ฟุตบอลแบบเป๊บ เทนฮาก และโค้ชอีกหลายคน เหตุใดไม่ค่อยให้ปีก วิ่งสุดเส้นแล้วเปิดบอลโด่ง ลุ้นให้กองหน้าโหม่งครับ แต่มักให้เจาะตามช่องมากกว่า เป๊บมักจะให้ปีกเลี้ยงหักเข้าในแล้วแทงต่อให้เพื่อน

เกี่ยวกับถ้าให้ครอสบอลโด่งทุกครั้ง กลัวโดนสวนกลับรึเปล่าครับ ทีมจะรับเหนื่อย หรือตัวอย่างเทนฮากที่มักให้แอนโทนี่ ตัดเข้าในแล้วแทงต่อให้เพื่อน เน้นแทงตามช่อง  หรือว่าส่วนนึงเป็นแท็คติกของปีกสลับฝั่ง

ดันไลน์สูง บอลโยน มันเสียบอลง่าย โยนไห เจอเค้าหนุนออกมา

โดนสวนตูมเดียว เป็นประตู

เปิดให้โหม่ง ต่อให้ครอสแม่นแค่ไหน โอกาสพลาดมันมากกว่าการแทงตามช่อง

เห็นด้วยครับ การโยนบอล ถึงจะเป็นคนแม่นแบบเดอบรอย แต่ก็มี เปอร์เซ็นต์พลาดแน่ๆ บางครั้งเปรียบเสมือนการวัดดวง ซึ่ง perfectionist อย่างเป๊ปไม่ชอบแน่ๆ เพราะฉะนั้นการต่อบอล การลำเลียงบอล เป็นสิ่งที่ชัวร์ที่สุด

ไม่ใช่แต่ทีมเป๊ปแต่ทีมขึงๆ อย่าง น่อล ก็ไม่นิยมโยนบ่อยๆ ในกรณีปืนส่วนหนึ่งมาจากความสามารถเฉพาะนักเตะเองบางคนมีน้อย หมดมุขแก้บอลไม่ได้ตันก็เลือกโยน แต่เป็นไปได้น่อลจะคอร์สบอลเรียดระดับตัว เพราะ สกัดยากและกองหน้าตัวไม่สูง มีเป๊ปก็มีคอร์สบ้างจังหวะที่ชัวจริงๆ

ส่วนเรื่องการการโยน มีผลตามมา คือ ความแน่นอนน้อย เว้นจะมีนักเตะโยนแม่นๆ ซึ่งแม่นจริงๆ
แต่บางจังหวะสามารถเลือกโยนแม่นๆ หรือมีพื้นที่เยอะให้โยนได้ เลือกโยนก็ไม่ผิดแปลก
แต่เวลาขึงเกมรุกการเลือกโยนบ่อยๆ ทำให้เกิดโอกาสเสียบอล เสียการครองบอลสูง ทำให้การขึง และความต่อเนื่องของเกมหายไปแบบไม่ควรเสีย และมีโอกาสโดนสวน ซึ่งส่วนใหญ่จะดันเกมรับขึ้นมาทั้งแผง

ดูลิเวอร์สิ๊โยนๆเค้าได้บอลสวนกลับจ่ายทะลุช่องไอ้ฝั่งไอ้เทร้นหลุดไปดวลพ่อหมีออกจะบ่อย

มีแค่ อัลเวส แหละมั้ง ที่โยน

คือ แทคติกของฟุตบอลมั้งฮะ สมัยนี้แทบไม่มีปีก(Winger)แบบสมัยก่อนแล้ว เช่น R.Giggs D.Beckham ที่จะเปิดจากริมเส้นเข้าให้กองหน้าโหม่งทำประตูโดยตรง

ปีกสมัยนี้(ขอเรียกตามเกมFMละกันนะฮะ) คือปีกแนวInside Forward เป็นปีกกึ่งกองหน้า ที่ชอบเลี้ยงจี้จากริมเส้นแล้วล็อคตัดเข้าในสนาม จะยิง/เปิดแล้วแต่แทคติก

ง่ายๆคือ ปีกสมัยก่อนจะยืนตำแหน่งตรงกับเท้าที่ถนัด ส่วนปีกสมัยนี้จะยืนตำแหน่งตรงข้ามเท้าที่ไม่ถนัด

แล้วแทคติกฟุตบอลยุคนี้ ส่วนมากใช้แบ๊คซ้าย/ขวาเปิดบอลจากริมเส้นมากกว่า เช่น TAA J.Cancelo R.James K.Trippier

ส่วนปีกInside Forwardจะเน้นเลี้ยงตัดเข้าในแล้วยิงทำประตูมากกว่า เช่น M.Salah B.Saka M.Rashford



สรุปแล้ว แทคติกการโจมตีมันหลากหลายกว่าแหละฮะ

ปีกที่โยนบอล มันมองได้สองทางคือ นักเตะจะไม่รู้ว่าบอลจะไปอยู่ตรงไหนยามที่ครอสออกไปแล้วโดนสกัด

แทคติกของเป๊ปคือการโอเวอร์โหลดผู้เล่นเข้าพื้นที่นั้นๆมากกว่าคู่แข่ง

เวลาบอลจังหวะสอง จะมีผู้เล่นซิตี้ยืนอยู่เต็มไปหมด นั้นเป็นสาเหตุที่ซิตี้มักใช้วิธี พาบอลไปสุดเส้นหลังแล้วตวัดกลับเข้ามากลางมากกว่า วิถีบอลที่เคลียร์ทิ้งจะเป็นบอลออกข้าง ไม่ก็ล้นไปเสาไกล

แทคติกฟุตบอลของเป๊ปคือการ สร้างผลลัพท์ที่ต้องการ

มันคล้ายกับที่ลิเวอร์พูลเล่นช่วงฟิตๆ ที่ยามเสียบอล บรรดาตัวรุกจะเข้าไปรุมอย่างหนักหน่วง ทำให้คู่แข่งต้องเคลียร์ทิ้ง แล้วบอลที่เคลียร์ทิ้งก็ใช้กองหลังที่มีความเร็วตามเก็บบอล

เพียงแต่แผนกำหนดผลลัพท์ของเป๊ปนั้นเฟอร์เฟคกว่ามาก โจมตีด้วยรูปแบบที่ยากจะป้องกัน และยังกำหนดผลลัพท์ที่เป็นไปได้ของบอลจังหวะสองด้วย

ถ้ามองอีกมุมนึง คือ ปีกลักษณะ เบคแฮมมันหมดยุคแล้วใช่ไหมครับ แลัวผมอยากปรึกษาพี่ครับ ถ้า แบบอยากจะเอาปีกสไตล์สมัยก่อนมา ทีมต้องเล่นแบบไหนหรอครับ และคิดว่าจะมีโอกาสชนะฟุตบอลสมัยใหม่ได้ไหมครับ หรือว่าโดน disrupt ไปโดยปริยายแล้ว

แบบเบ็คแฮมก็กลายเป็นแบ็คแทนไง ไม่ก็พวกมิดฟิลด์

ในมุมของ Pep
การเปิดโขก = การเปิดโอกาสให้ขู่แข่ง rebound กลับมา counter attack

ทีมควรเน้นครองบอล ต่อบอลเท้าต่อเท้า เจาะคู่แข่งตามช่อง บุกเป็นกลุ่ม รับเป็นกลุ่ม และมือเสียบอล ให้ทั้งทีมช่วยกัน pressing เอาบอลกลับมา

นั่นคือปรัชญาของ Total football

แล้วแต่แทคติกฮะ ผมก็ไม่ได้มีความรู้เยอะเรื่องพวกนี้

แต่เท่าที่เห็น ทีมที่ใช้ปีกครอสบอลแบบสมัยก่อนก็เบิร์นลีย์ยุคฌอน ไดซ์ ที่มีเวกฮอร์สยืนหน้าเป้า ส่วนผลงานก็ตามที่เห็นฮะ

ถามว่าหมดยุคมั้ย ก็ไม่ใช่ซะทีเดียวฮะ แต่แทคติกนี้โค๊ชใช้จะน้อยถึงน้อยมากๆฮะ

เป็นเรื่องของความสุนทรีย์ในเรื่องการดูฟุตบอลด้วยไหมครับ ทุกวันนี้ เทรนด์การดูบอล แฟนบอลชอบดูการเคาะบอลสวยๆ ทำจังหวะ 1-2 มากกว่าการบอมบ์เข้าไปอย่างเดียว ทำให้ การบอมบ์ จะเลือกเป็นเคสฉุกเฉิน เมื่อจำเป็นต้องการประตู หรือ ตามอยู่ตอนใกล้หมดเวลาแล้ว

ก็แล้วแต่บุคคลฮะ เคสการโยนบอลแหลกผมมองว่าเป็นงานฉุกเฉินตอนทีมต้องการประตู(ไม่ว่าจะเพื่อตีเสมอหรือเพื่อชนะ) ทีมต้องทำทุกอย่างเพื่อให้บอลเข้าไปอยู่ฝั่งตรงข้ามให้มากที่สุดฮะ อันนี้คหสต.นะฮะ