากของทาม เกี่ยวกับการสื่อสารจากเพลง Wish
.
“ผมคิดว่าทุกชีวิตของทุกคนมีความเศร้าในใจของทุกคนอยู่แล้ว ไม่ว่าเราจะมีความสุขแค่ไหนก็ตาม แต่สุดท้ายเราก็ต้องเศร้า ผมคิดว่าผมอาจจะเอามาจากตรงนั้นแหละมาเขียนเป็นเพลง หรืออาจจะไปดูหนังสักเรื่องหนึ่งแล้วผมรู้สึกว่า เฮ้ย ท่อนนี้มันรู้สึก มันรู้สึกว่ามันเศร้า ผมอยากเอาไปเขียนเป็นเนื้อเพลงจัง ซึ่งเราก็ทำแบบนั้นนะครับ มาทั้ง 2 อัลบั้มแล้ว”
.
กระแสของเพลง Wish ถางเส้นทางใหม่ให้กับวง ทำให้คนกลับไปฟังเพลงก่อนหน้านี้ด้วย อย่างเพลง Dance With Me
.
ความนิยมของ Wish ไม่ได้นำมาซึ่งเสียงบวกเท่านั้น เมื่อพวกเขาทำอัลบั้มที่ 2 แล้วแตกต่างจากอัลบั้มแรก ทำให้คนฟังตั้งคำถามกับแนวทางของวง เมื่อภาษาของเพลงไม่ได้สวยงามดังเดิม ไม่มีเพลงล่องลอยแล้ว ยอดวิวไม่สอดคล้องกับช่วงพีก แต่เมื่อเวลาผ่านไป วงมองว่า เมื่อคนปรับตัวได้หลังจากผ่านไปแล้วประมาณหนึ่งปี เพลงที่กลับมาแรงอีกครั้งคือเพลง Pink ที่แตกต่างจากตัวตนเดิมของ Blackbeans
.
“ถ้าเกิดว่าเราสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าเพลง Wish จะอยู่ฝั่งซ้ายเลย แต่ว่าเพลง Pink จะอยู่ฝั่งขวา ซึ่งมันแตกต่างกันสิ้นเชิง แต่มันจะมีเอกลักษณ์อะไรบางอย่างของเพลงครับ ที่บอกว่า อ้อ นี่แหละ Blackbeans นี่แหละ ๆ ซึ่งตอนแรกคนก็ยังไม่ได้เปิดใจรับมากครับ แต่ว่าตอนนี้เราก็ทำสำเร็จแล้วในการที่ทำให้คนเปลี่ยนมาฟังเพลงเพลง Pink ได้ และในตอนนี้ผมคิดว่า คนก็มีความเข้าใจใหม่ละว่า โอเค สิ่งเนี้ย Blackbeans ไม่ว่าจะทำเพลงแบบเพลง Wish หรือว่าเราจะทำเพลงแบบเพลง Pink ก็นี่แหละ กลิ่นแบบ Blackbeans ครับ”
.
เพลง Pink ไม่มีข้อถกเถียงอีกแล้วว่าเป็นเพลงเศร้าหรือเพลงรัก เป็นเพลงรักที่น่ารัก ภาษาง่าย ๆ คนจากทุกยุค ทุกแนวฟังได้ง่าย
.
Blackbeans เล่าแนวทางการทำงานของวงที่ดูจะค่อนข้างแตกต่างจากศิลปินรายอื่นอยู่บ้าง Blackbeans สนใจมุ่งทำอัลบั้มตาม concept ที่ออกแบบไว้ และเลือกเพลงจากอัลบั้มมาปล่อยเป็นซิงเกิ้ล ขณะที่ศิลปินอีกกลุ่มหนึ่งมุ่งเน้นทำซิงเกิ้ลเป็นน้ำหนักหลัก
.
Blackbeans เล่าว่าพวกเขาได้รับอิทธิพลจากแนวคิดการทำเพลงของวงฝั่งอังกฤษ พวกเขาชื่นชอบ Coldplay เป็นชีวิตจิตใจ (ลองฟังอัลบั้มหรือเพลย์ลิสต์ที่ Blackbeans สร้างขึ้นให้แฟนเพลงฟังกัน จะพอเห็นภาพ และได้กลิ่น Coldplay โชยมาปะทะอยู่บ้าง)
.
“ผมคิดว่าการทำเป็นอัลบั้มมีมิติกว่าการทำเป็นซิงเกิ้ลแน่นอนครับ แล้วผมคิดว่าบางทีถ้าเกิดว่าเราปล่อยเป็นซิงเกิ้ลไปอย่างนี้ ผมคิดว่าบางทีแฟนเพลงอาจจะเบื่อเราได้เร็วกว่าการที่เรามีอัลบั้ม แล้วตีมาเลยสักอย่างหนึ่งที่เขาสามารถรู้ว่าสิ่งนี้ที่เราทำมันรู้สึกว่ามีมิติมากเลย ทั้งแนวตื้นแนวลึก แล้วมันก็รู้สึกว่า โอเค ควรค่าแก่การฟัง ผมอยากเป็นวงแบบนั้น”
.
สมาชิกวงยังย้ำว่า พวกเขามีแนวคิดสอดคล้องกับศิลปินกลุ่มหนึ่งที่อยากให้แฟนเพลงฟังเพลงตามลำดับในอัลบั้มที่วงเรียงไว้ด้วย!
.
ความท้าทายของโมเดลธุรกิจ
.
หากกล่าวว่าโมเดลของ Blackbeans เป็นโมเดลศิลปินยุคใหม่ในโลกดิจิทัล ในแง่ธุรกิจ และแพลตฟอร์มอาจเป็นไปตามนั้น สำหรับแนวคิดในการทำชิ้นงาน ในด้านหนึ่ง ดูจะมีกลิ่นอายของแนวคิดแบบอุตสาหกรรมดนตรีดั้งเดิม โดยการทำอัลบั้ม เลือกซิงเกิ้ล มากกว่าจะปล่อย MV โดยลงทุนทำเป็นซิงเกิ้ลเดี่ยวแบบเน้น ๆ
.
“ผมคิดว่า อย่างแรก มันไม่ได้ยากเลยครับ ถ้าทำแบบฟอร์มไปแล้ว ผมคิดว่ามันง่ายกว่าการทำเป็นซิงเกิ้ลด้วยซ้ำ แล้วผมคิดว่า ศิลปินหลายท่านก็อยากจะทำโมเดลนี้ แต่บางทีอาจจะติดเงื่อนไขอะไรบางอย่าง
.
ผมคิดว่า ผมทำเนี่ย มันเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด สะดวกที่สุด แล้วก็รวดเร็วที่สุดด้วยซ้ำครับ มันเป็นสิ่งที่ศิลปินควรจะต้องเป็นมาก ใช่ครับ มันก็เลยไม่ได้มีปัญหาว่า เออ มันยากหรือว่ามันง่าย ผมไม่มีครับ ไม่มีเลย แล้วอีกอย่างก็เราโตมาด้วยกันครับ มันก็ทำงาน มันเข้าใจ เข้าขากันมาก มันไม่ได้มีปัญหาอะไร ถ้ามีปัญหา เราก็คุยกันตรงนั้นจบ เป็นลูกผู้ชาย เลยเดินมาเร็ว” ทาม เล่าถึงแนวคิดของเขา
.
โดยรวมแล้ว สิ่งที่ Blackbeans เลือกโมเดลการทำงานของพวกเขาแบบนี้ ดูจะเป็นเรื่องบวก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีข้อเสีย การไม่มีค่ายต้นสังกัด นำมาสู่การทำงานเองและทำงานหนักมากขึ้น
.
“เราต้องทำทั้งหมดเลย แม้ว่าการจัดหารถตู้ เราก็ต้องทำเอง เราไม่มีข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ในการที่เราจะ เบื่อละวันนี้เราเบื่อแล้ว เราอยากเป็นแค่ดนตรีอย่างเดียว เราทำไม่ได้ครับ คือเหมือนกับจริง ๆ Blackbeans ก็มีเขาเรียกว่าทีมงานด้วยครับ อีกประมาณ 10 กว่าชีวิตเหมือนกัน แล้วก็พยายามดูแลเขาให้ดีที่สุด” หากกล่าวโดยง่าย จะเรียกว่าเป็นทีมงานที่เป็นฟรีแลนซ์ (Freelance) หรือกล่าวอีกทางได้ว่า “เป็น Organizer ที่รับแต่วงตัวเอง”
.
“จริง ๆ เราพยายามทำให้โมเดลของเราเป็นฟิลแบบเจนสมัยใหม่ครับ คือการคิดว่า 90-10 อันนี้คือสิ่งที่เราพูดกันเองอยู่สม่ำเสมอ คือเราต้องพยายามทำยังไงก็ได้ให้สตรีมมิ่งของเราเป็นรายได้หลักเป็น Passive Income ให้ได้ถึง 90% แต่อีก 10% คือการที่เราไปทัวร์ตามสถานที่ต่าง ๆ ครับ”
.
ความท้าทายอีกอย่างนอกจากเรื่องบริหารจัดการตัวเอง ทุกคนรู้ดีว่าการพึ่งพารายได้จากแพลตฟอร์มไม่ได้เป็นเรื่องที่มั่งคงเท่าไหร่ Reels ที่โด่งดังสักระยะเรื่องยอดตัวเลขส่วนแบ่งรายได้โฆษณา เป็นตัวอย่างชัดเจนถึงความผันแปรของระบบที่อาจเกิดสิ่งไม่คาดฝันขึ้นได้เสมอ Blackbeans ตระหนักถึงข้อนี้เช่นกัน
.
“คิดว่าอย่างแรก เราก็ต้องตามเทรนด์ให้ทันครับ ว่าตอนเนี้ยโลกไปถึงไหนแล้ว แล้วตอนนี้เรากำลังทำอะไรอยู่ ผมคิดว่า Streaming เดี๋ยว ๆ อีกสักพัก ค่าเงินก็คงจะลดลง ยิ่งมีศิลปินมากขึ้น การที่เขาจ่ายเงินให้เราเท่าเดิม มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
.
ยุคสมัยนี้ การทำเองก็ค่อนข้างง่าย มีคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวก็สามารถทำได้ แล้วก็อาจจะต้องหาวิธีการมี Passive Income แบบอื่นที่เราสามารถใช้ลิขสิทธิ์เพลงของเราในการหาเงินในช่องทางอื่น ๆ ได้ครับ
.
เราไม่ได้ยึดติด แต่ว่าเราต้องตามเทรนด์โลกให้ทัน ถ้าเกิดว่าเทรนด์โลกเขานับหนึ่ง เราต้องนับหนึ่งตามให้ทัน ผมไม่อยากเป็นวงที่เราตามอะไรไม่ทันเลย เราเข้าไป 2 ตลอด ผมอยากเข้าไปที่ 1 ต่อให้ที่ 1 ไอ้ตรงนั้นมันอาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จก็ตาม แต่ว่าถ้าเกิดเราเข้าไปก่อน มันก็มีโอกาส % มากกว่าครับ”
.
Blackbeans เดินทางมาถึงการปล่อย MV เพิ่มเติม มีการเล่าเรื่องที่เพิ่มมาจาก Audio Video ขณะที่ปลายเดือนมิถุนายนปล่อยเพลง Perfect เพลงจากอัลบั้มที่ 3 ของวงมาแล้ว ตอนนี้ทำวิวได้เกือบครึ่งล้านแล้ว
.
ติดตามเส้นทางของวงในบทต่อไป แล้วลองดูว่ายอดตัวเลขต่าง ๆ จะมี Error หรือมีเซอร์ไพรส์ใดให้วงลุ้นกันเหมือนบางแพลตฟอร์มไหม...ถ้ามี พวกเขาจะทำอย่างไร? น่าสนใจนะ
.
เรื่อง: ธนพงศ์ พุทธิวนิช
ภาพ: Blackbeans
.
#ThePeople #Music #ดนตรี #Blackbeans

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=669446628547709&set=a.633364228822616&type=3&mibextid=cr9u03

ของดีย์

ชอบมากเพลง wish

เป็นวงที่ผมว่าอนาคตไกลเลย ทำเพลงดีมากๆ

โอ้วต้องลองหน่อยแล้ว

สุดยอดมาก อ่านแค่หัวข่าวพอแค่นั้น

ร้องเพลงเขาได้ ตามวิทยุชอบเปิด แต่ไม่รู้จักวง รุ้จักจากเพลง Dance With Me

วงนี้เอาที่ชอบก็
About Love
moon
you

ผมรู้จักวง Blackbeans เพราะวงโจรลอยนวลเอามา Cover
หลังจากนั้นก็อุทิตตนให้กับวง Blackbeans มาโดยตลอด แก่แล้วแต่ชอบวงนี้มากกกกกกกกกก

วงนี้เพลงดีจริงๆ ชอบหลายเพลงเลย

เพลงเพราะหลายเพลงเลย ใน spotify ผมมีแต่วงนี้

ของดีครับวงนี้

วงโปรดที่สุดเลย

ร้องได้เกือบทุกเพลงครับ ชอบมากๆ กำลังจะมาจังหวัดที่ผมอยู่ ซื้อบัตรเรียบร้อยย

เพลงดี ที่ วงไม่ค่อยมีอิมเมจใด ๆ แต่ดีทุกเพลงจริงๆ